ไมค์รับน้อยใจคนทักเป็นกอล์ฟยันไม่แตกคอ
"วันนั้นไม่ได้ควงใคร ไมค์ไปกับโปรดิวเซอร์ พอดีได้บัตรมา 2 ใบ ไมค์เลยชวนโปรดิวเซอร์ไป เพื่อที่จะฟังแนวเพลง แต่เผอิญว่าไปเจอดาร์ลิงที่นู้น เขามากับพี่สาว แล้วก็คุณแม่ ไมค์ก็เลยเข้าไปสวัสดี แล้วก็เดินเข้าไปพร้อมกัน ก็ไม่ได้คิดอะไร คาดไว้แล้วว่า ต้องเกิดเหตุแบบนี้ ไมค์นั่งอยู่แป๊ปเดียวก็ออกมา เพราะว่าจะกลับบ้านไปคุยงานกับคุณพ่อคุณแม่ ปาร์ตี้เหรอครับ ไม่เคยไปปาร์ตี้ด้วยกัน มีแต่ไปทานข้าวกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มจุฬาฯ เท่านั้นเองครับ เพราะเราเรียนที่เดียวกัน ห้องเดียวกัน ก็ค่อนข้างสนิทกันเพราะว่าเรียนด้วยกัน เวลาต่างฝ่ายต่างมีงานก็จะคอยช่วยเหลือกัน ส่วนใหญ่ก็อยู่งานกลุ่มด้วยกัน ความสัมพันธ์ก็เป็นเพื่อนกันธรรมดาครับ เวลาแฮงค์เอาท์ ก็ไปด้วยกันเป็นกลุ่ม โอกาสพัฒนามีโอกาสสำหรับทุกคน แต่ไมค์ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เรื่องนี้ก็ไม่ขอพูดแล้วกันครับผม สำหรับภาพหลุดควงดาต้า ไมค์ไม่ได้เจอดาต้านะครับ ไม่เคยควงดาต้า และไม่ได้คุยกันด้วยครับ รู้จักกับดาต้าผ่านโปรดิวเซอร์ของไมค์นานแล้ว แต่ก่อนเขาก็เคยสอนวิธีการร้องเพลง จริง ๆ ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลย
ตอนนี้ เรื่องหัวใจเก็บไว้ทีหลัง เพราะครอบครัวของไมค์ ต้องมาก่อน มีเรื่องหลายที่ไมค์ต้องจัดการ แค่ทำงานก็เหนื่อยพออยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เรื่องอื่นขอวางไว้ก่อน สำหรับข่าวศึกสายเลือดระหว่างพี่กอล์ฟกับไมค์ ซึ่งจะไม่สามารถร่วมงานกันได้แล้วนั้น ไม่เกี่ยวหรอกครับ จริง ๆ เรื่องพี่น้องทะเลาะกัน เป็นเรื่องปกติของครอบครัว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับงาน เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว เราแยกกัน เพราะฉะนั้นการไม่ได้ทำงานร่วมกัน ไม่ได้แปลว่า ทะเลาะกัน ความสัมพันธ์พี่น้องตอนนี้ก็ดีครับ ดีกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ
จะมีโอกาสกลับมาร่วมงานกันมั้ย มันก็เป็นเรื่องของอนาคตครับ กับข่าวที่บอกว่า น้อยใจที่คนเรียกว่า กอล์ฟ นั้น ก็มีน้อยใจ ที่มีคนเรียกว่า กอล์ฟ แต่ก็ไม่แปลกใจ เพราะมันเป็นมานานแล้ว คิดได้อย่างเดียวคือ สักวันหนึ่งเราต้องทำให้คนรู้จักชื่อเรา เอาจริง ๆ นะ บางทีแม่ยังทักไมค์ผิดเลย บอก ตรง ๆ ว่า กอล์ฟกับไมค์ บุคลิกต่างกัน ไม่เหมือนกันเลย ถ้าเจอกัน 2 คนจะเห็นได้ชัดมากกว่า ไม่ใช่ฝาแฝด เราอายุห่างกัน 3 ปี
ซึ่งเรื่องอายุเราไม่ค่อยได้โปรโมทว่าเราอายุห่างกัน คนเลยคิดว่าเป็นฝาแฝดตลอด ส่วนเรื่องแฟนคลับจะมากจะน้อย เขาก็มีของเขา ไมค์ก็มีของไมค์ ก็แล้วแต่ความชอบของคนครับ จะเรียกว่า วงแตกหรือเปล่า วงไม่แตกครับ แต่อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่ทราบ มันอาจจะมีเหมือน แรพเตอร์ ที่มารวมกัน ตอนนี้มองเรื่องการให้ความสำคัญกับครอบครัวมาอันดับหนึ่ง ในอนาคตค่อยทำสิ่งที่เราอยากทำก็ได้ มันยังไม่สาย"
https://www.facebook.com/teeneedotcom