มด รักไม่ยุ่ง มุ่งเอนทรานซ์

แจ้งเกิดมาจากการเป็นคู่ดูโอ โฟร์-มด

จนดังระเบิดไปทั้งเมือง มาถึงวันนี้ดูโอคู่นี้โตเป็นสาวสะพรั่ง โดยเฉพาะ สาวมด-    ชุติมณฑน์ ชัยรัตน์ ที่ตอนนี้ตกเป็นข่าวกุ๊กกิ๊กกับ โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายอดีตนายกฯ วันนี้ “ดาวต่างมุม” เลยขอสัมภาษณ์เปิดใจหนูมดกันอย่างใกล้ชิดว่าชีวิตช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง   
  

ทุกวันนี้เป็นโฟร์-มดมากี่ปีแล้ว
 
เป็นนักร้องมา 3 ปีแล้วค่ะ รู้สึกว่านานมาก ตั้งแต่ที่มดเข้าวงการมา รู้สึกว่าสิ่งที่มดคิดว่าพัฒนาอันดับแรกเลยคงจะเป็นเรื่องของนิสัย ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น รู้จักตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบ รู้จักการแบ่งเวลา เพราะว่ามดต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ยอมรับเลยว่าหนักมากสำหรับเด็กอายุ 16 นะ เพราะว่าเราต้องเจอปัญหาอะไรหลาย ๆ อย่างระหว่างการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการพูดสคริปต์บน เวที อย่างครั้งแรก ๆ เราไม่เคยทำมันก็ต้องมีปัญหาบ้าง แต่พอทำไปเรื่อย ๆ มันก็เริ่มดีขึ้น ส่วนเรื่องการเรียนเราก็ต้องตามงานเพื่อน โดยเฉพาะช่วงสอบนี่ค่อนข้างที่จะหนัก เพราะต้องอ่านหนังสือด้วย


แล้วผลการเรียนล่ะเป็นอย่างไรบ้าง

 
ก็อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ ไม่ใช่ว่าเรามาทำงานในวงการแล้วเราจะทิ้งการเรียน เราก็ทำให้ดีทั้งสองด้าน เพราะอยู่ในวงการมันไม่ได้อยู่ไปชั่วชีวิตหรอก มันเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง



กับโฟร์เคยมีทะเลาะกันบ้างไหม
 
มันก็ต้องมีบ้างกับคนที่เพิ่งจะมารู้จักกัน มันก็ไม่ได้เชิงแบบว่าทะเลาะตีกันนะ แค่ยังไม่เข้าใจกันเท่านั้นเอง แต่พอเรารู้จักกันมาเรื่อย ๆ คบกันมา 3 ปีแล้ว ตอนนี้เราเข้าใจอะไรกันเยอะแล้ว แค่มองตาก็รู้แล้วว่าคิดอะไรกันอยู่ เพราะว่าเราสนิทกันมาก พี่โฟร์เขาเป็นผู้ใหญ่ มดได้อะไรจากเขาเยอะ เวลามดทำอะไรในสิ่งที่มันไม่ควร พี่โฟร์เขาก็จะเตือนมด มดไม่ได้รู้สึกว่าเราต้องแข่งกัน ไม่คิดเลยด้วยซ้ำ มีความรู้สึกว่าเขาเป็น     พี่สาวเรา มดก็เป็นน้องสาว เวลาจะทำอะไรก็ไปด้วยกัน ทำงานก็ทำด้วยกัน


เคยคิดจะออกอัลบั้ม เดี่ยวบ้างไหม

 
ยังไม่คิดเลย ไม่ใช่ไม่กล้าคิด แต่รู้สึกว่าคิดไปก็ปวดหัว เพราะตอนนี้ก็มีเรื่องให้ปวดหัวอยู่แล้วทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียน ตอนนี้ก็ต้องคิดเรื่องเอนท์ อีกว่าจะไปเรียนที่ไหน


วางอนาคตเรื่องการเรียนไว้อย่างไร

 
ตอนนี้ก็เรียนอยู่ ม.5 รร.โยธินบูรณะ ปีหน้ากลางปีก็เตรียมเอนท์แล้ว วางไว้ว่าตอนนี้ขอให้เรียนจบก่อน อยากเอนท์ให้ได้ที่สุด ทุกวันนี้กลับบ้านไปเปิดโน้ตบุ๊ก นั่งค้นหาข้อมูลว่าหนูจะไปเรียนที่ไหน เพราะมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซีเรียสด้วย แต่ก็ไม่ได้กดดันตัวเอง ถือว่าเราทำให้ดีที่สุดแค่นั้นเอง มดคิดว่าจะเข้านิเทศอินเตอร์ จุฬาฯ คงต้องหนักนิดนึง เพราะต้องสอบหลายตัว เครียดเลย ต้องไปขอคำแนะนำจากรุ่นพี่ ไปนั่งดูแล้วคิดว่าจะทำได้ไหม มันยากมาก ต้องเตรียมตัวเป็นปี ตอนนี้ก็เริ่มเตรียมตัวแล้ว ก็หาที่เรียนพิเศษเพิ่ม


ดูคาดหวังกับการเอนท์มาก
 
คิดอย่างเดียวว่าเราต้องเอนท์ให้ได้ มันไม่ได้กดดันตัวเองนะ แต่เราต้องทำให้ได้เพื่อคุณพ่อคุณแม่ด้วย คุณพ่อคุณแม่ก็บอกว่าแล้วแต่เธอแล้วกัน เพราะเราโตแล้วจะทำอะไรก็ระวังแล้วกัน เราทำงานมากี่ปีแล้ว เราต้องรู้ตัวเราเอง


รู้สึกว่าเราเป็นผู้ใหญ่กว่าเพื่อนในวัยเดียวกันไหม

 
ด้วยวัยวุฒิเราก็เป็นเด็กเหมือนกัน ก็ยอมรับว่าเราเด็กนะ แต่ในเรื่องการงานเราก็ต้องทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่



ทุกวันนี้โตเป็นสาวขึ้น ก็มีข่าวกับผู้ชายเยอะ
 
ถึงจะมีคนมาจีบยังไง หนูก็ไม่รับว่าเป็นแฟนหรือเป็นคนรู้ใจ หนูยังไม่คิดที่จะรับเรื่องนั้นเลย เพราะมีเรื่องแค่นี้ก็ปวดหัวพอแล้ว ถ้าไปรับเอาเรื่องนี้มาเข้าสมองอีกเราก็คงตายแน่ ๆ


ล่าสุดก็ยังเป็นข่าวกับ โอ๊ค (พานทองแท้ ชินวัตร) จนได้
 
มันไม่ได้เป็นยังไง มดกับพี่เขารู้จักกันในฐานะคนรู้จักมดก็ได้บอกพี่นักข่าวไปหมดแล้วว่ามันเป็นอย่างไรมดขอพูดว่ามดกับพี่โอ๊คเป็นแค่คนรู้จักกันไม่มีทางพัฒนาแน่ๆนอกจากวันที่ไปทานข้าวด้วยกันก็ไม่ได้เจอพี่เขาเลยมีแต่เจอตามงาน นานๆกว่ามดจะออกงานใหญ่ซักที มันก็นานมากนะเจอกันก็ไม่ได้คุยกันเลย


ขอย้อนถามนิดหนึ่งว่ารู้จักกันได้ยังไง

 
 ขอเล่าตั้งแต่ต้นเลยนะ มดไปออกรายการของฮาวคัมหลายรายการ แล้วมดก็รู้จักพี่น้ำนิ่งแต่ก่อนรู้จักพี่น้ำนิ่ง (ไอย คุปต์ กฤตบุญญาลัย) ก็รู้จักกับพี่ฝน (วิรุฬกานต์กฤตบุญญาลัย) ก่อน เพราะเขาเป็นศิลปินในค่าย มันก็เลยโยงไปรู้จักกับพี่โอ๊ค เพราะพี่โอ๊คเขาเป็นเพื่อนสนิทกับพี่น้ำนิ่งก็แค่นั้น ก็รู้สึกเฉย ๆ นะ ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับเขาเลยด้วยซ้ำ


ทุกวันนี้ยังมีติดต่อกันไหม

      
ไม่มี ไม่ได้คุย และอีกอย่างงานยุ่งด้วย ทำงานทุกวัน เดี๋ยวก็ไปจังหวัดนี้ อย่างเมื่อลอยกระทงก็ไปชัยภูมิกลับถึงกรุงเทพฯตอน 6 โมงเช้า หนูยังไม่มีเวลาพักเลยหนูจะเอาเวลาไหนไปคุยโทรศัพท์อีก


มีใครมาจีบบ้างไหม

 
ตอนนี้นะไม่มี ที่มีก็มีแค่เพื่อนในแก๊ง ที่โทรฯ มาบอกว่าเป็นไงบ้างทำงานอยู่รึเปล่า มีงานนะ อาจารย์สั่งงาน ซึ่งมีแค่นี้ เป็นเพื่อนเรียนมากกว่า


มีตั้งสเปกไว้ไหม
 
ไม่เอาอะไรมากขออย่างเดียวเข้าใจเราก็พอแล้ว เพราะบางทีโทรฯ มาเราอาจไม่ได้รับโทรศัพท์ หรือบางทีเราก็ติดงาน อยากให้เข้าใจตรงนี้ว่ามดเป็นคนของประชาชนนะ ต้องเข้าใจนิดนึงเวลาเราจะไปไหนมาไหนยังไง ทำอะไรก็เดี๋ยวเป็นข่าว ก็อยากให้คนรู้ใจเราเข้าใจเราแค่นั้นพอ เพราะเคยมีคนมาจีบเราแล้วตื๊อมาก ๆ เราก็แบบว่าไม่เอาแล้ว ในความรู้สึกนะมันไม่สำคัญหรอกว่าจะต้องอยู่ในวงการหรือนอกวงการแค่เข้าใจเราก็พอแล้ว มดไม่สนด้วยว่าจะจนหรือจะรวย มดคุยหมดทุกคน แต่ตอนนี้อายุมดยังไม่เหมาะกับการมีแฟน คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้ห้ามเรื่องมีแฟน แต่แม่เขาก็พูดกับมดตรง ๆ นะ ว่าลูกน่ะจะเอนท์แล้วนะ คิดเอาเอง แม่เขาพูดแค่นี้ พ่อก็บอกให้คิดเอาเอง



มดถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร
 
ถูกเลี้ยงแบบไม่ได้ปล่อย คือไม่ได้บอกว่าให้เป็นนกเหินบินอะไร ก็มีกรอบว่าควรจะแค่ไหนอะไรยังไง ไม่ได้ล่ามโซ่เอาไว้ ไม่ได้ปล่อยไปตามใจชอบ แต่เพียงแค่ให้ตัวเรารู้ว่าเราควรจะอยู่ตรงไหน มดมีอะไรมดบอกแม่หมด ไม่ว่าใครจะโทรฯ มาจีบ เพราะมดคิดว่าแม่เขาเป็นผู้ใหญ่ เขาอาบน้ำร้อนมาก่อนเรา มดยังเด็กมดไม่ทันความคิดคนแก่หรอก มดอยากจะบอกว่าคนที่รู้ใจเราและห่วงใยเรามากที่สุดก็คือคนที่ให้กำเนิดเรามา เขารู้หมดว่าเราคิดอะไร ทำอะไรเขาก็รู้ ว่าเราอยากจะได้แบบไหน อยากจะไปไหน เพียงแต่เขาไม่ได้พูดเท่านั้นเอง ก็อยากจะให้เข้าใจนิดนึงว่าเวลาท่านบ่น แล้วเรารำคาญใส่จริง ๆ แล้ว เขาก็แค่เป็นห่วง ที่บ้าน   มดคุณแม่ดุนะ คือเขาจะเป็นคนที่เวลาใจดีก็ใจดีมาก แต่เวลาที่เขาดุเขา  ก็ดุนะ

ทุกวันนี้การเป็นโฟร์-มด ทำให้วิถีการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไปไหม
 
ทุกวันนี้อาจจะรู้สึกอึดอัดนิดนึง เพราะหลังจากที่เป็นข่าวก็มีคนตามมาหน้าบ้าน มีคนตามมาถ่ายรูปเวลามดไปไหนมาไหน ก็รู้สึกว่าอึดอัดนะว่าจะนั่งกับใครก็เป็นข่าวได้หมดแล้ว รู้ตัวเลยว่าต้องเป็นปาปารัซซี เพราะหลังจากที่เป็นข่าวก็รู้เลยว่าต้องใช่แน่ ๆ

แล้วมีวิธีการแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไรบ้าง
 
ก็อยู่นิ่ง ๆ เฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร หนูเข้าใจว่ามันเป็นอาชีพเขา เราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเราต้องทำงานอีก เพราะ เราอยู่ตรงจุดนี้เราเหมือนโดนสปอตไลต์ส่อง เราก็ต้องทำตัวให้นิ่งที่สุด ทำตามหน้าที่แค่นี้ก็พอ ทำงาน เรียนเสร็จก็กลับบ้าน

ดีใจหรือเสียใจล่ะที่มีวันนี้
   
ข้อดีคือ 1.มีคนรู้จักเราเยอะ 2.มีความรู้สึกว่าพอมาทำงานตรงนี้เราโตขึ้น ได้ทำในสิ่งที่ไม่รู้มาก่อนได้เรียนรู้อะไรที่เด็กอายุ 16 นักเรียนทั่วไปไม่รู้กัน แต่ข้อเสียจะทำยังไงให้คนเขามองเราในแง่ดี เพียงแค่ว่าเราต้องวางตัวให้ดีแค่นั้นเอง ถ้าเราทำตัวแย่คนเขาจะมองเราไม่ดี เพราะเราเป็นคนของประชาชน ก็รู้สึกดีที่มีคนเขามองเราเป็นแบบอย่าง เพราะฉะนั้นเราต้องทำตัวปกติของเรา เพียงแค่ว่าเราจะทำดีแค่ไหนเท่านั้น

ช่วยบอกหน่อยตัวตนที่แท้จริงของมดเป็นคนแบบไหน
    
เอ๋อ ขี้ลืม เซ่อซ่า เป็นคนแบบนี้เลย เป็นคนตรง ๆ บางทีคนก็อาจจะคิดว่าเป็นเด็กไม่มีสัมมาคารวะ เพราะฉะนั้นเวลาอยู่ต่อหน้าสาธารณชนก็พูดตรง แต่จะไม่แรง ออกแนวตรงแต่จริงใจ
 
แหม...อย่างนี้เข้าข่ายรักไม่ยุ่ง มุ่งเอนทรานซ์จริง ๆ เอาเป็นว่าไขข้อข้องใจกันไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ไอ้ที่ข้องใจก็คือ เมื่อไหร่มีหนุ่มรู้ใจเป็นตัวเป็นตนก็อย่าลืมบอกกันบ้างนะ อิอิ



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์