อ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์ กับเรื่อง รักที่ไม่เคยบอกใคร

It’s My Love รักที่ไม่เคยบอกใคร ของอ้อม-สุนิสา สุขบุญสังข์  จากนิตยสาร แพรว ฉบับครบรอบ 33 ปี หน้าปก แอน ทองประสม !!!!!!  

เคยเสียเงินค่าโทรศัพท์โทรไปหาแฟนที่ตปท เดือนละเป็นแสน ...

 เคยรถไฟชนกัน 3 คน ... Happy Family

  เคยผิดหวังความรักถึงขนาดคิดจะประชดว่า ถ้าขาดเธอ ฉันยอมตาย

   " ความรักของอ้อมก็เหมือนทุกคน ลุ่มๆ ดอนๆ ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ทั้งหมดเพราะทำตัวเอง อย่าไปโทษเพราะคนอื่นทำ การได้คนที่รักมาก ก็เพราะดีกับเขามาก การได้คนที่รักน้อย ก็เพราะนิสัยไม่ดีกับเขาเยอะ  แล้วใครจะทนไหว "

 20 ปี คือเวลาที่เราได้รู้จัก ‘อ้อม-สุนิสา’ ป็อบสตาร์ ไอคอนตลอดกาลคนหนึ่งของวงการบันเทิงไทย ในหลากเรื่องราว  ตั้งแต่บทบาทการเป็นนักร้อง นักแสดง นางแบบ ดีเจ  และเส้นทางสายธรรมะที่เธอเลือกเดินอย่างจริงจัง  แต่หนึ่งเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับอ้อมมากนักคือ ‘ความรัก’

 

ครั้งนี้ แพรวชวนอ้อมมาคุยหลายเรื่องของชีวิต โดยเฉพาะความรัก ที่อ้อมบอกว่า นี่คือการเปิดใจคุยมากที่สุดในชีวิต

 [แพรว] หลายคนยังไม่รู้ว่า ช่วงต้นปีอ้อมตัดสินใจบวชครั้งที่ 2

     เป็นเพราะจังหวะมากกว่า ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ  เรียกว่าธรรมะจัดสรรก็ได้ พอดีช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา  ‘คุณยายจ๋า-แม่ชีศันสนีย์’ จัดงานบวชพุทธสาวิกา ที่วัดไทยพุทธคยา  ประเทศอินเดีย 10 วัน ยายจ๋าถามอ้อมว่า อยากบวชไหม แวบแรกก็ปอดแหก  เพราะไม่เคยคิดจะไปอินเดีย กลัวลำบาก และได้ยินคนพูดถึงที่นั่นในแง่ลบเยอะ  แต่อีกใจก็อยากตอบเเทนครูบาอาจารย์ ช่วยดูเเลคุณยายบ้าง  จึงตัดสินใจร่วมคณะไปด้วยในฐานะธรรมะบริกร แต่ยายจ๋าบอกว่า  ให้คุณแม่ขลิบผมไว้ก่อน เผื่อเปลี่ยนใจจะบวช อ้อมก็ทำตาม แต่ลึกๆ ยังคิดว่า  ไม่บวชหรอก ตอนไปถึงสนามบิน ยายจ๋าถามอีกว่า บวชใช่ไหม อ้อมยังบอกว่า  อย่ากดดันสิคะ (หัวเราะ)

     แต่เรื่องมาเปลี่ยนตอนไปถึงวัดไทยพุทธคยา หลังจากกราบพระประธาน  เจ้าหน้าที่ประกาศว่า ขอเชิญพุทธสาวิกาที่จะบวชในวันพรุ่งนี้ไปที่วิหาร  ตอนนั้นไม่รู้มีมนต์อะไรสะกดให้อ้อมลุกเดินตามเข้าไป  เพื่อนที่เป็นอาสาสมัครยังถามหน้างงๆ ว่า อ้าว คุณจะบวชหรือ  อ้อมพยักหน้าแล้วเดินตามกลุ่มไป กว่าจะได้นอนก็ตี 3  เพราะไม่ได้ท่องบทสวดเตรียมไว้ พอตี 5 ก็ตื่นไปเตรียมความพร้อม  และเรื่องน่าแปลกคือ มีฝูงผึ้งนับร้อยๆ ตัว บินวนอยู่หน้าห้องอ้อม  ซึ่งหลายคนบอกว่า เป็นลางดี และอ้อมก็ได้คิวโกนหัวเป็นคนที่ 9 พอดี (ยิ้ม)  หลังจากนั้นส่งข้อความถึงโทรศัพท์มือถือแม่ว่า ไม่ต้องเป็นห่วงนะ  เเม่ชีสบายดี เป็นที่รู้กันว่า อ้อมบวชแล้ว

[แพรว]การบวชที่อินเดียครั้งนี้ให้อะไรอ้อมบ้าง

     ความจริงไม่ว่าบวชที่ไหนก็ให้ความอิ่มเอมใจพอๆ กัน  เเต่สิ่งที่รู้สึกมากกว่าคือ การได้มาอยู่ในสถานที่ที่พระพุทธเจ้าเคยอยู่  ได้เห็นพระเมตตาของพระพุทธองค์ที่ทรงตรัสรู้เเล้วไม่เก็บไว้คนเดียว  แต่เดินสอนไปในทุกที่ และอ้อมยังได้เจอกัลยานิมิตรที่ดีมากมาย  ได้เจอวิทยากรที่เล่าประวัติศาสตร์ต่างๆ ของอินเดีย

   

    พอฟังแล้วจากที่เคยมองในแง่ลบว่า ห้องน้ำสกปรก น้ำไม่สะอาด  เปลี่ยนเป็นแง่ของความจริงว่า ก็เพราะอินเดียเป็นแบบนี้  ซึ่งทำให้ความคิดของอ้อมเปลี่ยนไป อย่างคนใกล้ตัวจะรู้ว่า  อ้อมนอยด์เรื่องความสะอาดมาก ถ้าเปิดกระเป๋าเดินทางต้องเจอทิชชูเปียก 2  ถุงใหญ่ และซองเล็กๆ อีกเพียบ ปกติใช้ไม่พอด้วย  เพราะติดนิสัยต้องเช็ดเท้ากับเช็ดมือตลอดเวลา  แต่มาบวชที่อินเดียรอบนี้เหลือจนต้องเเจกจ่ายให้คนอื่นด้วยซ้ำ

[แพรว]เเบบนี้จะมีครั้งที่ 3 หรือเปล่าครับ

     บอกไม่ได้หรอกค่ะ เพราะครั้งที่ 2 อ้อมยังไม่คิดมาก่อน  แถมเป็นที่อินเดียด้วย  ขึ้นอยู่กับจังหวะเเละโอกาส เเต่ยอมรับว่า  พุทธศาสนาเป็นหนทางที่น่าศึกษา แต่ก็ใช่ว่า ชีวิตอ้อมจะมีแต่ทางนี้นะ  ไม่ได้เคร่งเครียดขนาดนั้น เเค่นำศาสนามาผูกกับชีวิตประจำวันอย่างกลมกลืน

     ก่อน บวชอ้อมก็ไม่ได้เป็นคนดีมากมาย มีหลายเรื่องที่ทำผิดเเละไม่ควรทำ มีรัก โลภ  โกรธ หลง เหมือนคนทั่วไป เคยใช้เงินอย่างพังทลาย  เสียค่าโทรศัพท์ไปต่างประเทศเดือนละหลายหมื่นบาท บางเดือนเป็นเเสนก็มี  ตอนนั้นยังเด็ก โชว์ป๋าว่าตัวเองเจ๋ง  คิดว่าการเสียเงินคุยโทรศัพท์เยอะไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้ามันตอบโจทย์ว่า  คิดถึงใครสักคนหนึ่งก็โทรหาเขาสิ  ที่คิดแบบนั้นไม่ใช่เพราะกำลังเป็นวัยรุ่นเลือดร้อนด้วยนะ เรียกว่า  กำลังโง่ดีกว่า ซึ่งเเม่ไม่เคยรู้เลย  เพราะอ้อมจะให้พี่เลี้ยงแอบเก็บใบเสร็จไว้ให้อย่างมิดชิด 

[แพรว]เราไม่ได้พูดถึงการโทรศัพท์หาเพื่อนใช่ไหม?????

     เเน่นอน หมายถึงแฟน (หัวเราะ)  ค่าโทรศัพท์ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของเดือนนั้นว่าเป็นอย่างไร  ถ้าราบรื่นก็ไม่เยอะ ถ้าลุ่มๆ ดอนๆ ก็แพงหน่อย เพราะอีนี่ (ชี้ตัวเอง)  ชอบเคลียร์ให้จบกันไปข้าง สามารถทะเลาะผ่านโทรศัพท์ได้ 4 ชั่วโมง  แล้วที่ถึงหลักแสน  เพราะคนที่คบด้วยในช่วงนั้นมักมีการศึกษาอยู่นอกประเทศไทย  

อ้อมจึงได้เที่ยวมาแล้วเกือบทุกทวีป  ถ้าดูพาสปอร์ตจะเห็นบางประเทศซ้ำอยู่บ่อยๆ ยกเว้นแอฟริกา  ไม่อย่างนั้นได้ดูสัตว์ป่า Big 5 แล้ว (หัวเราะ)

     คิดแล้วยังเสียดายว่า อ้อมเกิดเร็วไป ยุคนี้มี Skype  โทรไปไหนก็ไม่เสียเงิน  เดี๋ยวนี้เสียค่าโทรศัพท์เป็นแสนคงไม่มีปัญญาจ่ายเหมือนสมัยก่อนที่เล่น

      คอนเสิร์ตครั้งเดียวก็ได้เงินเเสน  พอดีกับตอนนี้โชคดีที่หมดยุคมีเเฟนอยู่เมืองนอกด้วย

[แพรว]เขาว่า ถ้าพิมพ์ชื่อ ‘สุนิสา สุขบุญสังข์’ ในเว็บไซต์กูเกิ้ล จะปรากฏ 2 เรื่องที่มีคนอยากรู้มากที่สุดคือ ‘ทอม’ กับ ‘แฟน’ ????

     (ยิ้ม) น่าจะเป็นอย่างนั้น อ้อมอยู่ในวงการนี้มา 20 กว่าปี  คำถามที่ได้ยินบ่อยที่สุดคงเป็นเรื่องทอม เพราะฉะนั้น กูเกิ้ลตอบไม่ได้หรอก  แต่กูนี่แหละตอบได้ (หัวเราะ)

    อ้อมไม่เคยพูดว่า  ตัวเองเป็นทอม ที่คนคิดแบบนั้นมาตลอด  เพราะบุคลิกที่อ้อมถูกวางไว้ตั้งแต่อายุ 14 ตอนเล่นหนังเรื่องแรกชื่อ  ‘ห้าวเล็กๆ’ คาแรกเตอร์เป็นทอมบอย แก่น ทะโมน นั่นคือภาพแรกที่คนรู้จัก  จนติดเป็นภาพจำ ซึ่งถ้าทำให้คนอื่นมีความสุขได้  อ้อมก็ยินดีที่เขาจะรู้จักเราในแบบนั้น แต่คนที่ชอบตัวตนอ้อมจริงๆ  จะไม่แคร์หรือสงสัยหรอกค่ะว่า อ้อมเป็นทอมหรือผู้หญิง  บางทีอ้อมอาจเป็นผู้ชายแปลงเพศมาก็ได้นะ

[แพรว]ถ้าอย่างนั้น เวลาสุนิสาตกหลุมรักใครสักคน ลักษณะจะเป็นอย่างไรครับ ???

     ไม่เป็นธรรมชาติเลย มี 2 เวอร์ชั่น อย่างแรกคือ จากที่เป็นคนนิ่ง จะลก  โอเวอร์แอคติ้งขึ้นมาเหมือนร่างทรงกระตุก เสียกิริยามาก ส่วนอีกแบบคือ  นิ่งเกินขีด เพราะเขินจนไม่กล้าสบตา แล้วพอมีแฟนจะติดแฟนมาก (ยิ้มหวาน)  ทีนี้ปัญหาของอ้อมคือ ไม่มีเพื่อน เพราะทำงานตั้งแต่เด็ก

จึงมีแฟนเป็นเพื่อน แล้วคบเพื่อนของแฟนไปด้วย ทีนี้พอเลิกกับแฟน อ้าว...  เพื่อนหายหมด 

[แพรว]อ้อมเข้าข่ายเจ้าชู้และขี้เบื่อไหม ???

     มีคนบอกว่า อ้อมขี้เบื่อ ซึ่งถ้าไม่ขี้เบื่อคงไม่เจ้าชู้หรอก ถูกไหม  (ยิ้ม) อาจเป็นคนที่ไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี เหมือนกระเป๋าที่เราพูดว่า  ใบนี้ใช่เลย ฟังก์ชั่นเป๊ะ จะไม่เปลี่ยนแล้วล่ะ แต่จู่ๆ  วันหนึ่งเจอกระเป๋าใบใหม่ โอ้โฮ... สวยจัง อยากซื้อใจแทบแตก  ซึ่งถ้ากลั้นใจไม่ซื้อก็คงประคับประคองใบเก่าต่อไปได้ แต่ถ้าได้ซื้อแล้ว  อย่างน้อยก็ต้องใช้ใบใหม่พักหนึ่งละ

    พนักงานรุ่นเก่าๆ  ที่เอไทม์จะรู้ว่า สมัยก่อนอ้อมเจ้าชู้ แล้วที่เอไทม์ปิดความลับไม่มิด  ถ้ารู้หนึ่ง แปลว่า หนึ่งบริษัท (หัวเราะ)  เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่เราไม่มีความลับต่อกัน โดยเฉพาะพี่ฉอด (สายทิพย์  มนตรีกุล ณ อยุธยา) รู้ทุกเรื่อง อยู่ที่ว่า จะพูดหรือเปล่าเท่านั้น

     อย่างครั้งหนึ่ง พอพี่ฉอดรู้ว่า อ้อมชอบใคร  เขาถ่ายรูปคนนั้นส่งมาให้ทางโทรศัพท์มือถือ  พร้อมข้อความว่า “หึหึ...”  เห็นแล้วตกใจมาก อ้อมส่งข้อความกลับไปว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ขออีกรูปได้ป่ะ  (หัวเราะ)

[แพรว]เคยมีกิ๊กพร้อมกันมากที่สุดกี่คนครับ ???

     3 คน เคยบังเกิดรถไฟชนในวันเดียวด้วย คือระหว่างเดินอยู่กับคนหนึ่ง  ก็บังเอิญเจอคนที่สอง หลังจากคุยกันสักพักแล้วแยกย้าย  ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงก็เจอคนที่ 3 อีก ทำให้เรา 4 คนได้เจอกันพร้อมหน้า  แฮปปี้แฟมิลี่ (หัวเราะ) แต่ความจริงคือ ใจไม่เป็นสุขเลย ร้อนรนมาก  พยายามทำหน้านิ่ง คิดว่าทุกอย่างแก้ไขได้ แล้วพอวันรุ่งขึ้น

    ทุกคนก็ยังอยู่ครบ ไม่เห็นมีอะไรพัง แต่ละคนยังโทรหาเรา  ยิ่งคิดว่าตัวเองเจ๋ง การมีกิ๊กไม่ใช่เรื่องผิด  เป็นช่วงชีวิตที่หวือหวาจนเพลิน มีกิ๊กเพราะคิดว่า เราเลือกได้ และใครๆ  ก็เลือกเรา เดี๋ยวไปกับคนนั้น เดี๋ยวมากับคนนี้... เสล่อมาก  แล้วสุดท้ายคุณผลประกอบการทั้งหมดก็มาออกดอกผลิผลในช่วงอายุ 30 ที่คราวนี้ไม่รอดแล้ว ต้องร้องไห้เสียใจ และเสียคนที่ไม่ควรจะเสียในชีวิต

[แพรว]ชีวิตตอนนั้นเป็นอย่างไรครับ ???

     เหมือนในละครเลย ที่ตัวละครหนึ่งถูกคนรักทิ้ง แล้วโอดครวญว่า ถ้าขาดเธอ  ฉันจะยอมตาย จากนั้นแม่ก็เข้ามาปลอบว่า  ทำไมต้องทิ้งชีวิตเพื่อคนที่ไม่รักเรา ยังมีแม่ที่รักลูกอีกทั้งคน  เรื่องของอ้อมไม่ได้ดีกว่านั้นเลย สาเหตุเริ่มจากอ้อมกับแฟนมีปัญหาตึงๆ  กันมาพักหนึ่ง แล้วอ้อมไม่สบายเข้าโรงพยาบาล ภาวะป๊อดจึงยิ่งหนัก  พอเขาไม่มาดูแลก็เพ้อว่า เฮ้ย ทำไมไม่มาดูแลเรา

    สุดท้ายก็ทำเหมือนในละครที่มักมีประโยคว่า ถ้าเธอทิ้ง ฉันจะกินยา กระโดดตึก ให้รถชน เพื่อเรียกความสนใจ  อ้อมไม่อยากเรียกการทำแบบนั้นว่า โง่ แต่อ้อมก็เคยเป็นคนโง่  เคยใช้คำพูดว่า อย่าทิ้งอ้อมไปนะ ไม่งั้นอ้อมจะ... ประมาณว่า  ถึงชีวิตเลยล่ะ ถามว่า ได้เขากลับมาไหม ได้นะ  แต่เขากลับมาเพื่อรักษาชีวิตเรา สุดท้ายก็ยื้อได้ไม่นานหรอก  เพราะถ้าใจเขาไม่อยู่แล้ว ในที่สุดก็ต้องจบกัน  แต่วันนั้นอ้อมขอบคุณที่เขาใจดีช่วยไว้ เพราะรู้ตัวว่า อีโก้เยอะ  เป็นประเภทพูดแล้วต้องทำ คือไม่อยากตายหรอก แต่เสียหน้าไม่ได้ ยังคิดเลยว่า  สเต็ปต่อไปนี่ต้องทำเรื่องไม่ดีหรือเปล่า

[แพรว]อ้อมที่ปกติเป็นคนเข้มแข็ง แต่สภาพจิตใจในตอนนั้นเป็นอย่างไรครับ ???

  อ้อมว่าคนที่ท้าทายแบบนั้นคือคนที่อ่อนแอมากถึงมากที่สุด จนไม่สามารถยืนคนเดียวได้ จึงเลือกวิธีนี้มาดึงความสนใจ ร้องไห้เยอะ เป็นอารมณ์พังทลาย อยู่กับตัวเองแทบไม่ได้ ฟุ้งซ่านว่า เฮ้ย ไม่รักกันหรือ เราทำขนาดนี้แล้วนะ แต่พอผ่านเหตุการณ์นั้นมาก็ได้บทเรียนว่า การท้าทายกันไม่ใช่เรื่องดี ถ้าเราแลกชีวิตกับคนคนหนึ่ง ความรักของเราคงมีค่า แต่แม่ที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กมีค่ากว่านั้นหรือเปล่า อ้อมมีสิทธิ์อะไรไปทำลายชีวิตที่อีกคนพยายามรักษามาเป็นอย่างดี ถ้าแม่รู้ว่าอ้อมตายแบบนั้น คงไม่เลี้ยงให้ปวดหัวแน่ๆ  

 

[แพรว]นั้นคือการอกหักครั้งหนักที่สุดหรือเปล่าครับ ???

อ้อมว่าเวลาความรักพัง เราจะบอกตัวเองเสมอว่า ครั้งนี้เสียใจที่สุด เพราะอ้อมเคยพูดตอนอายุ 18 ว่า ถ้าเลิกกับคนนี้

กูจะไม่มีใครอีกแล้ว ต่อจากนี้ รักใครไม่เป็น! (เสียงใส่อารมณ์) แต่พอ 18 ครึ่ง อ้อมมีคนใหม่จ้า (หัวเราะ) หลังจากนั้นความรักบรรลัยตอน 19 ครึ่ง ไม่เกิน 20 มีแฟนอีก ซึ่งแต่ละครั้งก็เสียใจมากทุกครั้ง อยู่ที่ตอนนั้น เราอ่านแอหรือแข็งแรงแค่ไหนมากกว่า

   ความรักของอ้อมก็เหมือนทุกคน ลุ่มๆ ดอนๆ ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ทั้งหมดเพราะทำตัวเอง อย่าไปโทษเพราะคนอื่นทำ การได้คนที่รักมาก ก็เพราะดีกับเขามาก การได้คนที่รักน้อย ก็เพราะนิสัยไม่ดีกับเขาเยอะ  แล้วใครจะทนไหว แต่ความจริงอ้อมไม่ค่อยพูดถึงเรื่องความรักของตัวเองนะ มองว่าความรักเป็นเรื่องของสองคน นอกจากเพื่อนก็ไม่พูดให้คนนอกฟัง เพราะหลายครั้งที่พังเพราะคนนอกนี่ล่ะ คนหวังดีประสงค์ร้ายก็เยอะ เขาพูดโดยไม่คิดร้ายหรอก แต่หลายครั้งก็ฆ่าความสัมพันธ์ จะโกรธเขาก็ไม่ได้ แต่มาคุยกับแพรวครั้งนี้ ถือว่าพูดเยอะมาก (ลากเสียง)  เยอะจนมั่นใจว่าแม่ต้องถามแน่ว่า เรื่องนี้ใคร แล้วตอนนี้คบใคร 

[แพรว]แล้วตอนนี้คบใครครับ ???

     ไม่บอกเหอะ (หัวเราะเขิน) เอาเป็นว่า โตป่านนี้ต้องมีคนคุยด้วยแล้วล่ะ

 [แพรว]เวลามีแฟนแต่ละครั้ง คุณแม่ไม่รู้หรือครับ ???

    แม่รู้คร่าวๆ ว่าช่วงนี้สนิทกับใคร เขาชอบพูดลอยๆ ว่า เพื่อนเยอะนะ(หัวเราะ) หรือบางทีก็บอกว่า อ้อมเป็นอะไร ชอบสนิทกับเพื่อนทีละคน คือจริงๆ แม่รู้ล่ะค่ะ แต่ไม่พูด โคตรแมนเลย แล้วพออ้อมคอตกกลับบ้าน เขาจะปลอบว่า มีอะไรก็บอกนะ สองหัวดีกว่าหัวเดียว เชื่อแม่ อ้อมจะกอดเขา แล้วเล่ากึ่งยกตัวอย่างว่า ถ้าเป็นแม่ จะแก้ไขอย่างไร ซึ่งจริงๆ ก็คือวิธีบอกแม่แบบสวยๆ นั่นละ ว่ากับคนนี้พังแล้วนะจ๊า

[แพรว]ความรักของอ้อมในวันนี้เป็นสีชมพูไหม  ???

 ดีนะคะ (ยิ้ม) เพลินๆ คบกันแบบมีสติ รู้ผิดชอบชั่วดีขึ้นเยอะ เจ้าชู้น้อยลง ตอนนี้คุยอยู่กับคนเดียว อะไรที่ไม่ดีไม่ทำ แต่ถ้าถามว่า สามารถใช้ชีวิตเหมือนแฟนทั่วไปได้ไหม คำตอบคือไม่  สำหรับคนอื่น ถ้าเป็นแฟนกันคงอยากเดินจับมือ แต่อ้อมทำอย่างนั้นไม่ได้ในบางสถานที่ เพราะชินกับการต้องดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ภาพลักษณ์ก็มีส่วน ขนาดอ้อมเอนทรานซ์ไม่ติด คนยังจับจ้องเลย ถ้าสมัยนั้นจับมือกับแฟนไม่โดนถีบหรือ คงโดนมองว่าไม่เรียบร้อย อ้อมจึงดูแลตัวเองจนชิน    

   อ้อมเห็นใจคนที่อยู่ในวงการเดียวกันมาก เขามีหลายอย่างที่อยากทำเหมือนคนอื่น แต่ทำไม่ได้ เป็นความได้อย่างเสียอย่าง  ถ้าเป็นคนธรรมดา เวลาเลิกกับแฟน อย่างมากก็มีแค่เพื่อนในออฟฟิศถาม แต่ดาราต้องมานั่งตอบคำถามนักข่าว เพราะมีคนรออ่านอยู่ทั้งประเทศ  การเลิกกับแฟนว่าเศร้าแล้ว แต่ต้องมานั่งเล่าเรื่องของตัวเองให้สังคมรู้อีก

แถมอาชีพนี้ยังถูกคาดหวังว่าต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ทั้งที่ทุกคนก็เป็นคนธรรมดา

ขอบคุณภาพประกอบจาก นิตยสาร แพรว

ขอบคุณข่าวจาก :: คุณ ~ ทโมน แห่ง ธิโมส์ ~  พันทิป / เฉลิมไทย

https://www.facebook.com/teeneedotcom