‘กิ๊ฟซ่า’เตรียม บำเพ็ญประโยชน์
"กิ๊ฟซ่า-เกิร์ลลี่เบอร์รี่” รายงานตัวกรมคุมประพฤติ อาสาบำเพ็ญประโยชน์ เบื้องต้นอยากบริจาคโลหิต ดูแลเด็กและคนชรา
กิ๊ฟซ่า ปิยา
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ยันยอมรับเงื่อนไขศาลและเฮียฮ้อทุกอย่าง ชี้ได้บทเรียนเมาไม่ขับ ยิ้มบอกยังมีกำลังใจเต็มเปี่ยม
กรณีศาลจังหวัดพระโขนงตัดสินจำคุกกิ๊ฟซ่า-เกิร์ลลี่เบอร์รี่ 2 เดือน ปรับ 6 พันบาท ในคดีเมาแล้วขับ โดยโทษจำคุกลดโทษให้กึ่งหนึ่ง และให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมคุมประพฤติ 1 ปี และทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์อีก 12 ชั่วโมง
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 ก.ย. เวลา 13.30 น. น.ส.ปิยา พงศ์กุลภา หรือกิ๊ฟซ่า อายุ 28 ปี นักร้องชื่อดังสมาชิกวงเกิร์ลลี่เบอร์รี่ เข้าพบ พ.ต.อ.โภคพิบูลย์ โปรตระนันท์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เพื่อมารายงานตัวภายหลังศาลจังหวัดพระโขนงสั่งคุมประพฤติ 1 ปี ในคดีเมาแล้วขับ และบำเพ็ญประโยชน์ 12 ชม. โดยพนักงานคุมประพฤติได้หารือถึงกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ก่อนที่กิ๊ฟซ่า นักร้องสาวชื่อดัง เสนอเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมพร้อมบริจาคโลหิต และดูแลเด็กและคนชราในสถานสงเคราะห์
น.ส.ปิยากล่าวว่า ตอนแรกคิดบำเพ็ญประโยชน์ไว้หลายอย่าง แต่เห็นว่าช่วงนี้น้ำท่วมเลยอยากไปช่วย แต่สำนักงานคุมประพฤติอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่น้ำท่วมอยู่ต่างจังหวัด จึงต้องกลับไปคิดอีกครั้ง น่าจะมีบริจาคโลหิตอย่างน้อย 2 ครั้ง พร้อมทั้งชวนเพื่อนๆ ในวงไปร่วมกิจกรรมการไปบ้านคนตาบอด อ่านหนังสือ บ้านพักคนชรา หรือสอนเด็กๆ ทั้งนี้ ตนจะตัดสินใจอีกครั้ง โดยต้องมารายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนครั้ง จำนวน 4 ครั้ง
“บทลงโทษตามกฎหมาย และที่เฮียฮ้อ (นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส) กิ๊ฟจะทำตามนั้น สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ก็จะทำให้ดีที่สุด อยากจะฝากทุกคนว่า ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ กิ๊ฟจะก้าวต่อไปแล้วเดินตามที่ศาลได้ตัดสินไว้ให้ และขอให้ทุกคนเอาตัวอย่างของกิ๊ฟเป็นข้อคิดว่า ทำอะไรก็อย่าประมาท” นักร้องสาวเซ็กซี่เผย
พ.ต.อ.โภคพิบูลย์ โปรตระนันท์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลอย่างเข้มงวด กรณีเป็นบุคคลที่สังคมสนใจ สำนักงานคุมประพฤติประจำศาลจะส่งเรื่องให้กรมคุมประพฤติเข้าไปดำเนินการคุมประพฤติตามคำสั่งศาล เพราะกรมคุมประพฤติมีความพร้อมของบุคลากรและเครื่องมือในการทำงาน
"สำหรับกรณีนักร้องสาวรายนี้ได้เข้ารายงานตัวแล้ว ในเบื้องต้นโปรแกรมบำเพ็ญประโยชน์ ตนเห็นว่าไม่ควรนำไปกวาดลานวัดหรือทำงานในโรงพยาบาลเท่านั้น ควรคำนึงถึงความสามารถของผู้ที่ถูกศาลสั่งให้คุมประพฤติและบำเพ็ญประโยชน์ด้วย เพราะบางคนมีความรู้ก็อาจเป็นอาจารย์สอนพิเศษในสถานการศึกษา หรือบำเพ็ญประโยชน์ในสาขาที่ตัวเองมีความเชี่ยวชาญ" อธิบดีกรมคุมประพฤติกล่าว.
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom