บ๊วย-เอ๋ปรึกษาทนายก่อนยื่นอุทธรณ์

ศาลสั่งจำคุก“บ๊วย-เอ๋”สองพิธีกรรายการคันปากคุก 3 เดือน ปรับ 3 หมื่น หมิ่น “ ไผ่ วันพ้อยท์ ” ขณะที่อ้างพูดตามสคริป ศาลปรานีลดเหลือจำคุก 2 เดือน ปรับ 2 หมื่น ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี สองพิธีกรออกตัว ต้องปรึกษาทนาย-ผู้บริหารช่อง 7 ก่อนยื่นอุทธรณ์


(25ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ. 1888/2552 ที่นาย ไผ่ ลิกค์ นักแข่งรถยนต์ชื่อดังกลุ่ม “วันพ้อยท์” และผู้ช่วยอดีตส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นลูกชายนายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตรมช.มหาดไทยและอดีตส.ส.กำ แพงเพชร มอบอำนาจให้ นาย ยุฌธณา ณ ชนก ตระกูลสม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเชษฐวุฒิ หรือ บ๊วย วัชรคุณ และน.ส.พรทิพย์ หรือ เอ๋ วงศ์กิจจานนท์ สองผู้ดำเนินรายการ “ คันปาก ” ออกอากาศทุกเช้าวันจันทร์ - ศุกร์ ทางโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เป็นจำเลยที่ 1- 2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 22 และ 27 พ.ค.52 ที่ผ่านมา สองผู้ดำเนินรายการ กล่าวในรายการว่า ดาราสาว หยาดทิพย์ ราชปาล หนีมาอยู่กับโจทก์เพื่อเสพยาเสพติด จนมารดาต้องออกตามหา

โดยจำเลยทั้งสองนำสืบว่า ทำหน้าที่เป็นพิธีกรในรายการ “ คันปาก ” จริงได้พูดไปตามสคริป ที่ทำรายการจัดเตรียมมา โดยการรายงานข่าวเป็นไปตามที่มีข่าวไม่ได้มีการเติมแต่ง และได้เปิดโอกาสให้น.ส.หยาดทิพย์ ได้พูดข้อเท็จจริงของข่าวดังกล่าวด้วย

อีกทั้งจำเลยไม่เคยรู้จักกับโจทก์มาก่อน ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน ที่โจทก์ - จำเลย นำสืบแล้วเห็นว่า โจทก์เบิกความว่า เป็นสมาชิกวันพ้อยท์ เกี่ยวกับการแข่งรถ เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ขณะที่จำเลยไม่ได้โต้แย้งประเด็นดังกล่าว เพียงแต่จำเลยไม่ทราบว่า ไผ่ วันพ้อย์ท คือใคร แม้คำว่า “ อัพยา ” จะไม่ได้บัญญัติไว้ในพจนานุกรม แต่คนทั่วไปก็เข้าใจได้ว่า เป็นการเสพยาเสพติด ดังนั้นการที่จำเลยทั้งสองพูดข้อความดังกล่าว แม้ว่าจะอ้างว่าพูดไปตามสคริป และไม่มีเจตนาแต่การพูดของจำเลยทั้งสองเป็นการออกอากาศทางโทรทัศน์ที่เผยแพร่ไปทั่วประเทศ จำเลยทั้งสองย่อมเล็งเห็นผลได้แล้วว่าโจทก์จะได้รับความเสียหายอย่างไร



การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา แต่ที่โจทก์ได้ขอให้เผยแพร่คำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์นั้น

เห็นว่าจำเลยทั้งสองเป็นเพียงพิธีกรพูดไปตามสคริป และการกระทำผิดไม่ได้เผยแพร่ผ่านหนังสือพิมพ์ การให้ลงคำโฆษณาตามหนังสือพิมพ์นั้นจึงไม่เหมาะสมตามพฤติการณ์ จึงพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามมาตรา 328 ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาให้จำคุก 3 เดือน ปรับ 30,000 บาท แต่คำเบิกความของจำเลยทั้งสองมีประโยชน์แก่การพิจารณา เห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก จำเลยทั้งสองไว้คนละ 2 เดือน ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี

ภายหลัง บ๊วย - เชษฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกโอเคมาก ขณะที่ยังมีสิทธิ์สู้คดีในชั้นอุทธรณ์ แต่ทั้งนี้ต้องกลับไปปรึกษาทนายความ และผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ก่อน

เมื่อถามว่า ต่อไปต้องระวังคำพูดในการจัดรายการ หรือไม่อย่างไร บ๊วย - เชษฐวุฒิ กล่าวว่า ปกติก่อนจัดรายการ ต้องระมัดระวังเรื่องสคริปอยู่แล้ว ขณะที่ เอ๋ - พรทิพย์ กล่าวเสริมว่า พวกตนทำหน้าที่ตามปกติไม่ได้ใส่ร้ายใคร วัตถุประสงค์ของรายการคือเพื่อความบันเทิงในยามเช้ามากกว่า ส่วนคดีแพ่งที่ถูกฟ้องเรียกละเมิด 50 ล้านบาทนั้น ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สีเป็นผู้ดูแลให้อยู่


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์