พยายามกระแซะแย็บถามเจ้าตัวนอกรอบทีละนิดละหน่อย จนโหน่งได้พูดทีเล่นทีจริงออกมาว่าตัวเขาเองไม่ค่อยคุ้นชินกับวงการบันเทิงเท่าไหร่ บางทีเขายังไม่ตอบอะไรเลยมันก็เป็นเรื่องยาว ซึ่งถ้าจะให้เขาออกมาพูดมันก็ไม่ดีต่อตัวเขาเองและไม่ดีต่ออุ้มด้วย ส่วนข่าวที่ว่าเขาโทร.ไปบอกทุกคนว่าได้เลิกกับอุ้มแล้ว บก.หนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงตลกว่าตนจะไปทำอย่างนั้นทำไม ก่อนจะบอกต่อด้วยว่าหากจะพูดถึงอุ้มก็ขอพูดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการหางานให้คนตาบอดที่เขาได้มีส่วนร่วมจะดีกว่า
"พฤติกรรมแบบนั้นผมว่ามันไม่แมนเลย อีกอย่างหนึ่งผมไม่รู้ว่าผมจะออกมาพูดหรือปฏิเสธไปทำไม เพราะมันคงจะไม่ได้อะไรขึ้นมา เพื่อนที่สนิทกันอย่างโน้ส (อุดม แต้พานิช) เองก็บอกว่าไม่ต้องไปพูดอะไรเขาบอกว่าเงียบๆ ไว้ดีที่สุด"
ผมอยากพูดถึงโครงการของอุ้มได้มั้ยครับ เป็นโครงการหางานให้คนตาบอด คืออุ้มเขาไปออกรายการเจาะใจเขาก็ทำโครงการหางานให้คนตาบอดนี้ขึ้นมา ซึ่งเป็นโครงการของเขาเองเลยครับ เหมือนเขาเป็นสื่อกลางในการหางานให้คนตาบอด
ก็มีโครงการนี้ที่ผมสนับสนุนเขาเต็มที่เลย แล้วอุ้มเขาก็ทำเต็มที่เลยเหมือนกันนะครับ ผมก็ช่วยได้เท่าที่ช่วยครับเริ่มแรกผมก็เพิ่งรับคนตาบอดเข้ามาทำงานที่อะ เดย์คนหนึ่ง เขาจบมหาลัยมา ก็เก่งนะ ผมว่ามันเป็นความคิดที่เป็นรูปธรรมดี การช่วยคนตาบอดก็คือไม่ใช่ไปให้เขาไปขายล็อตเตอรี่หรือเป็นโอเปอร์เรเตอร์แค่นั้นน่ะครับ
เรื่องรักไม่อยากพูด พอถามถึงเรื่องงานกับการที่ได้รับเลือกให้เป็นไอดอลของวัยรุ่นในโครงการ My Idols my Brands ซึ่งค่อนข้างจะขัดๆ กับนิสัยของเขาที่บอกอยู่เสมอว่าไม่อยากจะทำตัวเด่นดังนั้น เจ้าตัวบอกว่ายอมรับว่าเขินเหมือนกันพร้อมกับบอกว่าสาเหตุที่ได้คัดเลือกนี้ก็น่าจะมาจากหนังสืออะ เดย์ ที่เขาทำนั่นเอง เคยมีใครมาบอกเราโดยตรงมั้ยว่าเราเป็นไอดอลของเขา
อือ มันก็เขินๆ เหมือนกันนะที่บอกว่าเราเป็นไอดอล แต่ถ้าเอาจริงๆ เลยก็คือพอจะรู้ครับ คืออะ เดย์ก็มีแฟนๆ น่ะครับ แล้วก็ได้รับเสียงสะท้อนอยู่เสมอจากผู้อ่านว่าถือแนวการทำงานวิธีความคิดของผมเป็นตัวอย่าง แล้วก็เวลาไปพูดตามสถาบันศึกษาต่างๆ ก็ได้พบว่ามีน้องๆ นักศึกษาหลายคนที่ชอบแนวแบบที่เราทำน่ะครับ ก็พอจะรู้ได้บ้างว่าเราเป็นตัวอย่างหนึ่งของวัยรุ่นโดยเฉพาะวัยรุ่นที่ชอบอ่านหนังสือ
กดดันมั้ยที่ต้องเป็นต้นแบบของใครหลายๆ คน?
เอ่อส่วนหนึ่งภูมิใจครับเพราะเราก็เคยมีต้นแบบของเรา แล้ววันหนึ่งเราก็ไม่เคยคิดว่าสิ่งที่เราทำมันจะเป็นแบบให้วัยรุ่นเด็กรุ่นใหม่ได้ยึดถือเป็นแนวทางนะครับ แต่อีกส่วนหนึ่งก็รู้สึกกังวลใจนิดหนึ่งเพราะว่าวัยรุ่นก็มีหลายแบบ วัยรุ่นจำนวนหนึ่งก็คิดได้แยกแยะได้ แต่วัยรุ่นจำนวนหนึ่งก็อาจจะคิดได้น้อย ก็อาจจะตามเราไปทั้งหมดอย่างนี้"
ยอมรับรู้สึกกดดันอยู่บ้างเหมือนกันเพราะพฤติกรรมบางอย่างที่ตนเองทำก็ไม่ใช่เรื่องดีที่คนอื่นไม่ควรเอาอย่าง
"ผมก็ปุถุชนธรรมดาน่ะครับ ก็มีทั้งข้อดีและข้อบกพร่อง ผมก็อึดอัดนิดหนึ่ง ก็อยากให้เลือกข้อดีไปละกัน อย่างเช่นผมเคยสูบบุหรี่นะครับ แต่ทีนี้เวลาออกไปข้างนอกเริ่มมีคนรู้จักแล้วไปตามสถาบันต่างๆ เนี่ย ผมก็จะรู้สึกไม่ค่อยดี คือนึกออกมั้ยครับมันสามารถจะเลียนแบบได้ ผมก็เลิก แต่ส่วนหนึ่งไม่ได้เลิกเพื่อวัยรุ่นเพื่อสังคมน่ะนะครับ เลิกเพื่อสุขภาพของตัวเองด้วย
เป็นคนของประชาชนเหรอครับ ผมว่ามันเป็นคำที่ยิ่งใหญ่ไปครับ และเป็นคำที่เป็นภาระยังไงชอบกล(หัวเราะ) ผมคงเป็นบุคคลกึ่งสาธารณะมั้งครับ(หัวเราะหึๆ) คือผมเคยบอกไว้เสมอนะครับจริงๆ เลยนะผมไม่ชอบมีชื่อเสียงครับ ผมไม่ชอบมีชื่อเสียงมากไปครับ ผมชอบมีชื่อเสียงนิดหน่อยพอที่จะมีคนอ่านหนังสือที่ผมทำพอแล้ว แต่ว่ามีชื่อเสียงมากเกินไปเนี่ยผมอึดอัดครับ ผมไม่ค่อยชอบ ทุกวันนี้ผมพยายามถอยออกมาจากการมีชื่อเสียงมากๆ ครับ
ถ้างั้นแฟนคนต่อไปก็คงไม่ใช่ดาราแล้วน่ะสิ 555
โหน่ง
https://www.facebook.com/teeneedotcom