“โฟร์” ยอมรับซึ่งกันและกัน อยู่คู่ “มด” ได้อีกนาน

“โฟร์” ยอมรับซึ่งกันและกัน อยู่คู่ “มด” ได้อีกนาน

ก่อนหน้านี้กลายเป็นประเด็นใหญ่โตครึกโครมกันมากเลย สำหรับกรณี 2 สาวคู่หูดูโอ “โฟร์มด” นั้นทะเลาะกัน ถึงขั้นอาจจะวงแตกได้ แต่ตอนนี้ปัญหาทุกอย่างได้ผ่านการเคลียร์เรียบร้อยแล้ว วันนี้ สาวโฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร มานั่งเปิดใจกับ “ดาวต่างมุม” ถึงเหตุการณ์เรื่องราวที่ผ่านมา และอนาคตในวงการบันเทิง ที่ใกล้ถึงกาลอวสานของคู่ดูโอระดับท็อปของเมืองไทย แล้วจริงหรือไม่ ทุกอย่างโฟร์มีคำตอบให้

ได้เคลียร์ปัญหาต่างๆกับมดเรียบร้อยแล้วนะ?

เรียบร้อยแล้วค่ะ คือทางค่ายกามิกาเซ่เรียกไปคุยว่ามีปัญหากันเหรอ ทำไมไม่เคลียร์กันให้จบ ไปลงอินสตาแกรมหรือทวิตแบบนั้นทำไม เพราะมันจะทำให้เกิดปัญหาตามมา เราก็ไม่ได้คิดเลยเพราะตอนนั้นโมโหค่ะ

เหตุการณ์นั้นมันให้บทเรียนอะไรเราบ้าง?

ทำอะไรทุกครั้งเราต้องมีสติค่ะ ต้องรู้ว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร เพราะเป็นจุดที่ผู้คนให้ความสนใจอยู่แล้วไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม โดยเฉพาะในด้านที่ไม่ดี ก็ต้องระวังตัวเองมากขึ้น ทุกวันนี้เวลาจะทวีตอะไรก็คิดมากขึ้น เพราะเราไม่รู้ว่าใครรักหรือใครเกลียดเราบ้าง สิ่งที่เราพิมพ์ไปทั้งหมดอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ ทุกวันนี้ก็ทำงานกับมดได้ปกติเลยค่ะ แค่มีช่วงก่อนหน้านี้ที่รู้สึกว่าจะเอาอย่างไรดี จะพูดก่อนหรือยังไม่พูดดี ถ้าพูดไปแล้วทางนั้นหงุดหงิดใส่มา เราเองก็หงุดหงิดอยู่ด้วยคงไม่ดี อารมณ์มันยังไม่แน่นอน แต่ตอนนี้ก็กลับมาคุยเป็นปกติแล้วค่ะ ผู้ใหญ่ก็บอกว่าเราโตแล้ว อย่าทำอะไรเหมือนเด็ก ตลกจังเลย งอนกันไปเกือบเดือน เพราะเรามองว่าเราไม่ผิด ตัวเขาก็คิดว่าไม่ผิด เลยไม่ยอมกัน

ถ้าเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร?

การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือเราควรนั่งคุยกันเลย แต่ทุกครั้งที่มีปัญหากัน เราไม่ได้คุยเพราะคิดว่าพอเวลาผ่านไป ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง แต่ไม่ได้แล้วค่ะ ต่อไปนี้ต้องคุยกันเลย เพื่อปรับความเข้าใจค่ะ

แสดงว่ามีปัญหากันบ่อย?

มันก็มีเรื่องจุกจิกอยู่แล้วค่ะ งอนบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง มีอยู่เรื่อยๆ คงไม่ได้แฮปปี้ดีด๊ากันตลอดเวลา ส่วนใหญ่เป็นการทำงาน ที่ผ่านมาถ้ามีปัญหาคือนิ่ง ต่างคนต่างอยู่ ถ้าอารมณ์ดีขึ้นเมื่อไรถึงจะเริ่มมองหากัน เพราะรู้สึกว่าไม่มีเพื่อนคุย สุดท้ายเลยคุยกันได้เอง แต่เรื่องครั้งนี้เป็นทางค่ายที่เรียกไปคุย ถามทีละคนเลยว่าเกิดอะไรขึ้น คือเปิดใจพูดกันจนต่างคนต่างยอมรับว่าผิด จริงๆมีข่าวว่าเราสองคนไม่ถูกกันตั้งแต่ออกอัลบั้มแรกแล้วค่ะ ที่มาทำด้วยกันก็เพราะงาน แต่เบื้องหลังแล้วทะเลาะกันตลอด ทุกวันนี้คนก็ยังสงสัยว่าสองคนนี้รักกันจริงเหรอ พอมีข่าวว่าทะเลาะกัน คนก็ นั่นไง ว่าแล้ว มันไม่ถูกกันแน่ จนเรามาคิดว่าเขาหวังดีกับเราหรือจริงๆแล้วเขาไม่อยากให้เราอยู่ด้วยกัน

เป็นดูโอกันมา 8 ปี คิดว่ามีอะไรที่โฟร์และมดต้องปรับบ้าง?

เราก็ปรับกันมาตลอดทั้งคู่ค่ะ เรื่องนิสัยส่วนตัวโฟร์ยอมรับในตัวมดได้มาก เพราะเราเรียนรู้กันมาเรื่อยๆ เรารู้เลยว่ามดมีนิสัยแบบนี้ ถ้าเราพูดแบบนี้ มดจะทำแบบนี้ เหมือนเราจะยอมรับข้อเสียของเขาได้มากขึ้นเรื่อยๆ โฟร์เองก็ปรับ เพราะเราโตกว่า เราเป็นพี่ แต่พอมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น คนก็ชอบมาโทษเราว่าทำไมไม่ดูแลน้อง

ความเป็นโฟร์มดมันใกล้ถึงจุดอิ่มตัวหรือยัง?

น่าจะใกล้แล้วนะคะ ช่วง 2-3 ปีหลัง ทุกคนถามเรามาตลอดว่าออกอีกแล้วเหรอ ยังไม่หมดอีกเหรอ ยังอยู่กามิกาเซ่เหรอ เราก็มาถามตัวเองว่าเราแก่ไปหรือเปล่า เพราะมีเด็กใหม่ๆเข้ามาในกามิกาเซ่เยอะ เคยเข้าไปถามค่ายว่าจะทำโฟร์มดอีกนานไหม เพราะเราจะได้รู้อนาคตตัวเองและเตรียมหาอะไรทำอย่างอื่น ค่ายบอกว่าทำไมล่ะ คนก็ยังรักอยู่นี่ ลองถามดูสิว่าถ้านึกถึงดูโอผู้หญิงจะนึกถึงใคร คนก็นึกถึงโฟร์มดก่อนอยู่แล้ว แต่เรารู้สึกกดดันไง เพราะมีคนมาถามตลอดเวลา พี่เขาก็บอกว่าอย่าไปคิดมาก ถึงแม้จะมีกระแสเพลงแนวอื่นที่มาแรง แต่กลุ่มตลาดของเราก็ยังอยู่ค่ะ

ทำไมไม่คิดว่ายิ่งแก่ยิ่งเก๋าล่ะ?

ความเป็นโฟร์มดจะไปเซ็กซี่สุดได้ไหม มันไม่ได้ จะร้องเพลงเก่งสุดได้ไหม มันไม่ได้ จะเต้นเก่งสุดได้ไหม ก็ไม่ได้อีก มันไม่มีอะไรที่เป็นที่สุด ก็เลยคิดว่ามันจะไหวหรือเปล่า ถ้าเกิดมีเด็กใหม่เข้ามาแล้วเขาเต้นเก่งมาก เราตายแน่ๆเลย จริงๆแล้วคิดว่าเราอยู่ไม่ได้ตั้งนานแล้วค่ะ ล่าสุดเฮียบอกว่าโฟร์มดน่าจะได้อีก 3 ปีถ้าตลาดเพลงยังไม่เปลี่ยนแปลงนะ น่าจะเอาอยู่ แต่โฟร์ชอบการแสดงด้วยค่ะ ก็คุยกับทางผู้ใหญ่ว่าถ้าวันไหนเพลงเราจบแล้ว การแสดงเราก็ได้นะ พิธีกรเราก็ได้ โฟร์เรียนแอคติ้งด้วยค่ะ วันไหนว่างเราก็ไปเรียนเพื่อฝึกฝนและไม่ให้ตัวเองลืม

ด้วยความที่เป็นคนตัวเล็ก คาแรกเตอร์มันถูกจำกัดหรือเปล่า?

มันค่อนข้างยากค่ะ ผู้ใหญ่จะมองเห็นเราเป็นเด็กอยู่ตลอด เลยให้แต่บทเด็กๆ แต่เราอยากเล่นบทอื่น เพราะน่าจะทำได้ น่าจะให้โอกาสเราได้เล่น เขาจะแบบว่าโฟร์เล่นไม่ได้หรอก ยังเด็กอยู่ ตัวเล็ก เราคิดว่าคนอื่นที่ตัวเล็กๆมีตั้งเยอะ ก็ใส่ส้นสูงสิ มันเลยทำให้เราถูกจำกัดมากขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับโอกาสที่ผู้ใหญ่จะมอบให้ค่ะ ให้เล่นในบทอื่นๆบ้าง พิสูจน์ให้คนดูเห็นว่าเราก็เล่นได้ โฟร์ไม่ได้อยากเป็นนางเอกอย่างเดียวค่ะ ร้ายบ้างก็ได้ หรือคนโรคจิตที่ร้ายๆหน่อย เพราะคนเห็นโฟร์มดน่ารักสดใส เห็นในละครก็น่ารัก อาจจะดูห้าวๆนิดนึง กะโปโลหน่อย คนเลยคิดว่าอย่างโฟร์จะร้ายได้เหรอ หน้าตาดูเป็นคนดี เขาจะไม่เชื่อ แต่เราก็บอกว่าเราร้ายได้นะ

รู้สึกกังวลกับอายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี?

ก็มีบ้างค่ะ เราชอบคุยกับคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย ก็บอกไปว่าเรานอยด์นะที่อายุมากขึ้น เขาเลยบอกว่าก็ไม่ต้องไปบอกอายุสิ คนอื่นเห็นหน้าเราก็คิดว่าอายุไม่ถึง 20 ทั้งนั้น เราก็ว่าจริงเหรอ เพราะทุกวันนี้ก็แอ๊บไม่ค่อยอยู่แล้ว แล้วเราเองก็โตขึ้น ความคิดมันก็จะโตกว่าภาพที่เห็นค่ะ

โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร

คิดอยากเป็นศิลปินเดี่ยวบ้างไหม?

ไม่เคยคิดอยู่ในหัวเลยค่ะ แม้ตอนแรกที่เขามาติดต่อโฟร์จะให้ทำคนเดียว เราบอกไปว่าไม่เอา เพราะร้องเพลงไม่ได้ เขาเลยไปหาคู่มาให้ ก็เลยเป็นโฟร์มด คนเดียวเราไม่มั่นใจ เพราะร้องเพลงไม่เก่ง ไม่เคยเรียนร้องเพลงเลย เขาบอกว่าเขาไม่อยากได้นักร้องประกวดนะ แต่อยากได้เด็กร้องเพลงใสๆ เราก็คิดว่าอยู่บนเวทีถ้าคนเดียวจะพูดอะไร มันไม่ได้หรอก

แต่ 8 ปีที่ผ่านมา คนก็เชื่อว่าโฟร์ร้องเพลงได้นะ?

เพราะเราได้เรียนร้องเพลงมาตลอด 7-8 ปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่จะออกซิงเกิลใหม่หรืออัลบั้ม เราต้องไปเรียนร้องเพลงและเรียนเต้นอยู่แล้ว แต่ถ้าให้ร้องคนเดียว คิดว่ายังไม่ได้ เพราะว่ามันไม่มีความมั่นใจที่จะร้องคนเดียว เคยเหมือนกันที่ร้องคนเดียว เพราะรับงานไว้แล้วมดไม่สบาย มาไม่ได้ ตอนนั้นมันเหงามากเลยค่ะ เราไม่รู้จะพูดอะไรกับคนดูและจะส่งเข้าเพลงอย่างไร เพราะเราสองคนไปคู่กันตลอดทุกงาน เลยคิดว่าคนที่เป็นศิลปินเดี่ยวแล้วก็ดังและประสบความสำเร็จนั้นเก่งมาก

ยังต้องปรับปรุงเรื่องการร้องเพลงอยู่บ้างไหม?

คงไม่ได้ปรับอะไรมากค่ะ แต่ต้องเพิ่มเติมมากขึ้นทุกครั้ง ทุกเพลงที่เราได้โจทย์มา อย่างซิงเกิ้ลล่าสุด “คนดีนาทีสุดท้าย” เป็นเพลงช้า ซึ่งบอกตรงๆ โฟร์ไม่ถนัดเพลงช้าเลย เราต้องปรับอารมณ์ไม่ให้มันเศร้ามากนะ แค่รู้สึกแย่กับผู้ชายคนนี้ ช่วยหยุดพฤติกรรมแบบนี้เถอะ ฉันไม่เอาเธอแล้ว ช่วยไปไกลๆ เราก็โอ้โห..ตายแล้วมันจะยังไงดี เราก็เอาเพลงมาฟังเรื่อยๆให้พี่เขาร้องไกด์ให้ฟังค่ะ ถามว่าปรับให้โตขึ้นได้ไหม มันก็ได้ แต่จะไปในแนวทางไหน เซ็กซี่เหรอ จะทับไลน์ “เกิร์ลลี่เบอร์รี่” ไหม เพราะเซ็กซี่เราสู้เขาไม่ได้แน่ๆ จะไปแนวเท่หรือเปรี้ยวเหรอ กลุ่มตลาดที่เขาชอบเรา เขาชอบเพราะง้องแง้งแบบนี้ เราก็เลยแค่ปรับลุคให้โตและดูเป็นสาวมากขึ้น การแต่งตัวเป็นผู้หญิงหวานขึ้น แค่นั้นเองค่ะ

วางอนาคตในวงการบันเทิงไว้อย่างไร?

โฟร์คิดเสมอว่าหมดงานอัลบั้มจะทำอะไร แต่ก็คิดว่าคนบันเทิงมากมายที่เขาอยู่ในวงการมาเป็นสิบยี่สิบปีหรือยึดเป็นอาชีพหลักเลยก็มี แล้วทำไมเราจะยึดเป็นอาชีพหลักไม่ได้ คิดว่าความสามารถของเราไม่ได้น้อยไปกว่าของคนอื่น เลยคิดจะอยู่ไปเรื่อยๆ ตอนนี้อาจจะติดที่สังกัดหรือสัญญาและลุคของโฟร์มดที่จะมีโอกาสทำสิ่งต่างๆน้อยกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง มีหลายอย่างที่อยากทำนะ เป็นดีเจ เป็นวิทยากร และอีกหลายๆอย่าง แต่โอกาสที่จะทำมันน้อยมาก

ความรักช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

ก็เรื่อยๆค่ะ หลังจากที่กลับมาคุยกันใหม่ มันอาจจะไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ไปได้เรื่อยๆ ไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่ได้แย่ลงไป เขาเองสัญญากับเราว่าจะทำให้ดีที่สุด จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นอีก เราคิดว่าวันหนึ่งถ้ามันเกิดเรื่องแบบนั้นอีก เราก็เหนื่อยอีกหรือเปล่า โอกาสมันไม่ได้มีให้กันได้บ่อยๆหรอกนะ เราเองถ้าเหนื่อยมันก็ต้องหยุด สำหรับตัวเองคิดว่าเราโตขึ้น ใครพูดอะไรมาเราก็ไม่ได้เชื่อ ต้องมาถามเขาก่อนว่ามันจริงหรือเปล่า อยากฟังจากปากเขาเอง ถ้าเขาตอบว่าไม่จริง มันก็คือจบ ไม่มีอะไร แต่วันไหนถ้าเราได้เห็นกับตาของตัวเอง อันนั้นคงจบของจริง เลิกให้โอกาส

อะไรที่ทำให้ทั้งคู่กลับมาคบกันใหม่?

เพราะเขากลับมาและสัญญาว่าเขาจะทำทุกอย่างที่โฟร์ต้องการ แต่เราเองก็ไม่ได้ต้องการอะไรเยอะแล้ว เพราะว่าเราโตแล้ว คุณอยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนคุณก็ไป แต่สัปดาห์หนึ่งควรจะแค่ครั้งสองครั้ง ไม่ใช่ห้าครั้ง และกลับบ้านดึกดื่นทุกวัน มันก็ไม่ไหว จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องเพื่อนอย่างเดียวหรอกค่ะ มันมีอะไรจุกจิกอย่างอื่นด้วย แต่เขาไม่ได้ขอให้โฟร์ปรับอะไร เพราะโฟร์เป็นแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่เขามาจีบ เพียงแต่ตอนนี้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ไม่จุกจิกมากขึ้น

สิ่งที่โฟร์ต้องการที่สุดสำหรับคนรักคืออะไร?

ต้องการให้เขาชอบเราตรงที่เราเป็นเรา โฟร์เป็นคนที่เอาแต่ใจ งี่เง่าบางครั้ง บางอารมณ์อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากเจอ อยากให้เข้าใจว่าเราเป็นแบบนี้และยอมรับได้ ถ้ามาชอบเราที่หน้าตาหรือความเป็นโฟร์มด สักวันมันก็จะคบกันไม่ได้นาน แต่ตอนนี้เราก็เอาแต่ใจน้อยลงแล้วนะ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ มีรักมีเลิกมีโกรธมีเกลียด จนเราเริ่มปลงกับความรัก จะเป็นไปในทางไหนก็ช่างมัน

มองเรื่องแต่งงานไว้บ้างไหม?

เมื่อก่อนเคยพูดกับมดเลยว่าพี่จะแต่งงานตอนอายุ 25 มดถามว่าจริงเหรอ เราก็ตอบว่าจริง และไม่เกิน 27 น่าจะมีลูก เพราะเป็นคนที่อยากอยู่บ้านเลี้ยงลูก อยากมีครอบครัว พอถึงตอนนี้มดก็ชอบถามว่าจะแต่งงานเมื่อไร เราก็บอกว่าเอาไว้ก่อน ตอนนี้ถ้าอยู่คนเดียวแล้วมันสบายกว่าก็เลือกอยู่คนเดียวค่ะ

สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงแฟนๆ?

ขอบคุณแฟนคลับโฟร์มดที่ส่งกำลังใจมาให้ตอนที่เรามีปัญหากันนะคะ อยากให้คอยติดตามผลงานของโฟร์มดตลอดไป ตอนนี้มีซิงเกิ้ลใหม่ “คนดีนาทีสุดท้าย” ฝากไว้ด้วยนะคะ

เคลียร์ปัญหากันได้ก็ดีใจด้วย แต่อย่ามีปัญหาใหม่เกิดขึ้นมานะจ๊ะ ถ้าต้องยุบวงไปจริง ๆ แฟน ๆ เขาจะเสียดายนะจ๊ะ

โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร