ชาม โอสถานนท์ จาก นางงาม สู่ นางเอก

ไม่ใช่แค่ความสวย เพราะได้ตำแหน่งมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2549

เพียงเท่านั้นแต่ "ชาม-อรวรินธ์ โอสถานนท์" ยังมีความสามารถโดนตา
ถึงขนาดผู้ใหญ่ทางช่อง 7 ส่งให้ลงมาเล่นละครเป็นนางเอกเรื่องแรกใน ฟ้าให้เรามารัก ของค่ายเป่าจินจง คู่กับพระเอกหน้าใส วิน-ธาวิน เยาวพลกุล ด้วย งานนี้สมใจสาวชามไม่น้อยเพราะ งานละครก็เป็นอีกหนึ่งความฝันที่ชามหวังว่าจะมีโอกาสได้ทำกับละครเรื่องแรก

ชามฝันมาตลอดนะคะว่าอยากมายืนจุดนี้

"วันนี้ได้มาตรงนี้ได้เล่นละครเรื่องแรก ก็เลยอยากที่จะมุ่งมั่นกับการทำงานตรงนี้ให้ดีที่สุด อยากทุ่มเทกับมันให้มากที่สุด"

ได้ร่วมงานกันหนุ่ม "วิน"

"ก็ได้คุยกันแล้วล่ะคะ คือ พี่ทีมงานเขานัดให้มาเจอกันก่อนวันที่เทสต์หน้ากล้อง เพื่อที่จะได้สนิทกันก่อน พอทำงานจริงๆจะได้ไม่เกร็ง พี่วินเขาก็น่ารัก เขาก็แนะนำชามดี คือเราถามอะไรเขาก็ตอบได้หมด ตอนนี้มีอะไรก็จะปรึกษาพี่วินคะ"

เห็นว่ามีฉากเลิฟซีนด้วย

"ไม่ได้มีเป็นฉากเลิฟซีนเลย จะเป็นฉากกุ๊กกิ๊กๆกัน ล้อกันไปล้อกันมามากกว่า ถามว่าชามเขินไหมที่ต้องเล่นฉากเลิฟซีนก็คงต้องบอกว่า เขินทุกฉากเลยคะไม่ใช่เฉพาะเลิฟซีนเพราะเรายังไม่เคยผ่านงานละครมาเลย ถ้าผ่านไปอีกสักสองสามอาทิตย์ก็คงจะดีขึ้นคะ"

ตอนนี้เตรียมตัวยังไงบ้าง ถ้าให้เล่นเลิฟซีนจริงๆ ชามพร้อมไหม

"ชามว่าเรื่องแรกๆก็คงต้องไปเล่นอะไรที่เบาๆ กุ๊กกิ๊กๆไปก่อน และชามก็คิดว่าตัวเองคงไม่กล้าเล่นฉากเลิฟซีนด้วย เท่าที่ดูในละครแรกๆจะมีฉากกุ๊กกิ๊กๆเยอะค่ะ เหมือนมันเป็นปั๊ปปี้เลิฟของเรา ถ้าจะมีเขินบ้างก็คง เป็นฉากหอมแก้มนั้นแหละค่ะ แต่ไม่เยอะเท่าไร"

กุ๊กกิ๊กขนาดนี้คนพิเศษจะว่าไหม

"ไม่มีหรอกค่ะ มีแต่คุณแม่เพราะ คุณแม่ตามไปทุกที่คะ ตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้า เพราะไม่ว่าชามจะไปไหนมาไหนก็มีคุณแม่ตามไปตลอดคะ เลยไม่มีคนกล้าเข้ามาจีบแน่"

เล่นละครกับวินกลัวมีข่าวไหม

"ถ้ามีข่าวก็คงเป็นเรื่องธรรมชาติมั่งค่ะ ตอนนี้ก็เริ่มจะต้องเตรียมใจบ้างแล้วค่ะ ตอนแรกชามก็ไม่ได้คิดมาก แต่มีคนถามกันมาก สงสัยมันต้องมีแน่นอนเลย ใช่ไหมค่ะ"

แล้วเมื่อไรจะพร้อมมีคนพิเศษ

"ชามเคยพูดไว้ตอนเด็กๆกับคุณแม่ว่า ต้องรอให้จบปริญญาโทก่อนนะถึงจะมีแฟน แต่ก็พูดเล่นๆคะ เพราะชามเป็นลูกหลานคนเดียวด้วยคะ ที่บ้านเลยหวงนิดหนึ่ง ตอนนี้ใครเข้ามาชามก็คิดเป็นเพื่อนหมดเลยคะ จะไปกินข้าวก็ได้นะคะ แต่แม่ต้องไปด้วยคะ ตั้งแต่เด็กๆแล้วคะคุณแม่ไม่ค่อยปล่อยให้ไปไหนคนเดียว เพราะชามสนิทกับคุณแม่มากๆด้วยเลยไม่ค่อยห่างกันไปไหน คือถ้าใครเข้ามาตอนนี้เราก็จะบอกเลยว่าเป็นแค่เพื่อนกันนะ สำหรับคนที่เข้ามาก็มีบ้างนะคะ แต่ทุกคนจะรู้ อย่างที่โรงเรียนชามก็จะรู้กันนะคะว่าพ่อแม่ชามดุมาก"

พอโตขึ้นที่บ้านเริ่มปล่อยหรือยัง

"ตอนนี้ก็เริ่มปล่อยมากขึ้นกว่าเดิมแล้วค่ะเพราะว่าตอนนี้ก็จะขึ้นปี 3 แล้วด้วย ชามเรียน นิเทศศาสตร์ ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ แต่ก่อนเราอาจจะมีอยากไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง แต่ตอนนี้เราโฟกัสไปที่เรื่องงานอย่างเดียวเลย เราอยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด คุณพ่อคุณแม่ก็เลยไม่ค่อยห่วงเรื่องตรงนั้น แต่ถ้าห่วงคงเป็นเรื่องงานมากกว่า"

มีคนบอกว่าชามดูเป็นคุณหนูไฮโซ

"จริงหรือค่ะ ชามคิดว่ามันไม่เกี่ยวกันกับนามสกุลนะค่ะ คงเป็นเพราะชามเป็นลูกคนเดียวด้วย ก็เลยมองกันแบบนั้น คุณพ่อชามก็รับราชการตำรวจ อยู่ที่ขอนแก่น ส่วนคุณแม่ทำธุรกิจส่งออก เท่านั้นชามคิดว่าชามไม่ได้เป็นหรอก ชามก็ทำหน้าที่ของชามเท่านั้น"

"ชามต้องลดความอ้วน ชามคิดว่าที่มันดูตัวใหญ่มันน่าจะเป็นที่โครงร่างของชาม ที่มันดูใหญ่และเพิ่งลงจากเวทีนางงามมันเลยเนื้อหนังติดมาบ้าง ชามไปยกเวทมาหนึ่งเดือนเต็มแต่ก็ไม่เป็นผล มันกลับใหญ่ขึ้น เลยหยุดไปก่อนแล้วตอนนี้มีลดอาหารลงมาบ้าง ถ้าจะให้ไปฉีดออกก็ไม่กล้าเพราะเป็นคนกลัวเข็ม แล้วมันต้องฉีดหลายทีด้วยสิ คือชามตัวเล็กแต่แขนใหญ่ เอวชาม 23 เองนะคะ