ย้อนอดีตดูหน้าเก่า ออฟฟี่ เเม็กซิม จากสาวเชียร์เบียร์สู่พริตตี้ค่าตัวแพง

ล่าสุดเเฟนเพจเฟซบุ๊ก ซีทรู เมเนเจอร์ ได้โพสต์ว่า

ย้อนอดีตดูหน้าเก่า "ออฟฟี่ แมกซิม" จากสาวเชียร์เบียร์สู่พริตตี้ค่าตัวแพง พร้อมส่องบ้านหรูที่ส่งต่อไม่ไหว?

กลับมาเป็นข่าวอีกครั้งสำหรับอดีตพริตตี้ดัง "ออฟฟี่ แม็กซิม" หลังเจ้าตัวออกมาเปิดเผยเรื่องราวของตนเอง ทั้งเรื่องธุรกิจที่ล้มละลาย, ปัญหาสุขภาพ, เคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย ฯ ก่อนจะมีคนรอบข้างดาหน้าแฉถึงเรื่องราวของเจ้าตัวกันอย่างมากมาย

ทั้งนี้กับเรื่องราวที่ดูเหมือนจะวุ่นวายมากมายสารพัดนั้นก็ต้องบอกว่าหาใช่เรื่องใหม่ หากแต่เคยเป็นข่าวฉาวที่เกิดขึ้นกับเธอในช่วงสองสามปีมาแล้วทั้งสิ้น ทั้งเงินบริจาค ผู้ชาย และพฤติกรรมส่วนตัวต่างๆ นานา

เพียงแต่ที่ดูต่างไปก็คือท่าทีของเธอที่อ่อนลง จนหลายคนก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นจากใจจริงหรือเธอแค่ต้องการสร้างกระแสเพื่อกลับมาหาที่ยืนอีกครั้งกันแน่?

"ออฟฟี่" มีชื่อจริงว่า "อรพรรณ ด่านศิริพัฒนกุล" เรียนจบปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ ประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร

หลังเก็บเงินจากการทำงานเป็นสาวเชียร์เบียร์ได้ก้อนหนึ่ง เจ้าตัวก็ตัดสินใจทำศัลยกรรมหน้าอกก่อนเข้าประกวดเวที "มิส แม็กซิม ไทยแลนด์" ปี 2012

แม้จะไม่ได้ตำแหน่งอะไร แต่การได้เข้ารอบลึกๆ พร้อมกับได้นามสกุล "แม็กซิม" มาใช้ก็ถือเป็นต้นทุนที่ดีกับการทำงานในแนวนี้ของเธอเป็นอย่างยิ่ง

หลังเวทีประกวด เธอผันตัวเองไปเป็นพริตตี้แนวเซ็กซี่ในสนามแข่งรถจนมีเพื่อนชักชวนให้เข้าสู่วงการพริตตี้ในสายงานอื่นๆ โดยความแรงของสาวออฟฟี่ในฐานะพริตตี้นั้นมีการกล่าวขานกันว่าครั้งหนึ่งเธอคนนี้ได้ชื่อว่ามีค่าตัวแพงที่สุดคนหนึ่งของวงการพริตตี้สายมอเตอร์โชว์มาแล้ว

ไม่ต่างอะไรไปจากสาวๆ หลายคนที่ทำงานขายความเซ็กซี่ ที่ใช้ความสวย หน้าตาที่ดูดีเป็นใบเบิกทาง สาวออฟฟี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่หมดเงินไปกับการทำศัลยกรรมไม่น้อยเพื่อโมหน้าตัวเองใหม่หมดจนแทบกลายเป็นคนละคน

การลงทุนที่แลกมาด้วยความเจ็บและเงินล้านก็ต้องถือว่าคุ้มไม่น้อยเพราะมันนำมาซึ่งงานต่างๆ มากมาย ทั้ง รีวิวสินค้า, ขายอาหารเสริม, ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม

รวมไปถึงการผันตัวเองมาเป็นยูทูบเบอร์ ซึ่งเมื่อมีรายได้เข้ามาจำนวนมาก ชีวิตอู้ฟู่ก็ตามมา ไม่ว่าจะเป็นบ้านราคาแพงหลายหลัง, รถสปอร์ต, ของแบรนด์เนม, ปาร์ตี้ ฯลฯ

ทั้งนี้หากย้อนกลับไปในวันที่ชีวิตยังคงระเริงอยู่ในความฟู่ฟ่านั้น เชื่อเหลือเกินว่าเจ้าตัวเองก็คงคิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะมีสักวันที่ตนเองจะต้องออกมาโพสต์เรื่องราวตามข่าวที่ออกมาอย่างแน่นอน