แถลงแก้เก้อ? โย-เอ ถอนฟ้องจ่ายปรับ 1 พัน

เคยยืนกรานเสียหนักแน่น ว่าไม่เคยรู้จัก

กับ นักธุรกิจหนุ่ม ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม แต่สุดท้ายเรื่องก็มาปูดขึ้นจนได้เมื่อนางแบบสาว โย-ยศวดี และพี่สาว เอ-อัญชลี หัสดีวิจิตร ไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับ สาวนอกวงการ โม-นภัสนันทร์ พสวงศ์ ที่ร้าน แอนนาการ์เด้น

ถึงขั้นฟ้องร้องกันขึ้นโรงพักในข้อหาทำร้ายร่างกาย

เป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ครั้งนี้คงปฎิเสธไม่ได้ว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์จะมีรายชื่อของ ชนม์สวัสดิ์ อยู่ด้วยเมื่ออีกฝ่ายยืนยันอย่างชัดเจนว่ามีชื่อนักธุรกิจคนนี้ก็มีชื่อในคดีก่อนหน้านี้ด้วย

นับว่าเป็นความซวยของสาวโยอย่างยิ่ง

เพราะเธอเจอคดี 2 เด้งในเวลาเดียวกัน จนในที่สุดต้องออกมาประกาศแถลงข่าวแจ้งความจำนงอันบริสุทธิว่าคดีกับสาวโมนั้น ฝ่ายตนไม่ผิดเพราะถูกหาเรื่องก่อน โดยสาวโมดิ่งตรงเข้ามาเพื่อจะทำร้ายพี่สาวก็เลยต้องปกป้องตัวเองไว้ก่อน

แม้โยและเอจะพยายามปัดป้องตัวเองยังไง

แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้างเธอเท่าไรนัก เพราะฟิตแบ็คที่ตอบกลับมานั้นส่วนใหญ่ มาในแง่ลบแทบทั้งนั้น ไม่ส่งผลดีแก่ตัวเธอเลย

แต่ในที่สุดก่อนที่คดีจะยืดเยื้อรู้ว่าใครเป็นฝ่ายพูดความจริง พูดเท็จ

ทั้ง 2 ฝ่ายจึงตัดสินใจยุติ ยอมความกันแต่โดยดี โดย 2 สีพี่น้องยอมเสียค่าปรับไป คนละ 1 พันบาท ตามระเบียบ นับว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องและเห็นชอบ เพราะขืนยื้อกันต่อไปก็มีแต่เสียกันเสียเท่านั้น ดีไม่ดี จะเพิ่มข้ออื่นอันหน้าหนักใจมาโดยไม่รู้ตัวอีกต่างหาก

แต่สำหรับนางแบบสาวโยนั้น เรื่องราวยังไม่จบเท่านั้น

เพราะอีกคดีที่เธอยังต้องเคลียให้เสร็จคือต้องไปเป็นพยานให้กับคดีของ ชนสวัสดิ์ อีกครั้ง โดยเมื่อวันก่อนเธอก็ได้ไปให้ปากคำที่สถานนี้ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การที่ได้ขึ้นหน้าหนึ่งกับคดีอันไม่พึงประสงค์ของทั้ง 2 พี่น้อง หัศดีวิจิตรนั้น

ส่งผลต่อการงานเธอไม่น้อยทีเดียว สาวโยต้องงดงานเดินแบบอย่างยาวนานซึ่งนับว่าเป็นการสูญเสียรายได้อย่างมหาศาลทีเดียว แถมยังถูกสังคมพิพากษาว่าเธอเป็นนางแบบที่ก้าวร้าวรุนแรงเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีอีกด้วย

กับคำกล่าวที่ว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

หรือ ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิดไม่มิด ดูจะฟ้องตัวเองอยู่ยามนี้ เพราะเมื่อเรื่องแดงขนาดนี้แล้ว คำพูดที่ว่า ไม่แย่งของใคร ไม่เคยรู้จักสามีชาวบ้าน ก็มดเท็จทั้งหมดนะสิ พอถูกถามเขาหน่อย โยกลับแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ว่า อีตอนมีข่าวนะไม่รู้จักจริ๊งๆ แต่เพิ่งมารู้จักอีตอนหลังนั้นแหละ ..เฮ้ย!! พูดไปสองไพรเบี้ย ใครเชื่อที่พูดก็โง่เต็มทีแล้ว