ไม่สร้างสรรค์ยังทำลาย โจรขโมยสมบัติชาติ!

เดี๋ยวนี้ไม่รู้จิตใจคนเราทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้ขยันสร้างบาปกันนักหนา

ทีเรื่องดี ๆ ล่ะไม่เห็นคิดจะทำกัน นอกจากจะขยันขโมยทรัพย์สินของชาติ อย่างที่เราเคยเห็น ๆ กัน เช่น ขโมยน็อตจากเสาไฟฟ้า ทำเอาเสาไฟพังครืนลงมา หรือบางทีก็ขโมยสายไฟบนถนนหนทางต่าง ๆ บ้าง แต่ล่าสุดโจรห้าร้อยอาจหาญถึงขั้นขโมยสมบัติเก่าแก่ของชาติ ได้แก่ ปี่พระอภัยมณี นั่นเอง เห็นแล้วก็อดสลดหดหู่ใจไม่ได้ นอกจากจะไม่มีเงินแล้ว โจรพวกนี้ยังไม่มีสมองอีกต่างหาก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้อยากให้มีการเพิ่มมาตรการลงโทษ เอาผิดคนพวกนี้ให้หนักจะได้หลาบจำ เอ้า!เราไปฟังความเห็นเหล่าคนดังดีกว่าว่าเขารู้สึกอย่างไรกับการกระทำของคนเหล่านี้

เริ่มกันที่ โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ กล่าวว่า

“อย่ามาโทษเรื่องเศรษฐกิจ ปอล์ว่ามันคือความเห็นแก่ตัวของคน ๆ นั้นมากกว่า คนอื่นเขาก็ลำบากเหมือนกันเขายังทำมาหากินแบบสุจริตกันได้เลย ในขณะที่ขโมยเหล่านั้นต้องการที่จะทำให้ตัวเองสบายโดยที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย อย่างเรื่องขโมยปี่พระอภัยมณี คุณเอาสมบัติของชาติไปแลกกับเงินไม่เท่าไหร่ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจิตใจของหัวขโมยพวกนั้นทำด้วยอะไร การกระทำของพวกคุณมันทำให้เห็นถึงความเสื่อมเสียในจิตใจคน ไม่มีเงินแล้วทำไมไม่รู้จักทำมาหากิน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเหล่านั้นเขาจะรู้ตัวมั้ยว่ามันสร้างความเสียหายให้แก่คนอีกหลายคนมากแค่ไหน”

ฟาก อู-ภาณุ สุวรรณโณ เผยว่า

“ก็ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ผมรู้สึกว่าคนพวกนั้นเขาคิดถึงแต่ตัวเอง ไม่คิดถึงคนอื่นว่าสิ่งที่เขาทำลงไปจะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนหมู่มาก สิ่งที่คุณขโมยไปมันเป็นของส่วนรวมนะ มันสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นเป็นอย่างมาก อย่าง สายไฟตามทางหลวง พอคุณขโมยไปมันก็ทำให้ไฟดับทำให้คนใช้รถใช้ถนนลำบากนะ หรืออย่างเรื่องขโมยน็อตเสาไฟก็เหมือนกัน ทำเอาเสาทั้งต้นล้มเลย โชคดีที่ตอนนั้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทำเอาไฟละแวกนั้นดับหมด เหตุการณ์ครั้งนั้นมันรุนแรงมาก ล่าสุดมาขโมยปี่พระอภัยมณีอีก มันสะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมของจิตใจคน แล้วความเสียหายมันไม่ได้แค่ภายในประเทศนะ มันระดับชาติเลย คือคนต่างชาติส่วนใหญ่เขาจะดูแลรักษาสมบัติของประเทศเขามาก ในขณะที่คนไทยกลับขโมยเอาไปขายเพื่อแลกกับเงินไม่กี่บาท ผมว่าเงินนะมันหาได้นะ ถ้าเรามีความอดทนและยึดมั่นที่จะทำอาชีพสุจริต คนเราถ้าขยันซะอย่างผมเชื่อว่าไม่มีใครอดตายหรอกครับ” 

ด้าน จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา กล่าวว่า

“จุ๋ยรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เข้าใจว่าตอนนี้ทุกคนต้องเจอกับปัญหาเศรษฐกิจกันหมด เพราะเป็นยุคข้าวยากหมากแพง แต่ก็อยากวิงวอนให้คนที่ทำเรื่องแบบนั้น อย่าทำเลย เพราะมันทำให้รัฐบาลต้องเสียเงิน เสียงบประมาณไปเปล่า ๆ แทนที่จะได้เอาไปพัฒนาประเทศด้านอื่นที่มันเกิดประโยชน์ กลับต้องนำเงินเหล่านั้นมาเพื่อจัดซื้อของใหม่มาใส่แทนของเดิมซึ่งมีราคาสูงมาก แถมที่คุณขโมยไปมันก็ได้ราคาไม่เท่าไหร่ และยังต้องเสี่ยงต่อการถูกจับกุมด้วย จุ๋ยอยากฝากให้กำลังใจคนเหล่านั้น ก็ขอให้หาทางออกทางอื่นดีกว่า เข้าใจว่าความอดอยากยากจนทำให้เราตัดสินใจทำอะไรที่ผิดกฎหมาย แต่จุ๋ยก็เห็นว่ายังมีคนอีกเยอะแยะที่เขาประสบปัญหาอย่างคุณ แต่เขาก็เลือกที่จะทำอาชีพสุจริต เขาเลือกที่จะเป็นคนดี อีกอย่างเกิดคุณถูกจับได้ แล้วโดนรุมประชาทัณฑ์ล่ะ คือการกระทำของคุณมีแต่จะทำให้สังคมแย่ลง ๆ นะ จุ๋ยอยากเห็นสังคมและประเทศเราพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ”

ปิดท้ายที่ มัดหมี่-พิมดาว  พานิชสมัย เผยว่า

“ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวคนแอบถอดน็อตเสาไฟฟ้าแรงสูงไปจนทำให้เสาล้มไป ตอนอ่านข่าวก็ตกใจนะ  ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ในประเทศไทย  หรือมีข่าวว่าของสาธารณะบางอย่าง เช่น  ฝาท่อน้ำทิ้งตามท้องถนน หรือตระแกรงที่ทำมาจากเหล็กหายไป  ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกที่เดี๋ยวนี้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้วเหรอ  มัดหมี่คิดว่าที่พวกเขาทำน่าจะมาจากการต้องการเงินแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องลงทุน  แต่มัดหมี่ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ได้เลย  เพราะของสาธารณะประโยชน์ควรช่วยกันดูแล  และให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกันใช้ประโยชน์มากกว่าที่จะมาขโมยเพื่อเอาไปขายได้เงินมาไม่เท่าไหร่  เพราะรัฐบาลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ต้องนำเงินภาษีของเราไปหาซื้อมาทดแทนอยู่ดี  ทำแล้วก็ผิดกฎหมายด้วยค่ะ  ยังไงมัดหมี่ก็ฝากวอนให้คนไทยทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตา โดยเริ่มจากช่วยกันดูแลของสาธารณะประโยชน์ที่อยู่ใกล้บ้านตัวเองกันก่อนก็ได้ค่ะ”