“กิ๊บซี่”ยัน“ระฟ้า”แค่เพื่อนไม่พัฒนา“แฟน”

ความแรงของละคร “มงกุฏดอกส้ม” และ “ดอกส้มสีทอง” ส่งผลให้นักแสดงแจ้งเกิดหลายต่อหลายคน

ทั้งตัวแม่ของเรื่อง “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ที่ตั้งแต่ข้ามช่องมาอยู่ที่ช่อง 3 ก็มีละครหลายเรื่อง แต่ไม่เปรี้ยงปร้างเท่าเรื่อง ดอกส้มสีทอง หรือแม้แต่พระเอก “อั๋น-วิทยา” ก็โด่งพีคสุดๆ ในเรื่องนี้เหมือนกัน และคงไม่มีใครปฏิเสธถึงความแรงของ “คุณนายที่ 4” อย่างนักร้องสาวสุดเซ็กซี่ “กิ๊บซี่-วนิดา เติมธนาภรณ์” ที่มาจับงานแสดงละครก็เปรี้ยงทันตา

ซึ่งกิ๊บซี่เผยว่า

“ฟีดแบคละคร “มงกุฎดอกส้ม” ที่จบไปรู้สึกพอใจมากๆ มีคนชมเยอะ ได้แฟนคลับเพิ่ม และมีงานเพิ่มขึ้นด้วย ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง สำหรับบทที่ได้รับในเรื่องถือเป็นอะไรที่ยากที่สุดเท่าที่เคยแสดงมาแล้ว เพราะต้องใช้พลัง และจำรายละเอียดเยอะมาก กว่าจะถ่ายทำเสร็จค่อนข้างลำบากพอสมควร แต่พอถ่ายเสร็จทุกคนต่างดีใจ ปรบมือให้ บอกว่าเก่งมาก นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว เพราะเรายังใหม่สำหรับตรงนี้ และต้องแสดงกับดารารุ่นพี่หลายคน 

ตอนแรกๆ มีกังวลกลัวว่าจะทำไม่ได้ หรือทำได้ออกมาไม่ดี

แต่เวลาเข้าฉากพี่ๆ เขาก็ไม่ได้กดดันเรา หรือทำให้เรารู้สึกแบบนั้น ทุกคนสบายๆ น่ารัก เป็นกันเองมาก เวลาเราเล่นผิด ก็ไม่มีใครว่า ทุกคนพร้อมให้โอกาสเราตลอด เราจึงตั้งใจทำเต็มที่มาก พยายามไม่เป็นตัวถ่วงของคนอื่นด้วย ส่วนเรื่อง “ดอกส้มสีทอง” กิ๊บได้มาเล่นรับเชิญประมาณ 8 ตอน เวลาเขาพูดถึงส่วนของมงกุฎดอกส้ม ก็จะมาฉายภาพให้เห็นเราบ้าง แต่ไม่มาก เพราะบทของเรามันได้จบไปแล้ว แต่เราก็ยังเต็มที่กับบทนี้เหมือนเดิมค่ะ

และตอนนี้กิ๊บก็มีหนังเรื่อง “สมอลล์รู กูแนว” เป็นหนังคอมเมดี้ของพี่พจน์ อานนท์

เนื้อเรื่องประมาณว่า พระเอกซึ่งเป็นนักดนตรีที่ไม่ดังแล้ว ต้องมาสานต่อกิจการร้านเบเกอรี่ที่พ่อได้ทิ้งไว้ให้ แล้วได้มาเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นกิ๊บเอง แล้วเกิดอาการปิ๊ง ทำให้มีกำลังใจอยากจะทำทั้งเบเกอรี่และเล่นดนตรี แต่สุดท้ายแล้วเนื้อเรื่องจะลงเอยยังไง ต้องไปดูกัน ส่วนตัวกิ๊บเองสำหรับหนังแนวนี้รู้สึกว่าเล่นง่ายกว่าบทดราม่าเยอะ เพราะไม่ต้องใช้อารมณ์เท่าไหร่ และไม่มีอะไรเครียด หรือต้องจริงจังมากนัก จะเป็นอารมณ์แบบชิลๆ ตลกเฮฮามากกว่า

สำหรับเรื่องความรัก ตอนนี้ยังไม่มีแฟน

เพราะรู้สึกว่าเวลาที่จะดูแลตัวเองก็ยังไม่มีเลย ทุกวันนี้ก็ทำงานตลอด แทบไม่ค่อยได้เจอใคร หรือพูดคุยกับใครจริงๆ จังๆ และไม่ได้มองใครไว้ด้วย เพราะกิ๊บเป็นคนที่ไม่ค่อยไปไหน ถ้าไปก็ไปเจอเพื่อน ไปนั่งคุยยกันมากกว่า และกิ๊บไม่ค่อยชอบคุยกับคนแปลกหน้า ต้องรู้จักกันก่อน หรือเป็นเพื่อนของเพื่อนแบบนี้ถึงจะคุย

ส่วนข่าวกับ ระฟ้า (ระฟ้า ดำรงชัยธรรม) ก็ไม่มีอะไร ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเป็นเพื่อนกัน

ยังไม่ได้พัฒนาเป็นอย่างอื่น คือเรารู้สึกว่าเป็นเพื่อนกัน คบกันแบบเพื่อนดีกว่า แต่ถ้าในอนาคตจะเป็นยังไง เราก็ยังตอบไม่ได้ จริงๆ เรารู้จักกันมานานแล้ว ถ้าเขาจะจีบหรือพัฒนามันคงพัฒนาไปตั้งนานแล้ว กิ๊บเชื่อว่าชีวิตนี้ถ้าคนเราจะเจอก็เจอ ไม่เจอก็ไม่เจอ กิ๊บชิลมาก ไม่เหมือนบางคนที่คิดว่าอายุเท่านี้แล้ว ต้องแต่งงานได้แล้ว จึงีบไขว่คว้าเอาใครก็ได้ เพื่อให้มาอยู่กับเรา แบบนี้ไม่ไหวเหมือนกัน เพราะสำหรับกิ๊บถ้าไม่ใช่ไม่ชอบจริงๆ กิ๊บคิดว่าการแต่งงานก็คงไม่มีความหมายค่ะ

เมื่อก่อนคิดว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามเหมือนในนิยาย มีเจ้าชายและเจ้าหญิง แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่

ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ มีความสุขได้ ความทุกข์ก็ต้องมีได้ ไม่มีทางที่จะมีความสุขทุกวัน และไม่มีทางที่เราจะมีความทุกข์อยู่อย่างนั้นทุกวัน เพราะฉะนั้นตอนนี้ความรักจึงไม่ได้เป็นสิ่งที่สวยงามตลอด ต่มีทั้งสุขและทุกข์ เป็นรสชาติของชีวิตอย่างหนึ่ง และทุกคนต้องมีมุมที่ดีและไม่ดี เวลาอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีใครไม่มีปัญหา สิ่งสำคัญในการคบกัน กิ๊บคิดว่าความซื่อสัตย์สำคัญที่สุด เพราะถ้าเราไม่มีข้อนี้อย่าคบกันเลยดีกว่าค่ะ” กิ๊บซี่กล่าว