ตั้งแต่มีคลิปเสียงกรณีรักสามเส้า เราสองสามคน
ระหว่างแม่ของ พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช ที่ออกมาปกป้องลูกสาว กับสาว ธัญญาเรศ เองตระกูล ก็ทำเอาหลายคนจับตามองว่าจะมีผลกระทบกับงานของสาวพิ้งกี้หรือไม่ ล่าสุดมีโอกาสเจอ โด่ง-องอาจ สิงห์ลำพอง ผู้อำนวยการสถานีช่อง 8 ซึ่งป้อนงานให้พิ้งกี้อย่างต่อเนื่อง ในงานบวงสรวงละครเรื่อง “น้องเมีย” และ “มนต์รักตลาดสด” ที่อาร์เอสสตูดิโอ เจ้าตัวเลยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า
“เรื่องจำนวนละคร เราดูความเหมาะสมของเรื่องและนักแสดงเป็นหลักอยู่แล้ว เคยคุยกันไว้แล้วว่าจะมีละครให้น้องปีละ 2 เรื่อง แต่พอวางพล็อตเรื่องทั้งหมดแล้วก็สรุปว่ามีละครให้น้องทั้งหมด 3 เรื่อง แต่ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะจุดที่พิ้งกี้แรงที่สุดในชีวิตคือการเลือกเล่น “ทองประกายแสด” คือตอนนั้นเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ของเราและของเขา ผมว่าถ้าเขาผ่านจุดนั้นมาได้ มันไม่มีจุดอื่นอีกแล้ว เรื่องระหว่างทางตรงนี้มันเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ มาก เป็นกระแสแค่วูบหนึ่ง เวลาผมมองพิ้งกี้ เราไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัวเลย เราแค่ชอบงานที่เขาเล่น เราชอบตรงนี้ อยากให้เขาพัฒนาตรงนี้เพิ่มแค่นั้น เราคุยเรื่องงานเป็นหลัก
โด่ง ยันป้อนงาน พิ้งกี้ ต่อเนื่อง เชื่อข่าวไม่ทำลายเส้นทางซุปตาร์
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย โด่ง ยันป้อนงาน พิ้งกี้ ต่อเนื่อง เชื่อข่าวไม่ทำลายเส้นทางซุปตาร์
ส่วนถามว่ามีกระแสเข้ามาไหม มีคนทางบ้านโทรศัพท์หรือส่งอะไรเข้ามาต่าง ๆ ให้ช่องช่วยพิจารณา
แต่สุดท้ายผมก็จะตอบคนเหล่านั้นว่า อยากให้มองเขาที่การแสดงจริง ๆ เรื่องส่วนตัวอยากให้ใช้วิจารณญาณ แต่ถ้าคิดว่าเรื่องส่วนตัวกระทบกับงานเราห้ามไม่ได้จริง ๆ เพราะว่าช่องชั่งน้ำหนักจากการทำงานเป็นหลัก ณ วันนี้ “ราชินีลูกทุ่ง” ออกอากาศอยู่ เราดูกระแสของคน คือหลังจากพิ้งกี้ออกข่าว คนดูก็เยอะขึ้น เพราะละครมันเริ่มสนุก และมันก็สะท้อนว่าคนดูไม่ได้เลือกที่จะดูเพราะเรื่องส่วนตัว คนดูมองว่าคนนี้เล่นละครให้เขาดูได้ แล้วมันสนุก คนก็เบื่อกับข่าวแบบนี้แล้ว และผมก็มองว่าช่องเราไม่ได้มีพื้นที่ให้ใครมาแฉใคร เราก็ทำงานของเราไป บางเรื่องเป็นเรื่องข้างในครอบครัว ซึ่งเราไม่อยากไปยุ่ง”
แสดงว่าไม่ได้รับผลกระทบ?
“ไม่นะ พี่มองว่าเป็นผลดีในการทำงาน ทำให้เขาได้เคลียร์ตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถามว่าผมได้ฟังคลิปไหม ก็ฟัง ก็สนุกดี เรารู้จักคุณแม่น้องดีว่าเป็นคนตรง ๆ ชัดเจน คนเราถ้าถึงจุดพูดแบบนี้ได้ มันต้องมีแรงข้างในพอสมควร เพราะฉะนั้นเข้าใจทั้งสองฝ่าย พี่ว่าตอนแรก ๆ เขาเครียด เพราะเขามาถึงจุดหนึ่งที่คนยอมรับเขาได้ แต่ก็มีอะไรที่จะฉุดเขา เบี่ยงทิศทางไปอีก แต่พี่ว่าถ้าพิ้งกี้หนักแน่น ไม่มีอะไรที่จะทำร้ายเขาได้ คือคนเรามันจะเป็นซูเปอร์สตาร์ ยังไงก็ขวางซูเปอร์สตาร์ไม่ได้
ล่าสุดที่เจอเขาโอเคนะ ปกติดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ผมว่าเขามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เขาผ่านเรื่องอะไรมาเยอะแยะ เรื่องแค่นี้ผมว่ามันจิ๊บ ๆ ผู้ใหญ่ก็ไม่มีการพูดคุยใด ๆ ผมว่านักแสดงกับข่าวมันเป็นเรื่องปกติ”.
แต่สุดท้ายผมก็จะตอบคนเหล่านั้นว่า อยากให้มองเขาที่การแสดงจริง ๆ เรื่องส่วนตัวอยากให้ใช้วิจารณญาณ แต่ถ้าคิดว่าเรื่องส่วนตัวกระทบกับงานเราห้ามไม่ได้จริง ๆ เพราะว่าช่องชั่งน้ำหนักจากการทำงานเป็นหลัก ณ วันนี้ “ราชินีลูกทุ่ง” ออกอากาศอยู่ เราดูกระแสของคน คือหลังจากพิ้งกี้ออกข่าว คนดูก็เยอะขึ้น เพราะละครมันเริ่มสนุก และมันก็สะท้อนว่าคนดูไม่ได้เลือกที่จะดูเพราะเรื่องส่วนตัว คนดูมองว่าคนนี้เล่นละครให้เขาดูได้ แล้วมันสนุก คนก็เบื่อกับข่าวแบบนี้แล้ว และผมก็มองว่าช่องเราไม่ได้มีพื้นที่ให้ใครมาแฉใคร เราก็ทำงานของเราไป บางเรื่องเป็นเรื่องข้างในครอบครัว ซึ่งเราไม่อยากไปยุ่ง”
แสดงว่าไม่ได้รับผลกระทบ?
“ไม่นะ พี่มองว่าเป็นผลดีในการทำงาน ทำให้เขาได้เคลียร์ตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถามว่าผมได้ฟังคลิปไหม ก็ฟัง ก็สนุกดี เรารู้จักคุณแม่น้องดีว่าเป็นคนตรง ๆ ชัดเจน คนเราถ้าถึงจุดพูดแบบนี้ได้ มันต้องมีแรงข้างในพอสมควร เพราะฉะนั้นเข้าใจทั้งสองฝ่าย พี่ว่าตอนแรก ๆ เขาเครียด เพราะเขามาถึงจุดหนึ่งที่คนยอมรับเขาได้ แต่ก็มีอะไรที่จะฉุดเขา เบี่ยงทิศทางไปอีก แต่พี่ว่าถ้าพิ้งกี้หนักแน่น ไม่มีอะไรที่จะทำร้ายเขาได้ คือคนเรามันจะเป็นซูเปอร์สตาร์ ยังไงก็ขวางซูเปอร์สตาร์ไม่ได้
ล่าสุดที่เจอเขาโอเคนะ ปกติดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ผมว่าเขามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เขาผ่านเรื่องอะไรมาเยอะแยะ เรื่องแค่นี้ผมว่ามันจิ๊บ ๆ ผู้ใหญ่ก็ไม่มีการพูดคุยใด ๆ ผมว่านักแสดงกับข่าวมันเป็นเรื่องปกติ”.
https://www.facebook.com/teeneedotcom