เปิ้ล งง ทูน ปล่อยลมรถคนอื่น, รับ เป็นดาราต้องทำใจ

"เปิ้ล" งง "ทูน" ปล่อยลมรถคนอื่น, รับ เป็นดาราต้องทำใจ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤศจิกายน 2548 22:36 น.

เป็นข่าวดังไปเรียบร้อยเมื่อ "ทูน หิรัญทรัพย์" อดีตดารา-พระเอกชื่อดัง โดนแจ้งจับในข้อหาปล่อยลมยางรถของนายเดชดนัย โอภานุรักษธรรม ครีเอทีฟหนุ่มบริษัทดัง ฐานจอดรถขวางหน้าบริษัท แม้เจ้าทุกข์ไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ แต่ยืนยันจะให้พระเอกหนุ่มใหญ่ใช้ปากเป่าลมยางให้ พร้อมออกปากด่าไม่รู้กฎหมายไทย งานนี้ "เปิ้ล จารุณี สุขสวัสดิ์" คนคุ้นเคยออกมาให้ความเห็นว่างานนี้คนเป็นดาราก็ต้องทำใจเพราะอย่างไรก็เสียเปรียบเต็มประตู

เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (10 พ.ย.) นายเดชดนัย ครีเอทีฟหนุ่มบริษัทแจ๊สซี่ ครีเอชั่น ได้ขับรถไปจอดบริเวณสถานฝึกสอนศิลปะภาพยนตร์และการแสดงของ ทูน หิรัญทรัพย์ ดาราชื่อดัง ข้างบ.เอฟ บี ไอ แถวซอยศรีวรา 12 เขตวังทองหลาง จากนั้นก็เดินไปยังฝั่งตรงข้ามบริษัทของตน

และเมื่อเวลาเที่ยงเศษๆ นายเดชดนัยต้องการจะไปกินข้าวข้างนอก และเดินมายังบริเวณรถที่จอดพบว่ายางรถของตนแบนสนิท ทั้ง 4 ล้อ ถัดไปก็เห็นดาราชื่อดังกำลังปล่อยลมยางรถของเพื่อนตนอยู่ จึงลงไปจากรถแล้วแสดงตัวเป็นเจ้าของรถ

ปรากฏว่าพบกระดาษแปะไว้หน้ารถว่า "ขอความกรุณาให้ความร่วมมือ เนื่องจากได้ซื้อตึกมาในราคาที่แพง เพื่อที่จะได้ให้กรรมการผู้จัดการ หรือผู้บริหารได้มีที่จอดรถเพิ่มขึ้น จึงขอความร่วมมือ 1.ให้เกียรติในการเคารพสิทธิ 2.ให้เจ้าของตึกมีสิทธิจอดได้ ขอบคุณในความร่วมมือ จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายกับรถของท่านหากฝ่าฝืนอีก ลงชื่อ ทูน หิรัญทรัพย์"

เรื่องราวบานปลายจนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ นายเดชดนัยจึงเข้าแจ้งความ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง เรียกร้องให้พระเอกชื่อดังมาสูบลมยางด้วยปากให้ โดยไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆทั้งสิ้น

ในขณะเดียวกัน นายเดชดนัยยังบอกอีกว่ายังมีรถอีก 2 คันที่ถูกนายทูนปล่อยลมยาง แต่ยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความ

ทั้งนี้ "ทีมบันเทิงออนไลน์" ได้พยายามติดต่อไปยังอดีตพระเอกชื่อดัง เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทว่าไม่สามารถติดต่อได้ จึงสอบถามไปยัง "เปิ้ล จารุณี สุขสวัสดิ์" อดีตนางเอกคู่ขวัญ ผู้ที่ใกล้ชิดและสนิทสนมกับอดีตพระเอกเป็นอย่างดี ซึ่งได้กล่าวว่า

"อ้าว....เหรอคะ ตอนนี้พี่อยู่ฮ่องกงไม่ทราบเรื่อง แต่ส่วนตัวคิดว่าพี่เขาไม่น่าทำแบบนั้น แต่เราก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นยังไง หรือว่ามันเจ็บใจขนาดไหนเราไม่กล้าคิดแทน พูดในส่วนที่เคยรู้จักนะ แต่ส่วนอื่นๆไม่เคยรู้ ไม่เคยมีประสบการณ์ร่วมกับเขาว่ามีปัญหากับใครแล้วเขาทำยังไง"

"คือเราเล่นหนังด้วยกันหลายเรื่องมาก หนังกว่าจะจบมันก็เจอกันทุกวัน จริงๆแล้วพี่ทูนเป็นคนร่าเริง เรียบร้อย แต่ตรงนี้มันพิสูจน์ไอ้จดหมายมีลายมืออยู่ เราจะมานั่งวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้หรอก มันต่างสถานการณ์ ต่างเวลาเราจะไปรับประกันใครว่าเรารู้จักแล้วไม่ใช่แน่นอนเป็นไปไม่ได้ หรือเราจะบอกว่าเป็นไปได้อีกฝ่ายเลว มันยิ่งไปกันใหญ่เลย มาพิสูจน์กันตามหลักฐานดีกว่า"

"อย่ามานั่งว่าหรือเมาท์กันเอง เป็นนักแสดงมันเสียเปรียบอยู่แล้ว อย่างพี่เคยถูกคนมาจับหน้าแล้วบีบด้วยนะ เป็นผู้ชายสมัยก่อนน่ะ เรื่องมันนานมากแล้วเราโดนประณามนี่คือความเป็นนักแสดง เอะอะก็ด่านักแสดงก่อนเลย ไม่มีใครให้ความเป็นธรรม แต่ว่าตรงนี้ไม่ได้บอกว่านักแสดงไม่ได้เป็นคนทำ แต่ตรงนี้ต้องเอามาพิสูจน์กัน ต้องพึ่งกฎหมาย"

ตัดพ้อ เกิดมาเป็นนักแสดงต้องเสียเปรียบอยู่ตลอดเวลา
"เสียเปรียบ เราต้องอดทนต้องยอมเป็นคนสาธารณะ ทำอะไรขึ้นสักอย่างคนอื่นทำไม่เป็นข่าว เราต้องเป็นฝ่ายยอมได้แต่ทีนี้ 10 ครั้ง 100 ครั้ง ทำพลาดไปแค่ครั้งเดียวก็โดนประณามซะเละเลย มันเป็นข้อเสียของการเป็นนักแสดง แต่ก็โอเคข้อดีอื่นๆมันก็มีเยอะ"

"บอกจริงๆว่า เวลาไปทำบุญไม่เคยเห็นขึ้นหน้าปกกันเลย คนนี้ยอดเยี่ยมไม่มี แต่พอข่าวไม่ดีโอ้โห...ลงประจานกันแบบเยอะมาก ในเรื่องชู้สาว ตบตีกันเยอะมาก แต่เราก็ไม่ว่ากัน(หัวเราะ) ต่างคนต่างทำงานไป ดีไม่ดีปนกันแหละ แต่ควรจะมีขอบเขตที่ว่านักแสดงคนนั้นปกติ เป็นคนนิสัย กินเหล้าเมายาเสเพลมั่วผู้หญิงในสิ่งที่เป็นข้อห้าม ศีลธรรมมันสามารถแสดงได้ว่าบุคคลนั้นเป็นอย่างไร ดูพื้นๆของเขาถ้าผิดนิดผิดหน่อยก็น่าจะให้ความเป็นธรรมได้"

วอนสื่อ ตัดสินด้วยหลักฐานอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์จนกลายเป็นเรื่องใหญ่
"ทั้งนี้ก็ต้องดูหลักฐาน เพราะมันจะยอมจำนนกันได้เอง คือมาพิสูจน์กันให้แน่ชัดไปเลย ไม่งั้นอีกฝ่ายเขาจะเสียหายถ้ามันไม่เป็นความจริง ไม่อยากพูดอะไรมากคือเราไม่ได้เห็นหรืออยู่ในสถานการณ์เอาเป็นว่าขอตอบแค่นี้แล้วกัน"