ช่อง3ประชันช่อง7 รายการเรียลลิตี้แดนซ์

"ช่อง3"ประชัน"ช่อง7" รายการเรียลลิตี้แดนซ์

เมื่อ "ช่อง 3" และ "ช่อง 7" นำ 2 รายการเรียลลิตี้โชว์ที่รูปแบบรายการคล้ายกัน มาออกอากาศในเวลาใกล้เคียงกัน ที่สำคัญทั้ง 2 รายการปักธงเดียวกันคือใช้การเต้นในการแข่งขัน ยิ่งทำให้น่าจับตามอง

ช่อง 3 รายการ "แดนซ์ ยัวร์ แฟต ออฟ" (Dance Your Fat Off) เต้น...เปลี่ยนชีวิต เป็นเวทีของคนบิ๊กไซซ์ ผลิตโดย บริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส จำกัด รูปแบบรายการ มี 2 ส่วน ส่วนแรกคือการที่จะลดน้ำหนักให้ได้ โดยวิธีการเต้น ซึ่งจะมีการเข้าบ้าน เก็บตัว มีนักโภชนาการเข้ามาดูแลสุขภาพว่าให้ลดน้ำหนักอย่างไร กินอาหารอย่างไร ก็แล้วแต่แต่ละคนจะทำตามนั้นหรือเปล่า ส่วนที่สองมีการออกกำลังกาย มีการฝึกเต้น โดยการเต้นจะมีคนคิดท่าต่างๆ ให้ และผู้เข้าแข่งขันเต้นคู่กับโค้ช ในกฎกติกามีการให้คะแนนสองส่วน ส่วนแรกคือคะแนนจากการเต้น มีกรรมการ 3 ท่าน คะแนนที่สองจากการลดน้ำหนัก ใครได้คะแนนน้อยที่สุดคนนั้นก็จะถูกโหวตออกจากบ้านไป

สำหรับกรรมการตัดสินมี "เจ"เจตริน วรรธนะสิน, "หญิง"รฐา โพธิ์งาม และ "ดีเจ.เชาเชา"ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม

ส่วนพิธีกรเป็นสาวฝีปากคม "กาละแมร์"พัชรศรี เบญจมาศ จะออกอากาศเสาร์ที่ 2 ก.พ. เวลา 17.45 น. ทางช่อง 3

"มณี เอียบ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส จำกัด ผู้ผลิตรายการ "แดนซ์ ยัวร์ แฟต ออฟ" เผยว่า

"เรามองอยู่หลายรายการ แต่เราต้องการรายการที่รูปแบบแตกต่างจากที่มีอยู่ในประเทศไทย ตอนนี้จะเน้นไปในเรื่องของการร้องเพลงเป็นหลัก กับรายการนี้ที่เลือกเพราะมันได้ทั้งสาระ และความสนุกสนาน ที่เลือกเพราะมันเป็นรายการที่แตกต่างจากรายการที่เห็นมา ที่จะให้โอกาสคนบิ๊กไซซ์ได้มาเต้นอย่างนี้ เขาไม่เคยมีเวทีนี้ อันที่สองเรื่องของสาระ มันมีวิธีการที่ให้คนลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง พอเราเห็นว่ารายการนี้มีความแตกต่าง เราก็ไปศึกษามากขึ้นก่อนที่จะเอารายการนี้เข้ามา ก็พบว่าในประเทศไทยพบมากจนเริ่มเป็นปัญหาสังคมคือโรคอ้วน มันเลยประจวบเหมาะกับตรงนี้ว่าเราน่าจะให้ความรู้เรื่องนี้กับคนทางบ้าน บวกกับรายการที่ดูสนุก แปลกใหม่ มันน่าจะดึงความสนใจจากคนดูทั่วไปได้"

ในส่วนที่รายการมีลักษณะคล้ายกับรายการ "แดนซิ่ง วิธ เดอะ สตาร์" ทางช่อง 7 บอสสาวเผยว่า "ส่วนตัวมองในเรื่องของความแตกต่าง มันไม่มีการซ้ำซ้อนแน่ๆ ของเราเป็นเวทีของคนบิ๊กไซซ์ มันไม่เคยมีเวทีสำหรับคนบิ๊กไซซ์มาเต้น ตรงนี้ก็ยังแตกต่าง รายการเราคิดกันมาเกินครึ่งปีแล้ว แต่ยืนยันว่ารูปแบบต่างกันอยู่แล้วค่ะ รูปแบบคงใช้คำว่าเต้นเหมือนกัน แต่ด้วยวิธีการนำเสนอแตกต่างกันหมดเลย อย่างของเรามีเรื่องของการเต้นและการลดน้ำหนักเข้ามาด้วย มันไปด้วยกันทั้งคู่ แล้วรายการของเราไม่ได้เต้นเป็นมืออาชีพมาก รูปแบบยังไงก็ต่าง"

ทางด้าน ช่อง 7 เป็นรายการ "แดนซิ่ง วิธ เดอะสตาร์" (Dancing With The Stars) ซึ่งมี บีบีซี เวิลด์ไวด์ เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ ผลิตโดย บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ บริษัท มีทิเน่ จำกัด

รูปแบบรายการจะเป็นเรียลลิตี้ทีวีโชว์ แข่งขันประกวดเต้นโดย 7 สตาร์ที่มีชื่อเสียง ประกบด้วยโปรมืออาชีพ รายการจะเป็นผู้กำหนดโจทย์เพลงบังคับให้ ในทุกสัปดาห์ทุกคู่จะต้องโชว์บนเวทีใหญ่ และจะมีการโหวตให้ออกสัปดาห์ละ 1 คู่ จนเหลือ 3 คู่ ในสัปดาห์สุดท้าย ก่อนที่จะตัดสินหาผู้ชนะเลิศ ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ Mirror Ball Trophy โดยมี "ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร" และ "มรกต กิตติสาระ" เป็นพิธีกร ออกอากาศอยู่ทางช่อง 7 ขณะนี้ ทุกวันอังคาร เวลา 22.30 น.

สำหรับ 7 สตาร์ผู้เข้าแข่งขันมี "ม.ร.ว.มาลินี จักรพันธุ์"(คุณหญิงหมัด), นักร้องหนุ่ม "ธามไท แพลงศิลป์" แห่งค่ายกามิกาเซ่, "นาตาลี เกลโบวา", "เล็ก ไอศูรย์", "นิโคล เทริโอ", "ปุ๊กลุก"ฝนทิพย์ วัชรตระกูล และ "โจ้"ร.ต.อ.สืบศักดิ์ ผันสืบ

ส่วนคณะกรรมการ 3 คนคือ "ทินกร อัศวรักษ์" ผู้ทรงคุณวุฒิในด้านการเต้นการแสดง "หลิว"มนัสสวี กฤตานุกูล ที่อยู่ในวงการเต้นมากว่า 20 ปี และ "อมร ชัฏไพศาล" ผู้มีชื่อเสียงในวงการกีฬาลีลาศทั้งไทยและต่างประเทศ

"ลูกเกด"เมทินี กิ่งโพยม รับหน้าที่โปรดิวเซอร์ เผยถึงรายการ "แดนซิ่ง วิธ เดอะ สตาร์" ว่า "เวลานี้เมืองไทยมีหลายๆ รายการที่แข่งกันร้องเพลง หรือว่าแอ๊กติ้งต่างๆ เสน่ห์ของรายการนี้คือเอาคนที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะจากสายงานไหนก็ตาม นักการเมือง ดารา นักร้อง นักกีฬา เอามาจับคู่กับโปร ที่เป็นแชมป์ แล้วก็แข่งกันเต้นบอลรูม คนสนใจเรื่องการเต้นลีลาศก็มีคนให้ความสนใจทุกวัย แต่ก็ยังไม่กว้างมาก รายการก็อยากที่จะเป็นจุดนึงที่ทำให้คนหันมาสนใจและอยากเต้นลีลาศกันมากขึ้น"

รูปแบบรายการที่คล้ายกับรายการ "แดนซ์ ยัวร์ แฟต ออฟ" ทางช่อง 3 โปรดิวเซอร์สาวออกตัวว่า "ทั้งสองรายการแตกต่างกันไปเลย อย่างรายการของช่อง 3 เป็นการที่เอาคนธรรมดาซึ่งเป็นคนอ้วนมาเต้นเพื่อลดน้ำหนัก ส่วนรายการของเราเป็นการเอาสตาร์มาแข่งกันเต้นลีลาศ อีกอย่างรายการที่มีรูปแบบเป็นการเต้นเมื่อก่อนก็เคยมีมาแล้วหลายรายการ ที่สำคัญรายการก็คนละรูปแบบ ออกอากาศคนละวันเวลา และช่อง เลยไม่ได้รู้สึกอะไร"

แม้จะใช้การเต้นเป็นตัวแปรในการแข่งขัน แต่ทั้ง 2 รายการต่างก็ยืนยันว่ามีความต่างแน่นอน งานนี้ต้องให้ "คนดู" พิสูจน์

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด

https://www.facebook.com/teeneedotcom