จิ๋วแจ๋วจริงใจเต้ย-จรินทร์พร

ปีกระต่ายทองของ "เต้ย"
000ผลงานปีที่แล้วของ "เต้ย" เยอะมาก ทั้งละคร พิธีกร พรีเซ็นเตอร์ และการเป็นนักร้อง

เต้ยว่าปีที่ผ่านมาเป็นปีที่เต้ยรับโอกาสให้ทำงานหลากหลายมากกว่า ถ้าใครบอกว่าเป็นปีทอง เต้ยองก็รู้สึกว่าเป็นปีที่ดีสำหรับเต้ย เพราะมองย้อนกลับไปแล้ว คือเราได้ทำงานหลากหลาย อย่างงานพิธีกรเราได้ทำมาพักหนึ่งแล้ว งานพรีเซ็นเตอร์เองก็มีเข้ามาอยู่หลายตัว และงานละครที่เป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานกับช่อง 3 เพราะก่อนหน้านี้เต้ยเล่นละครมาแล้ว 5 เรื่อง เรื่อง "สามหนุ่มเนื้อทอง" เป็นเรื่องที่หก แต่เป็นเรื่องแรกที่ได้ทำกับช่อง 3 ได้ทำงานกับพี่จ๋า (ยศสินี ณ นคร)

000ให้พูดถึงละครเรื่อง "สามหนุ่มเนื้อทอง" หน่อยว่ากระแสตอบรับเป็นไงบ้าง
         
กระแสตอบรับกลับมาดีมากเลย ตอนแรกเต้ยเองยอมรับว่าแอบมีกังวลเหมือนกัน เพราะว่าทีมงานเป็นทีมที่เราไม่เคยทำงานด้วย แต่พวกพี่ๆ ทุกคนใจดี และให้ความเป็นกันเองกับเรามาก ตอนที่พี่จ๋าติดต่อมาว่าอยากให้เล่นเรื่องนี้ โดยพี่จ๋าบอกว่าเต้ยเหมาะกับบท "ลำเภา" ในใจตอนแรกคือตอบตกลงไปแล้วเลย เพราะบท "ลำเภา" เป็นบทที่น่ารักมาก และน่าสนใจมากด้วย แต่ยังชั่งใจนิดหนึ่ง เพื่อรอปรึกษาทางผู้ใหญ่ก่อน และในใจหนึ่งแอบตกใจว่าทำไมพี่จ๋าถึงเลือกเรา เมื่อได้ปรึกษาผู้ใหญ่แล้วทุกคนเห็นว่าดี เลยตัดสินใจเล่น (ยิ้ม)
 

000ร่วมงานกับทาง "จ๋า" ยศสินี และช่อง 3 ต้องมีการปรับตัวอย่างไรบ้าง เพราะ "เต้ย" ถือว่าเป็นเด็กใหม่ที่นี่
         
จริงๆ ไม่ได้ปรับตัวเองเท่าไหร่เลย เพราะพี่ๆ ทีมงานทุกคนน่ารักมาก ดูแลและให้ความเป็นกันเองกับเต้ยมาก เต้ยแค่พยายามเป็นตัวของตัวเองเอาไว้ ตั้งใจทำงาน ไม่ทำให้พวกพี่ๆ เขาต้องเดือดร้อนหรือไม่สบายใจ ซึ่งมันเป็นโชคดีที่ทุกๆ คนเขาเข้าใจเราด้วย การทำงานเลยเป็นไปอย่างราบรื่น และสนุกสนานมาก

000ได้ร่วมงานกับ 3 หนุ่มสุดฮอต "บอย" ปกรณ์ ฉัตรปริรักษ์ "หมาก" ปริญ สุภารัตน์ และ "เคน" ภูภูมิ พงษ์ภาณุ เป็นยังไง
         
ทั้ง 3 หนุ่มเป็นคนน่ารักมาก แต่ขี้แกล้งมาก ยิ่งถ้าอยู่กันครบ 3 คนนะ สุดยอดเลย เต้ยและคิม (คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส) จะโดนแกล้งบ่อยมาก โดยเฉพาะพี่บอยจะเป็นคนที่ขี้แกล้งมาก (หัวเราะ) ชอบแซว ชอบแหย่ หมากเองก็จะชอบแซว ชอบแกล้งเหมือนกัน ส่วนเคนเขาจะเป็นแนวนิ่งๆ หน่อย แต่ก็มีแอบเอาเรื่อง (หัวเราะ) ได้ร่วมงานกับทั้งสามคนนี้สนุกมาก เพราะในตอนแรกเราไม่ได้สนิทกันมาก แต่เพราะทั้งสามคนให้ความเป็นกันเอง มันทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปด้วยดี
 

000ต้องมาประกบกับ "เคน" ภูภูมิ พระเอกดาวรุ่งคนใหม่ของช่อง 3 ด้วย
         
ตอนที่ต้องมาทำงานร่วมกัน มีคนพูดกับเต้ย และถามเต้ยเยอะมากว่าเต้ยจะมาเป็นเจ๊ดัน มาคอยดันเคน แต่จริงๆ เคนมาดันเต้ยมากกว่า เพราะว่าเคนเขากำลังมาแรงมาก แฟนคลับเขาเยอะแยะ เพราะฉะนั้นเต้ยคงไม่ต้องมาดันเขา ยิ่งเรื่องของการแสดงเคนเองเขาไม่ถือว่าเป็นพระเอกหน้าใหม่เลย เขาทำการบ้านมาดีมาก เขาเองช่วยเต้ยในการแสดงได้เยอะมาก (ยิ้ม)
 

000เล่นประกบ "เคน" แต่ดันมีข่าวกับ "หมาก" ได้ไง
         
จริงๆ ไม่ได้มีอะไร คืออย่างที่หมากเขาให้สัมภาษณ์คือเขาชื่นชอบผลงานเรา จริงๆ หลายคนคิดว่าหมากเป็นพี่เต้ย แต่จริงๆ รุ่นเดียวกัน (หัวเราะ) เพราะหมากเขาอาจดูเป็นผู้ใหญ่ ทำงานด้วยกัน มีการแซวเล่นกันธรรมดา ไม่ได้มีอะไรเลย เป็นเพื่อนกันเท่านั้น

000มาถามถึงงานเพลงหน่อย เพราะได้มาจับไมค์ร้องเพลงเป็นครั้งแรกด้วย
         
ใช่ เป็นโปรเจกท์พิเศษของค่าย "บิ๊ก อายด์" ค่ายต้นสังกัดของเต้ยเอง ชื่อโปรเจกท์ "เลิฟ สเตตัส" ซึ่งทางพี่ถา (สถาพร พานิชรักษาพงศ์) เป็นเจ้าของโปรเจกท์ พี่ถาเลยชวนให้เต้ยลองมาร้องเพลงดู เต้ยรู้สึกว่ามันเป็นงานอะไรที่แปลกใหม่และท้าทายเรามาก เลยมาลองดู คือเต้ยไม่เคยเรียนร้องเพลงเลยด้วย ตอนแรกเราก็คิดว่าเป็นโปรเจกท์เล็กๆ แค่ไปร้องธรรมดา แต่เอาเข้าจริงกลับเป็นโปรเจกท์ที่จริงจัง ต้องมีการร้องเพลงโชว์ในงานเปิดค่าย มีการเดินสายโปรโมท ทำให้เรารู้เลยว่ามันเป็นเรื่องยาก แล้วเรายังไม่ใช่สำหรับตรงนี้ แต่ถ้าวันหนึ่งเต้ยได้โอกาสตรงนี้อีกครั้ง และเต้ยพร้อม เราเองก็อยากที่จะลองทำดูอีก (ยิ้ม) เต้ยว่ามันอะไรที่ท้าทายดี
 

000แฟนคลับว่ายังไงกับการมาเป็นนักร้องของ "เต้ย"
         
ส่วนใหญ่แฟนๆ เขาจะรู้อยู่แล้วว่าจะทำโปรเจกท์นี้ เขาเองก็มีถามว่าเอาจริงเหรอ เมื่องานเพลงออกมา ทุกคนก็คอยให้กำลังใจ เขาก็จะบอกถึงวันนี้มันยังไม่ใช่สำหรับเรา แต่เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งเต้ยจะทำได้ดี มันเป็นกำลังใจที่ดีมาก สำหรับเราเลย คือแฟนคลับทุกคนคอยติดตามผลงานของเรา และอยู่กับเราตลอด ต้องขอบคุณจริงๆ

ชีวิต 5 ปีในวงการมายา
000อยู่วงการนี้มา 5 ปีแล้วเป็นยังไงบ้าง ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม
         
เต้ยอยู่ในวงการ 5 ปี ความรู้สึกแรกที่ก้าวเข้ามาในวงการ เหมือนเราเป็นเด็กที่กำลังเข้า ป.1 พอผ่านมา 5 ปี มันเหมือนว่าเราเรียนรู้วิชานี้มาถึง ป.5 ซึ่งถามว่ามันเรียกว่าจบการศึกษาไหม มันก็ไม่ใช่ แต่มันทำให้เราได้เรียนรู้ มีประสบการณ์มากขึ้น ได้รู้จักวงการนี้มากขึ้นกว่าเมื่อตอนเราอยู่ ป.1 ตอนแรกถามว่าชินไหม เต้ยเองไม่ค่อยชิน แต่ 5 ปีที่ผ่านมาเราต้องปรับตัวให้อยู่กับตรงนี้ให้ได้อย่างมีความสุข
 

000อะไรที่เป็นผลกระทบทำให้ "เต้ย" ไม่อยากอยู่ในวงการตอนแรกๆ มากที่สุด
         
คงเป็นเรื่องของข่าวต่างๆ มากกว่า เพราะตอนที่เข้ามาในวงการเต้ยค่อนข้างเจอข่าวเยอะมาก ทั้งข่าวทำศัลยกรรม ข่าวนั้นข่าวนี้คือเจอมาหมดแล้ว เต้ยว่าเรื่องของข่าวเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับคนในวงการ แต่ถ้าเราพยายามทำความเข้าใจกับมันตรงนี้ ว่าข่าวก็คือข่าว เราห้ามความคิดของใครไม่ได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ด้วยการกระทำที่เราแสดงออกมา 
 

000ผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาได้อย่างไร 
         
เพราะกำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่ เขาไม่เคยไปไกลห่างเราเลย ถึงเขาไม่พูดอะไรเลย แต่เรารู้ว่าเขาคอยให้กำลังใจเราตลอด ทุกวันที่เรามีปัญหา หันไปไม่เจอใคร แต่คุณพ่อคุณแม่จะอยู่ข้างๆ เต้ยตลอด เต้ยบอกเลยว่าที่เต้ยมีวันนี้ได้เพราะครอบครัว ครอบครัวจะบอกเต้ยเสมอว่าเราต้องทำทุกอย่างด้วยความรู้สึกรัก และทำด้วยความสุข 
 

000เคยคิดเสียใจไหมที่เข้ามาอยู่ในวงการนี้
         
ไม่เลยนะ เต้ยรู้สึกว่าเต้ยโชคดีมากกว่าที่ได้มาทำงานตรงนี้ การได้ทำงานตรงนี้เปิดโลกกว้างให้เต้ยมาก เพราะเต้ยได้ไปต่างประเทศ ได้ไปในประเทศที่เต้ยไม่เคยคิดว่าเต้ยจะได้ไป ประสบการณ์ต่างๆ ที่ทั้งดีและไม่ดีที่เจอ มันทำให้เราโตขึ้น ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น เต้ยเคยคิดเหมือนกันว่าถ้าเราไม่ได้เข้ามาอยู่ในวงการนี้ ไม่ได้เจอเรื่องท้าทายต่างๆ เราอาจจะไม่โตมากขึ้นเท่านี้ก็ได้ และอีกอย่างการที่เต้ยมีงานตรงนี้ ทำให้เต้ยสามารถมีเงินช่วยเลี้ยงครอบครัว สำหรับลูกคนหนึ่งการที่หาเงินเลี้ยงพ่อแม่ได้ มันเป็นความภูมิใจมากถึงมากที่สุด

000แล้วกับ ฌอห์น จินดาโชติ สถานะตอนนี้เรียกว่าอะไร
         
ข่าวกับพี่ฌอห์นที่ออกมา เต้ยยังยืนยันว่าเรายังเป็นแค่เพื่อนกันเหมือนเดิม ไม่ได้คุยกันตลอดเวลา ไม่ได้คุยกันทุกวัน แต่มีถามสารทุกข์สุกดิบกันบ้าง ที่มีข่าวเกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะเต้ยกับพี่เขาดูสนิทกันด้วย เหมือนเขาก็เป็นพี่ที่คุยกันได้ และคุยไปในทางเดียวกัน มีอะไรก็ปรึกษากันได้ แต่ก็ไม่ได้มาในแนวทางจีบกันเลย ส่วนที่ว่าจะพัฒนาไหม ต้องดูๆ กันไปดีกว่า เพราะความจริงเต้ยเพิ่งจะอายุแค่นี้ มันยังอีกไกลมากๆ ไม่ใช่ว่าเต้ยไม่เปิดทางให้ใคร แต่เต้ยเองเป็นคนที่มีโลกของตัวเองค่อนข้างสูงเหมือนกัน เต้ยชอบอยู่คนเดียว เราเลยไม่มั่นใจว่าใครจะรับเราตรงนี้ได้หรือเปล่า
 

000"เต้ย" เองเป็นคนที่จริงจังเรื่องความรักไหม
         
จริงจังไหมเหรอ เต้ยว่าหากใครมีความรัก ก็อยากให้มันจริงจังอยู่แล้ว แต่สำหรับเต้ยเวลานี้ เต้ยให้เวลากับครอบครัว งาน และเพื่อนมากกว่า แต่ถ้าวันหนึ่งเต้ยมีใครคนนั้นเข้ามาจริงๆ เต้ยเชื่อว่าเต้ยเองก็คงจะจริงจังและอยากทำมันให้ดีที่สุด
 
สาวคนนี้ตัวเล็ก แต่ใจใหญ่จริงๆ เลย "น่ารักอ่ะ!!! "

สาวคนนี้ชื่อ : "เต้ย" จรินทร์พร จุนเกียรติ
เกิด : 29 มกราคม พ.ศ. 2533
การศึกษา : กำลังจะจบการศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดงและกำกับการแสดง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ผลงานที่ผ่านมา : ละครอุบัติรักข้ามขอบฟ้า 1-2, ชิงชัง, ดอกรักริมทาง, ช็อกโกแลต 5 ฤดู ภาพยนตร์ หนีตามกาลิเลโอ และพิธีกรรายการ Sister Day
ผลงานล่าสุด : ละคร "สามหนุ่มเนื้อทอง" และเพลง "ชอบที่เธอยิ้มมา" ในอัลบั้ม "เลิฟ สเตตัส"
...................
(หมายเหตุ จิ๋วแจ๋วจริงใจกับวันใสๆของ'เต้ย':บันเทิงวันเสาร์ โดย... ณัฏฐิรา หลอดแก้ว)