คุ้ยหัวใจญาญ่า อุรัสยากับณเดชน์มีลุ้นหรือไม่!?

เข้าวงการมาเป็นปีที่ 4 แล้ว สำหรับนางเอกสาวฮอต "ญาญ่า"อุรัสยา สเปอร์บันด์ ที่นับวันความดังยิ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ 

ล่าสุดมารับบท "ดรุณี" ประกบพระเอกคู่ขวัญ "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ในละคร "ธรณีนี่นี้ใครครอง" ทางช่อง 3 จนแฟนๆ ติดกันงอม 

วันนี้เลยพลาดไม่ได้ที่จะพูดคุยกับน้องหนู ว่าแล้วก็ฝ่าจราจรอันคับคั่งในกรุงเทพฯ มุ่งสู่จ.นครนายก สถานที่ถ่ายทำ "ดาวเรือง" ละครเรื่องปัจจุบันที่ดาราสาวแสดง 


เข้าวงการมาแล้ว 4 ปี เป็นอย่างไรบ้าง
ญาญ่า - "ดีค่ะ คือก่อนหน้านี้ไม่ได้คิดว่าจะมาทำตรงนี้ หนูเป็นคนชอบเรียนหนังสือ พอดีมีโอกาสแคสต์งานโฆษณาสินค้าตัวหนึ่งและได้ถ่าย ตอนถ่ายครั้งแรกจะงง ไม่ได้อยากทำด้วยตอนนั้น แต่ที่ตัดสินใจทำเพราะมีคติอย่างหนึ่งว่า "เรามีชีวิตเดียว ฉะนั้นโอกาสอะไรที่เข้ามาในชีวิตไม่ควรทิ้ง ควรคว้าไว้ก่อน ทำให้มันมีค่าที่สุด" คตินี้คุณพ่อเป็นคนสอน ซึ่งพอทำแล้วสนุกดี เป็นอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยลอง ท้าทายดี จากนั้นก็มีงานเดินแฟชั่น ถ่ายหนังสือ และช่อง 3 เห็น จึงเรียกเข้ามาเทสต์หน้ากล้องและจับเซ็นสัญญา ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็ปล่อยอิสระ คุณพ่อบอกมาตลอดว่าชีวิตคือชีวิตของยู ยูอยากทำอะไรก็ให้ตั้งใจทำ คุณพ่อจะสนับสนุนถ้าเป็นฝันของลูกจริงๆ"

งานแสดงเรื่องแรกคืออะไร
ญาญ่า - "ซิตคอม "เพื่อนซี้ล่องหน" ของทีวีธันเดอร์ ตอนเล่นมีปัญหาภาษาไทยอย่างมาก ตอนนั้นยังไม่ได้เซ็นกับช่อง 3 เหมือนไปลองเล่นดู ถ่ายอยู่ปีนิดๆ ซิตคอมยากมาก เป็นมุขคนไทยที่หนูไม่เข้าใจเลย ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจ จังหวะก็ไม่ได้ ช่วงนั้นหนูไม่อยากไปถ่ายเลย แต่ก็ยังเล่นจนจบ เพราะต้องมีความรับผิดชอบ ตัดสินใจจะเล่นแล้วต้องเล่นให้จบ ได้ประสบการณ์จากตรงนั้นทำให้เตรียมพร้อมมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งมาตอนนี้ภาษาไทยดีขึ้น" 

"หลังจากนั้นก็มีเรื่อง "บ้านก้านมะยม" แล้วก็มา "กุหลาบไร้หนาม", "ดวงใจอัคนี", "ตะวันเดือด", "เกมร้ายเกมรัก", "ธรณีนี่นี้ใครครอง" และที่กำลังถ่ายทำอยู่ตอนนี้คือ "ดาวเรือง" กับ "มายาตะวัน" แต่เรื่องที่คนรู้จักมากที่สุดคือ "ดวงใจอัคนี" ที่กลายเป็นคู่ขวัญกับพี่ณเดชน์ ได้ร่วมงานกัน พี่เขาเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาก เฟรนด์ลี่เข้ากับคนง่าย" 


ญาญ่า อุรัสยาญาญ่า อุรัสยา


ละครเรื่อง "ดาวเรือง" ที่กำลังถ่ายทำ เห็นว่ายากมาก
ญาญ่า - "ยากกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมาเพราะ คาแร็กเตอร์ดาวเรืองไกลตัวหนูมากที่สุดเท่าที่เล่นมา มันเข้าคาแร็กเตอร์ยากมาก จริงๆ ดาวเรืองเป็นคนที่เหมือนผู้ชาย ทำอะไรกระฉับกระเฉง คำพูดหนักแน่น หนูอาจเล่นไม่ถึงเท่าไหร่ ซึ่งดูจากภายนอกคนจะบอกว่าลักษณะหนูดูแก่นๆ ซนๆ เหมือนดาวเรือง แต่หนูคิดว่าดาวเรืองไม่ได้ซนไม่ได้ขี้เล่นอะไรแบบนั้น แต่เป็นคนที่ไว ฉลาด เก่ง และนิ่ง หนูไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้มาก่อนก็เลยยาก"

"และเรื่องภาษาด้วย คำพูดยากมาก เป็นคำพูดชาวบ้านแล้วมันไม่ค่อยเข้าปาก หนูภาษาไทยเองยังไม่ค่อยคล่องเลย ดาวเรืองพูดแล้วคนต้องเชื่อ ถ้าหนูพูดแบบไม่เต็มปากเต็มคำมันจะดูไม่น่าเชื่อถือ ก็จะไม่เป็นคาแร็กเตอร์ของดาวเรือง บทต้องเป๊ะมาก ส่วนอีกเรื่องที่ถ่าย มายาตะวัน โดยคาแร็กเตอร์ในเรื่องจะธรรมดา เป็นนักข่าว เป็นสาวกรุง คำพูดก็เลยจะเข้าปากได้ง่ายค่ะ" 

คิดไหมว่าจะดังและมาไกลขนาดนี้
ญาญ่า - "ไม่เลย ไม่เคยคิดว่าจะประสบความสำเร็จเร็วขนาดนี้ ทุกอย่างมีแต่คำตอบรับที่บวก ภูมิใจในตัวเองค่ะ" 

"ยอมรับว่าชีวิตเปลี่ยนไป ไปไหนมีคนรู้จัก ความเป็นส่วนตัวอาจหายไป แต่หนูรู้สึกว่าชีวิตก็คือชีวิต อะไรสิ่งเหล่านี้มันไม่ได้ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปได้เยอะขนาดนั้นหรอกค่ะ อย่างตอนไปเดินเล่นหรือช็อปปิ้ง หนูก็ยังเป็นตัวเอง รู้สึกอยากจะร้องเพลงก็ร้อง อยากจะเต้นกลางห้างก็เต้น คือหนูไม่ได้กังวลว่าออกไปข้างนอกต้องรักษาภาพ คือหนูเป็นตัวเอง อย่างน้อยไม่ลืมว่าเราเป็นใคร แล้วทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกก็อยากทำให้ทุกคนรู้ว่า จริงๆ หนูก็เป็นคนธรรมดา"

ทำงานอย่างนี้มีปัญหาเรื่องเรียนไหม
ญาญ่า - "นิดหนึ่งค่ะ หนูกำลังขึ้นปี 3 คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ตอนนี้ยังไม่เปิดเทอมก็โอเคอยู่ แต่ที่ผ่านมาจะไม่ค่อยรับงานช่วงเรียน ปีแรกนี่เกรดดีมาก 3.5 พอมาปี 2 ถ่ายละคร 2 เรื่องพร้อมกันคือ เกมร้ายเกมรัก กับ ตะวันเดือด เกรดดร็อปไปนิดนึง แต่ถือว่ายังดีอยู่ ส่วนเรื่องที่จะหวังเกียรตินิยมเป็นไปไม่ได้ เพราะหนูจบ 5 ปีแน่นอน ลงเรียนน้อยกว่าเพื่อนเพื่อจะทำงานได้ ซึ่งหนูวางแผนตั้งแต่ตอนเข้าไปเรียนแล้วว่าขอให้เกรดเรียนดี จบช้าไม่เป็นไร ตอนนี้หนูอายุ 19 แต่หนูขึ้นปี 3 แล้ว หนูยังเหลือเวลาอีกเยอะเหมือนกัน ก็อยากได้เกรดดีแล้วทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยได้ค่ะ"


ญาญ่า อุรัสยาญาญ่า อุรัสยา

คิดว่าหนักไปไหมกับเด็กอายุ 19 ปีที่มารับผิดชอบงานขนาดนี้
ญาญ่า - "บางครั้งก็คิดว่าหนักไป คิดว่าในบางมุมหนูยังเด็กอยู่ในระดับหนึ่ง ยังไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองอย่างเต็มที่ และบางครั้งอยู่ตรงนี้มีอะไรหลายอย่างเข้ามา ปัญหาโน้นปัญหานี้ หลายๆ ครั้งไม่รู้จะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร ทำไมมันยากจัง อายุแค่นี้ยังยากขนาดนี้ ถ้าต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายเราก็คิดว่าไม่มีอะไรที่เราแก้ไม่ได้ เราสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ค่ะ"

ถือว่าเป็นข้อดีไหม ที่อายุแค่นี้แต่สามารถจัดการปัญหาต่างๆ ได้
ญาญ่า - "ดีมากเลยค่ะ เพราะที่ผ่านมาหนูได้เรียนรู้หลายอย่างมาก ได้เรียนรู้อะไรดีไม่ดี ได้รู้จักคนมากขึ้น สังคมที่หนูอยู่นี้มันกว้างมาก เราได้เจอหลายๆ คนที่บุคลิกไม่เหมือนกัน นิสัยไม่เหมือนกัน เหมือนได้เปิดหูเปิดตา ได้เห็นโลกมากขึ้น เห็นโลกในมุมมองที่บางคนไม่เคยสัมผัส แล้วหนูคิดว่ามันทำให้เราแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทำให้หนูเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต คือหนูคิดว่าหนูสามารถดูแลตัวเองได้ สู้เพื่อตัวเองได้"

ใจเคยมีบอกไหมว่าไม่ทำแล้ว 
ญาญ่า - "โอ้ย มีหลายครั้งมากค่ะ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่เพราะไม่มีเวลาทำอะไรทั้งสิ้น งานเยอะรู้สึกเหนื่อย แล้วมีปัญหานี่โน่น เล่นละครไม่ได้ดั่งใจรู้สึกท้อ แต่เรารับงานมาแล้วเป็นความรับผิดชอบที่ต้องทำให้เสร็จ" 

แนวคิดนี้ได้มาจากใคร แม่หรือพ่อสอน หรือว่าด้วยตัวเอง
ญาญ่า - "หนูว่าด้วยตัวเองค่ะ ไม่มีใครมาสอนเราในเรื่องความรับผิดชอบได้ เป็นอะไรที่ต้องเรียนรู้เอง ถึงแม้คุณแม่จะบอกว่ายูต้องทำแบบนี้แบบนี้ แต่ถ้าไม่อยากทำ ไม่ตั้งใจทำจริงๆ เราก็ไม่ทำ แล้วเราก็ไม่จำว่าอันนี้เราทำไปแล้ว แต่ถ้าใจเราบอกเองว่าอันนี้เราต้องทำเพราะมันเป็นงานของเรา เรารับงานนี้มาแล้ว มันคือความรับผิดชอบของเรา เราต้องทำให้เสร็จ หลังจากนั้นเราก็จำว่าโอเคเรามีความรับผิดชอบ" 

เวลาเหนื่อยมากๆ ใช้อะไรเป็นเครื่องช่วยให้กำลังใจในการทำงาน
ญาญ่า - "มาถึงหน้างานแล้วเจอคนเยอะๆ ค่ะ คือก่อนมาอาจง้องแง้ง แต่พอถึงหน้างานเจอคนเยอะๆ มันเหมือนได้กระตุ้นให้เรามีกำลังขึ้นมา"

ฟังดูแล้ว เหมือนชีวิตส่วนตัวหายไป
ญาญ่า - "หายไปเลยค่ะ แต่โดยส่วนตัวตั้งแต่เด็กหนูไม่ได้เที่ยวไม่ได้ออกนอกบ้าน เป็นคนติดบ้านอยู่แล้ว ฉะนั้นคิดว่าแค่นี้หนูแฮปปี้แล้ว"

"อย่างเพื่อนๆ มีเวลาไปเที่ยวดูหนัง บางทีหนูก็อยากทำอยากไปบ้าง อยากไปลองรสชาติชีวิตที่อิสระเหมือนเพื่อนๆ แต่หนูว่าชีวิตยังอีกยาวนานที่จะได้ลองไปเที่ยว หรือได้ทำอะไรแบบนั้นได้ในอนาคต คือตอนนี้ยังไม่จำเป็น ทำงานไปก่อนดีกว่า ถามว่าดูคิดซีเรียสไปไหม ไม่นะ หนูเป็นคนที่สบายๆ มากเลย เพราะหนูมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำ ยอมรับกับตัวเองแล้วว่ามันโอเค ยังมีเวลาอีกเยอะที่มีชีวิตอิสระ" 

ญาญ่า อุรัสยาญาญ่า อุรัสยา


ถามจริงๆ ทุกวันนี้เหนื่อยไหม
ญาญ่า - "มันเหนื่อยไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเรามีงานต่อเนื่อง เลยบอกตัวเองตลอดว่าไม่เหนื่อยๆๆ เหมือนหลอกตัวเอง แต่หนูก็คิดว่าหนูไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้น มันยังโอเค ที่ทำทุกวันนี้ก็ไม่ได้ฝืน หนูทำด้วยความชอบ สิ่งนี้หนูว่าสำคัญ ทำให้เรารู้สึกว่าไม่เหนื่อยค่ะ"

"ส่วนวิธีดูแลตัวเองก็พยายามไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไร ทุกนาทีสำคัญ แล้วเราทำงานหนักก็จะมีกินวิตามินบำรุงค่ะ" 

รักการแสดงหรือยัง
ญาญ่า - "รักนะคะ มันเป็นงานที่วิเศษ หนูชอบการแสดง คือทุกครั้งที่เข้าฉากหรือได้มาเล่นละคร หนูรู้สึกว่าได้พักตัวเองแล้วมาสวมบทเป็นคนอื่นสักพักหนึ่ง มันเป็นอะไรที่หนูเชื่อว่าทุกคนใฝ่ฝันอยากลอง ทุกครั้งที่เราอยากหาอะไรทำให้เราดีขึ้น อยากปรับปรุงโน่นนี่นั่น การที่ได้พักตัวเองแล้วได้เล่นเป็นคนอื่นมันเหมือนได้ปลดปล่อยค่ะ"

แล้วเรื่องความรักของตัวเองล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง 
ญาญ่า - "หนูไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง ความรักคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ห้าม เป็นเรื่องปกติ ชีวิตนี้ยังไงก็ต้องเจอ แต่หนูยังไม่มีเวลา ไม่มีอะไรเข้ามา" 

แล้วกับพระเอกคู่ขวัญล่ะ
ญาญ่า - "โอ้โห พี่ณเดชน์น่ะเหรอคะ (หัวเราะ) หนูว่าเราเป็นเพื่อนกันดีแล้วค่ะ เพราะยังไงเราก็ต้องทำงานด้วยกัน แล้วหนูว่าสถานภาพที่เป็นเพื่อนมันทำงานได้ง่าย มันน่าจะแฮปปี้กว่า"

จริงๆ เป็นได้แค่นั้น หรือพอจะมีโอกาสที่จะพัฒนาหรือเปล่า
ญาญ่า - "ไม่ค่ะ เป็นเพื่อนกันดีกว่า ซึ่งหนูว่าพี่เขาก็เห็นด้วย ถามว่าเคยคุยกันเรื่องนี้ไหม ไม่ค่ะ เป็นความเข้าใจกันว่าเราเป็นเพื่อนกันน่ะดีแล้ว ส่วนหลายคนมองว่าคู่นี้กุ๊กกิ๊กจัง มันเป็นกระแสละครค่ะ คือหนูยอมรับว่าเล่นกับพี่ณเดชน์แล้วคลิกมากเลย ด้วยส่วนตัวนิสัยคล้ายๆ กัน ขี้เล่นด้วยกันทั้งคู่ เพราะฉะนั้นเวลาเข้าฉากแล้วมันค่อนข้างเข้ากันได้ดี"

สเป๊กจริงๆ ของเราเป็นอย่างไร
ญาญ่า - "หนูยังหาสเป๊กไม่เจอ ยังไม่แน่ใจเลยว่าชอบแบบไหน ขอให้นิสัยดี แล้วพ่อแม่โอเคก็น่าจะโอเค หนูว่าภายนอกไม่สำคัญเท่าข้างในค่ะ"

เคยคิดอยากมีแฟนไหม
ญาญ่า - "แน่นอนสิคะ (หัวเราะ) เป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงทุกคน ตั้งแต่เด็กๆ หนูแพลนงานแต่งหนูเรียบร้อยแล้ว คืออยากได้ชุดที่ลากยาว มีเด็กๆ ถือชายกระโปรง และมีพิธีไทยก่อน แล้วไปแต่งในโบสถ์ทีหลัง อะไรอย่างนี้ค่ะ ถึงเวลานี้ก็ยังคิดค่ะ (ยิ้ม) อนาคตอย่างหนึ่งที่หนูรู้คือยังไงหนูก็ต้องแต่งงาน มีครอบครัว มีลูก แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เรื่องแบบนี้มันแพลนไม่ได้ แล้วแต่ว่าจะลงตัวเมื่อไหร่

อนาคตอยากทำอะไร
ญาญ่า - "ไม่รู้ค่ะ ตอนนี้หนูแบลงก์มากเกี่ยวกับอนาคต อย่างตอนแรกที่อยากเป็นหมอเป็นทนายความ อันนั้นไกลตัวไปแล้วเพราะไม่มีโอกาสเรียนมาตั้งแต่ไฮสคูล ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร แต่งานในวงการก็ยังทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้สึกว่าไม่ใช่แล้วหรือไม่มีโอกาสแล้วค่ะ"

แต่เชื่อเหอะ ยังไงแฟนๆ ก็ยังอยากให้อยู่ในวงการอีกนาน

ญาญ่า อุรัสยาญาญ่า อุรัสยา


ญาญ่า อุรัสยาญาญ่า อุรัสยา


ญาญ่า อุรัสยาญาญ่า อุรัสยา


ญาญ่า อุรัสยาญาญ่า อุรัสยา


ญาญ่า อุรัสยาญาญ่า อุรัสยา


ญาญ่า อุรัสยาญาญ่า อุรัสยา


ญาญ่า อุรัสยาญาญ่า อุรัสยา

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์