ฮิวโก้ - จุลจักร จักรพงษ์ กับ วันนี้ที่เปลี่ยนไปแล้ว

การที่จะไปโด่งดังในต่างประเทศได้นั้น เรียกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว แต่สำหรับเขาคนนี้ "ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์" วันนี้ประสบความสำเร็จ ณ จุดที่หลาย ๆ คนฝันที่จะไป

และที่สำคัญเส้นทางสายนี้ทำให้หนุ่มคนนี้เปลี่ยนไปจากเดิม จากภาพที่ดูเข้าถึงยาก หรือว่าเป็นอาร์ตตัวพ่อ แต่...! อะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป วันนี้ "ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์" จะมาบอกกับเราอย่างตรงไปตรงมา

อะไรคือปัจจัยหลักในการตัดสินใจว่า เซ็นสัญญา ทั้ง ๆ ที่คุณกล่าวว่า วงการเพลงเต็มไปด้วยความผิดหวัง และการทรยศหักหลัง?



“ถึงเราจะรู้ลักษณะของวงการว่ามันเป็นอย่างไรแต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะเราเลือกที่จะทำสายงานนี้ ความเฉือดเฉือนกับความหักหลัง ความผิดหวังมันก็เป็นสิ่งที่มาพร้อมกับงานศิลปะในเรื่องของการอกหัก ถ้าศิลปินคนไหนไม่เผชิญความอกหักหรือไม่เจอความผิดหวังคงทำอะไรซักอย่างผิดแล้วล่ะเพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องมา ถ้าเราใฝ่สูงเราต้องพร้อมที่จะล้มเหลว อย่างน้อย ๆ มันต้องยอมรับว่านี่คือความจริง ถึงมันจะเป็นอย่างนั้นก็ตาม มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมอยากจะทำ ผมแค่ยอมรับว่าสิ่งที่ผมพูดว่ามันเป็นความจริง แต่ยังไงก็ตามเราต้องดำเนินการต่อ ไม่ว่าจะอยู่ค่ายไหนก็ตาม มันก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่

แต่คนอย่างผมนี่ อยากทำแบบมีค่ายเพราะโอกาสที่จะทำแบบระดับแมสนี่มันสูงกว่า ถ้าจะทำแบบใต้ดินก็ทำได้แต่วัยสามสิบ ไม่ใช่เวลาที่ทำอะไรแบบนั้น เพราะเราต้องทำเป็นอาชีพและนี่คือเงื่อนไขของอาชีพ อาชีพนี้มันเป็นอย่างนี้ เราในฐานะศิลปินนักร้อง ก็แน่นอนเป็นคนที่อาจจะมีเรื่องหัวใจ จิตใจความรู้สึกเข้าไปเกี่ยวพันกับสายงานเรามากกว่าสายงานอื่น มันไม่สามารถที่จะเข้าไปรับจ๊อบแล้วทำโดยไม่ได้คิดอะไร มันเป็นทั้งชีวิตเราใส่ใจกับมันทั้งหมดทั้งเวลาต้องสละ ห่างจากครอบครัวไปเล่นดนตรีเสียสละทั้งหมดนี้แล้ว ถ้าจะเสี่ยงและถ้าจะลงเอาหัวใจเอาวิญญาณเอาทั้งหมดทุ่มเทไปกับมัน โอกาสจะรุ่งมันต้องสูง เพราะฉะนั้นต้องทำกับค่ายที่ใหญ่มีอิทธิพล


ฮิวโก้ - จุลจักร จักรพงษ์ฮิวโก้ - จุลจักร จักรพงษ์

เราไม่ได้ปรับตัวเองแบบจงใจเราปรับตัวเหมือนสัตว์ทุกตัวที่เจอระบบนิเวศใหม่ ไม่ต้องปรับตัวเองก็ได้แต่ก็ไม่รอด เราไหลตามโอกาส เราเป็นคนฉวยโอกาสในการทำงาน เพราะเรารู้สึกว่าไอ้สิ่งที่เราทำนี่มันเป็นตัวเราอยู่แล้วเราก็ทำมานานพอที่จะมั่นใจ เพราะฉะนั้นเจตนาในทางธุรกิจเราไม่ขัดแย้งกับเค้า เราเน้นไปที่เพลงเราอาจจะไม่ได้เน้นไปที่ภาพรวมของอุดมการณ์ สมัยสิบล้อนี่มันไม่ใช่แค่เพลงมันเป็นอุดมการณ์มันเป็นทั้งหมด”

“บียอนเซ่”

เล่าให้ฟังหน่อย บียอนเซ่ เอาเพลงที่เล็กแต่งไปร้องได้ไง?

“อแมนดาเปิดเพลงที่ผมแต่งให้เพื่อนที่อยู่ค่ายไอแลนด์ เร็กคอร์ดในเครือยูนิเวอร์แซลฟัง เพื่อนเขาสนใจ บินมาเมืองไทยดูตัวผม คุยกันตกลงเซ็นสัญญา ทำไปได้สักพัก คนที่เซ็นสัญญาถูกไล่ออก โปรเจคท์ถูกยกเลิก เคว้ง เพราะผมลาออกจากวงสิบล้อแล้ว เพราะคิดว่าจะไปได้สวย คิดว่าตัวเองเจ๋ง อีโก้มาก เหลิงมาก เก่ง คิดว่าตัวเองต้องดังมาก แต่ทุกอย่างกลับไม่ใช่ จากนั้นเลยตระเวนออดิชั่นตามค่ายต่าง ๆ แต่ไม่มีใครเอา เราท้อและไม่กระตือรือร้นแล้ว เพราะอีโก้ที่เรามีโดนอัดยับ ตัดสินใจกลับเมืองไทย อแมนดาก็โทรฯ...มาว่า ที่บียอนเซ่ เอาเพลง ดิสแสพเพียร์ ของผมไปร้อง ซึ่งตอนแรกเพลงนี้จะอยู่ในอัลบั้มผม แต่เขาคงเอาไปให้เจย์ซีสามีบียอนเซ่ฟังแล้วชอบ เจย์ซีส่งคนมาคุยให้ผมเซ็นสัญญาเป็นนักร้องค่าย ร็อก เนชั่น ที่นิวยอร์ก จากนั้นผมก็กลับมาแต่งงานกับฮาน่าและไปนิวยอร์กด้วยกัน”


ฮิวโก้ - จุลจักร จักรพงษ์ฮิวโก้ - จุลจักร จักรพงษ์


เห็นมีไปปรากฏในหนังด้วย?

“มาโดยบังเอิญ คือทางค่ายเค้าจะมีแผนกที่คอยดูว่าคนสร้างหนังสร้างละครบริษัทไหนเค้าต้องการเพลงใหม่เข้าไปใช้ในหนังที่เค้าสร้าง โดยเค้าต้องการเพลงใหม่ ไม่ต้องการเพลงเก่าที่ดังแล้วเพราะเค้าต้องจ่ายมาก คนพวกนี้เค้าก็จะไปตามค่ายต่าง ๆ ไปหาศิลปินใหม่ ๆ ที่คงยินดีที่จะเซ็นอนุมัติให้นำเพลงไปใช้ฟรี หรือจ่ายน้อยได้ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับเราเลยว่าเราจะเซ็นอนุมัติให้หรือเปล่า ซึ่งทางค่ายก็มีวิธีเรียกคนพวกนี้ให้หันมาสนใจเพลงที่ค่ายต้องการโปรโมตด้วยเหมือนกัน อาจจะด้วยการจัดคอนเสิร์ตแล้วเชิญคนของบริษัทหนังมาดู แล้วหวังว่าเราจะเล่นได้ดีพอที่จะฝังใจเค้าจนเค้าเอาเพลงเราไปใช้ในหนัง หรือไปเข้าฉากด้วย ซึ่งค่ายก็จะให้เราไปเพราะเป็นโอกาสโปรโมตที่ดี ซึ่งตรงนี้เราก็เอาด้วยเพราะเราไม่แคร์แล้ว ทำทุกอย่างให้มันดัง แค่ขออย่ามายุ่งในขั้นตอนการผลิตในห้องอัดของเราก็พอ คือคุณเลือกเพลงได้ว่าชอบเพลงไหนไม่ชอบเพลงไหน แต่อย่ามาขอเปลี่ยนท่อนเพลงหรืออะไรเพราะคุณไม่ใช่ผู้รู้ ส่วนเรื่องผมจะขึ้นเวทียังไงก็ปรึกษาแนะนำได้แต่อย่ามายุ่ง ส่วนการจะขายยังไงเราก็ไม่เข้าไปยุ่ง”

“ทัวร์เอเชีย”

ข่าวว่าจะมีคอนเสิร์ตในเอเชียด้วย?

“ครับก็มีเมืองไทย แล้วจะไปสิงคโปร์ เป็นทัวร์ท้าย ๆ ก่อนจะเริ่มต้นทำงานใหม่แล้ว ตอนนี้ได้นักดนตรีที่มาเมืองไทยเราก็ต้องจ่ายค่าตัวเค้าเป็นรายอาทิตย์ พอมีเวลาว่างเราก็ลากเค้าเข้าห้องอัดเลย จะเรียกว่าเดโมก็...มันอาจจะไม่เป็นเดโมก็ได้ เพราะจริง ๆ แล้วเราอาจจะเอาไปมิกซ์ หรือแค่เอาไปร้องใหม่ก็จบงานเลยก็ได้ เพราะคำว่าเดโมมันก็ติดแค่ว่าค่ายยังไม่อนุมัติที่จะปล่อยเท่านั้นเอง เพราะบางเพลงมันไม่ได้แตกต่างจากเดโมเลย เพราะขั้นตอนการทำงานมันลงทุนเหมือนงานจริง ๆ มันยาวนานเลย กว่าอัลบั้มจะได้ออกก็อย่างเร็ว ปี ค.ศ. 2013
 


ฮิวโก้ - จุลจักร จักรพงษ์ฮิวโก้ - จุลจักร จักรพงษ์


คาดหวังคนฟังเพลงจะติดตามผลงาน และซื้อบัตรคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังไงบ้าง?
      
“ก็...คาดหวังแต่ยังไงก็ได้ ด้วยเราจัดในที่ที่ไม่ใหญ่มาก และเราก็เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตทางเฟซบุ๊ก เราสามารถทำความเข้าใจกับแฟนเพลงได้มากขึ้น แฟนเพลงที่จะมาติดตามเราก็คงจะเป็นแฟนเพลงตัวจริง เพราะเราจะพูดคุยและตอบคำถามทาง
เฟซบุ๊กเองช่วงเวลาที่เราตื่น”


“ครอบครัวตัว ฮ ”

ชีวิตเปลี่ยนยังไงบ้างเมื่อมีครอบครัว?

“เปลี่ยนมาก ทั้งเรื่องงานและลำดับความสำคัญของครอบครัว แต่ที่คาดไม่ถึงคือ บทบาทชีวิตของฮาน่า (ทัศนาวลัย จักรพงษ์) คือ บางคนมีภรรยาแล้วมันอาจจะเกิดสิ่งที่ขัดแย้งกับงานที่เราทำ คือ อยากให้เราใช้เวลากับเค้า แต่ฮาน่านี่กลับกลายเป็นว่าพอผมมาอยู่เมืองไทยเค้าก็เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ คอยอำนวยความสะดวกในการทำงานด้วยซ้ำ ดิวเรื่องธุรกิจค่อนข้างเก่ง เข้าใจเรื่องหลาย ๆ เรื่องเป็นอะไรที่ดีมาก”

ถือว่าได้ภรรยาที่ดีนะ?

“เค้าได้เห็นว่าเราเป็นยังไงและงานของเราเป็นยังไง ยากง่ายแค่ไหน คือคิดว่าคนเราเมื่อใช้ชีวิตคู่กันแล้วก็ควรจะต้องใช้ชีวิตคู่กันให้มากที่สุด จะได้ไม่มีเรื่องระหองระแหงมาแยกกันแบบว่าอยู่คนละโลก อยู่คนละสังคมอะไรแบบนั้น เพราะเราไม่สามารถอยู่กับแฟนทำตัวเป็นคนนึงแต่อยู่กับเพื่อนเป็นอีกคนนึง เราก็ต้องอยู่กับคนที่รับเราได้อยู่แล้ว”


ครอบครัว จักรพงษ์ ครอบครัว จักรพงษ์

ความฝันและการวางแผนชีวิตของตัวเองเป็นยังไง?

“ผมรู้สึกว่าผมอยู่ในช่วงเพลง “ทะเลใจ” ของคาราบาวแล้ว ไม่คิดถึงเรื่องของความฝันแล้ว เลยวัยนั้นมาแล้ว เรากำลังอินกับเรื่องรายวันชีวิตประจำวัน ไม่อะไรกับเรื่องที่อยากทำหรือเรื่องต้องพิสูจน์ตัวเอง คือ เส้นทางชีวิตของเราไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุดแล้ว เราไม่ได้ต้องเอาชีวิตของตัวเองว่ามายืนอยู่จุดนี้แล้วเปรียบเทียบกับคนนู้นคนนี้ เราทำงานได้แต่ให้ความสำคัญกับเรื่องลูกเรื่องภรรยา แต่ผมไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตครอบครับเท่าไหร่เพราะจะใช้ชีวิตอยู่บนถนนตลอด แล้วอีกไม่นานผมก็ต้องไปใช้ชีวิตบนถนนอีก เวลาที่ผมมีก็เลยใช้กับครอบครัวให้มากที่สุด”

วางไว้มั้ยว่าจะใช้ชีวิตแบบนี้อีกกี่ปี แล้วจะกลับมาใช้ชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์เลย?

“แน่นอนว่าผมก็อยากจะทำงานเบื้องหลังอยู่ในเมืองไทย แต่ด้วยดนตรีอย่างเดียวคงยาก ยิ่งเหมือนเราเคยแซวคนอื่นว่าคุ้นเคยกับชีวิตแบบคุณภาพประมาณหนึ่ง แถมมีอีกสองคนที่ต้องดูแล....ถ้าได้กลับมาเมืองไทยก็คงต้องดู แต่ว่าตราบใดที่ประตูทางฝั่งโน้นยังเปิดอยู่ก็คงจะลุยต่อ คงมีแต่คนโง่ที่จะปฏิเสธโอกาส

แต่ถ้ากลับมาเมืองไทย เราก็คงมองเรื่องธุรกิจ ฮาน่าเป็นคนเก่งเค้าก็คงจะไม่เป็นแค่แม่บ้าน ชอบทำอะไรชอบดิว ชอบมีกิจกรรมทำ คงมีอะไรทำกับเพื่อน ๆ ด้วย อาจจะทำรายการของเค้าไป ไม่ค่อยเป็นห่วงเท่าไหร่

ส่วนตัวเองถ้าเล่นตามเกมวงการบันเทิงเมืองไทยผมก็อยู่ได้ ตอนนี้ก็มีไอเดียบางอย่างที่ยังไม่อยากพูดไปเพราะถ้าทำไม่ได้มันก็จะเสียเราเอง เพราะแม้แต่ตอนไปทำเพลงเมืองนอกก็ยังไม่อยากพูดจนกว่าจะทำสำเร็จก่อน เป็นจริง เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าอับอายถ้าพูดแล้วไม่ทำหรือทำไม่ได้ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง”

เรียกได้ว่าเขาคือความภาคภูมิใจของคนไทยอีกคน ที่ไปสร้างชื่อในระดับโลก และเร็ว ๆ นี้ ฮิวโก้ จะมีคอนเสิร์ตที่ถูกจัดขึ้นถึง 2 รอบด้วยกันในวันที่ 4-5 เมษายนนี้ โดยมีชื่อคอนเสิร์ตว่า ฮิวโก้ ไลฟ์ อิน แบงค็อก งานนี้เจ้าตัวบอกโชว์เต็มรูปแบบแน่นอน.


ครอบครัว จักรพงษ์ ครอบครัว จักรพงษ์


ครอบครัว จักรพงษ์ ครอบครัว จักรพงษ์


ครอบครัว จักรพงษ์ ครอบครัว จักรพงษ์


ครอบครัว จักรพงษ์ ครอบครัว จักรพงษ์


ครอบครัว จักรพงษ์ ครอบครัว จักรพงษ์


ครอบครัว จักรพงษ์ ครอบครัว จักรพงษ์

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์