ชัวร์หรือมัวนิ่ม คำลวงโลก แนน และ โย

ข่าวการเมืองร้อนๆ ชั่วโมงนี้ต้องยกให้ข่าวคดียุบพรรค


แต่หากเป็นข่าวร้อนๆ ในภาคบันเทิงแล้วล่ะก็... ต้องยกให้สองข่าวดุเด็ดเผ็ดมันกับข่าวของ "แนน" อมิตดา ชินสำเร็จ และสองพี่น้อง "โย" ยศวดี "เอ" อัญชลี หัสดีวิจิตร

ซึ่งสองข่าวฮอต ดังสนั่นเมืองนี้

มีสิ่งหนึ่งที่โยงใยเหมือนกันนั่นก็คือ คำพูดที่หลายคนยังเคลือบแคลงสงสัย ว่าจริงหรือเท็จ ลองไปวิเคราะห์กัน


เริ่มจากกรณีของ "แนน" อมิตดา กันก่อน ร้อนฉ่ากันเลยทีเดียว


หลังจากที่เธอออกมายอมรับทั้งน้ำตา ว่าแท้งไปตั้งแต่ 4 เดือนที่แล้ว แต่ที่ต้องปล่อยให้เรื่องเลยตามเลย เพราะมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก จึงต้องโปรโมทพ็อคเก็ตบุ๊ค ด้วยวิธีโกหกสังคม ถึงนาทีนี้ หลายคนยังสงสัย ว่า เธอแท้งหรือเธอไม่เคยท้องเลยกันแน่

ซึ่งกระจ่างชัดขึ้น

เมื่อ "บุ๊ค" ปริญญา เพื่อนสนิท หรือผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ออกมายืนยันว่าเพื่อนสาวไม่เคยท้องเลย...นั่น...ยังไม่เลิกโกหก


ย้อนกลับไป


แนน ออกมาบอกว่าตัวเองท้องไม่มีพ่อ เท่านั้นไม่พอ ยังเปิดฉากเขียนพ็อคเก็ตบุ๊ค "ต้องลองรัก...สักกี่ครั้ง" แฉชีวิตตัวเอง ว่าเคยมีสัมพันธ์สวาทกับดาราชายคนไหนมาบ้าง ซึ่งในเวลานั้นเจ้าตัวบอกเช่นกันว่าข้อมูลที่เขียนลงไป ก็มีข้อมูลลวงด้วย...จะลวงหลอกกันทุกเม็ดเลยซะล่ะมั้งเนี่ย

และลวงเรื่องในหนังสือไม่พอ

"แนน" อมิตดา ยังหลอกลวงเลยเถิดไปถึง "วีที" วิทวัส สุนทรวิเนตร์ ที่อุตส่าห์เอาตัวเองไปออกรายการ และยกเรื่องของแนนให้เป็นอุทาหรณ์แก่ทุกคน ว่าอย่าเอาเยี่ยงอย่าง โดยในเวลานั้นตัววีทีเองก็โดนวิพากษ์วิจารณ์เละเทะเหมือนกัน ว่าทำไมถึงได้เลือกดาราคนนี้ไปออก และเรื่องที่ออกมาร้องห่มร้องไห้พูดถึงความใจแตกของตัวเองมันน่าฟังตรงไหน...


วันนี้ทุกอย่างก็ได้พิสูจน์ออกมาให้เห็นแล้วเช่นกันว่า


ทั้งหลายทั้งปวงนั้น "เธอโกหก หลอกลวง" กุเรื่องว่าตัวเองมีลูก มีรูปภาพข่าวออกมา ทั้งๆ ที่เด็กในภาพกลับเป็นลูกคนข้างบ้าน

เมื่อความจริงปรากฏ

แม้จะถูกถามว่าทำไมไม่เลือกประกอบอาชีพอื่นแทนที่จะทำแบบนี้ แนน ได้ยิงคำถามกลับมา "แล้วพี่จะให้หนูไปทำอะไร จะให้ไปขายยาเหรอ" ...คำตอบนี่น่าจะสะท้อนอะไรในตัวของแนนโดยไม่ต้องบรรยาย


งานนี้ นอกจาก วิทวัส ที่เสียความรู้สึกแล้ว


ดาราหนุ่มที่ถูกพาดพิงถึง รวมไปถึง "ต่อ" เรืองฤทธิ์ วิศมล ที่แนน เคยพูดเป็นทีเล่น ว่าผู้ชายคนนี้แหละ ที่เป็นพ่อของเด็กในท้อง...

มาถึง "โย" ยศวดี

เป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังถูกจับตามองถึงความเป็นไปอย่างมาก ว่าเรื่องราวของเธอจะไปในทิศทางไหน แต่ที่แน่ๆ เธอก็เป็นอีกหนึ่งคนเช่นกัน ที่ออกมาพูดแบบงง ๆ โดยจะทำโดยเจตนา หรือเพื่ออะไรนั้น ก็สุดแท้แต่เธอ


สืบเนื่องจากในวันที่ข่าวของโยโด่งดังว่า


เธอเป็นนางแบบที่นั่งรถไปกับ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ในวันที่มีกรณีกับตำรวจนั้น เมื่อถูกโทรไปสัมภาษณ์โยกลับบอก ว่าตอนที่ชนม์สวัสดิ์มีเรื่อง เธอไม่รู้ไม่เห็น ในช่วงนั้นเธออยู่ที่หัวหิน

แถมโบ้ยให้ไปถามให้ถูกตัว...ซะงั้น

แล้วพอเรื่องแดง...ฉาวโฉ่ ในวันแถลงข่าว เธอดันบอก ว่าเธออยู่หัวหินในวันที่นักข่าวโทรสัมภาษณ์ และยอมรับว่าในวันเกิดเหตุเธออยู่ในรถของชนม์สวัสดิ์จริง...ตอบแถไปข้างๆ คูๆ เฮ้อ!!! คนกำลังสับสน ต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดไปก่อน


รวมถึงในส่วนของความสัมพันธ์ของเธอกับ ชนม์สวัสดิ์


แม้โยจะออกมาพูด ว่าก่อนหน้านั้นที่เธอตกเป็นข่าวฉันชู้สาวกับผู้ชายคนนี้ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์นั้น เธอไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ว่าเป็นใคร ทำอะไร

จนกระทั่งมาเจอและรู้จักอีกครั้งในวันงานแรลลี่ ที่เซ็นทรัลเวิลด์

จากการแนะนำของเพื่อน และในวันนั้นก็มีภาพข่าวของเธอปรากฏกับชนม์สวัสดิ์ เดินเคียงคู่กันมา...แต่แหม...ภาพที่เห็นเนี่ย เจอกันวันแรก ทำไม้...ทำไม ถึงได้หนิดหนมกันขนาดน้าน


เดือนกุมภาพันธ์ ยังไม่รู้จัก


เวลาผ่านมาจนถึงเดือนพฤษภาคม เข้าใจว่าเธอคงจะสนิทกับสามีของ "ตู่" นันทิดา มากขึ้น ไม่เช่นนั้น คงไม่มีการกริ๊งกร๊างโทรไปชวน มาเที่ยวด้วยกันที่ร้านซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเป็นแน่

เท่านั้นไม่พอ หลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาท

โย พร้อมพี่สาว รวมถึงเพื่อนนางแบบ ก็ยังนั่งรถไปที่อู่รถของชนม์สวัดสิ์ โดยโยอ้างว่าเธอต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นั่น เพราะเสื้อผ้าที่ใส่อยู่นั่นขาดวิ่น

...ก็คงจะสนิทกันจริง ไม่เช่นนั้นคงไม่มีเสื้อผ้าอยู่ที่นั่นแน่นอน...? -- ?

สรุปแล้วคำพูดทุกสิ่งอย่าง จะสะท้อนกลับมาให้ได้เห็นความจริงว่าก่อนหน้านั้น คุณพูดจริง-โกหก-หลอกลวง ไว้อย่างไรบ้าง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์