ปีเตอร์ โอซา แวง คู่รัก คู่หวานนะเนี่ย

โอซา แวง เผยไต๋

หากมีโปรเจคท์ดีพร้อมร่วมงาน ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ยอมรับมีงานที่เมืองไทย เป็นเหตุมีเวลาใกล้ชิดแฟนหนุ่มมากขึ้น

นอกจากเป็นนางแบบชื่อดังในประเทศสิงคโปร์ และเกาะฮ่องกงแล้ว

ชื่อของนางแบบสาวสวยอย่าง โอซา แวง ยังดังในเมืองไทย หลังจากคว้าตำแหน่งสาวเซ็กซี่แห่งปี ของเอฟเอชเอ็มอีกด้วย

ล่าสุดเธอมีโอกาสมาแสดงหนังไทยเรื่องแรก

ใน "สวยลากไส้" ของสหมงคลฟิล์ม พอถามว่าหวานใจรูปหล่อ ปีเตอร์ ว่าอย่างไรบ้าง กับการตัดสินใจครั้งนี้

เธอส่งยิ้มหวานทันที

"เขาให้สิทธิในการตัดสินใจอยู่แล้ว ว่าอยากจะทำอะไร และก็เคารพในการตัดสินใจของเราอยู่แล้ว ซึ่งเขาเองก็รอลุ้นกับงานหนังเรื่องนี้ของฉันนะ (ยิ้มปลื้ม)

ซึ่งเขายังไม่เคยเห็นหนังตัวอย่างก่อนด้วย

ซึ่งฉันก็หวังว่าปีเตอร์จะไม่ขำในการพูดภาษาไทยของฉันในหนังด้วย (หัวเราะ)และการได้มาทำงานหนังที่เมืองไทย ทำให้ฉันกับปีเตอร์มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น

แต่เดี๋ยวอาทิตย์หน้าฉันก็ต้องบินไปทำงานที่ญี่ปุ่นอีก

แต่ยังไงเราก็ให้เวลากันตลอด" โอซา แวง กล่าวพร้อมยิ้มหวาน พอถูกถามว่ารู้สึกอย่างไรที่มีคนชมว่าเป็นคู่รักคู่หวาน ทำเอานางแบบสาวสวยยิ้มหน้าระรื่น

ก็ดีนะที่มีคนมองเราแบบนี้

"อาจเพราะว่าเวลาที่เราอยู่ด้วยกันเรามีความสุขด้วย ถามว่าเราอยากจะร่วมงานด้วยกันไหม ตรงนี้ฉันว่ามันอยู่ที่โปรเจคท์ของงานที่ติดต่อเข้ามามากกว่า

ถ้าโปรเจคท์ดีก็น่าเล่นด้วยกัน ซึ่งถ้าเล่นด้วยกันจริงๆ คงไม่เขินด้วย

เพราะต่างคนก็ต่างมืออาชีพ เป็นเรื่องของการทำงาน เราแยกแยะชีวิตส่วนตัวกับการทำงานออกจากกันได้อย่างแน่นอน" โอซา แวง ยิ้มหวานอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่าใกล้จะมีข่าวดีแล้วหรือยัง

โอซา แวง ยิ้มที่มุมปากนิดๆ ว่ายังไม่ถึงเวลา ถูกกระเซ้าถามต่ออีกว่า แม้จะมีคนรู้ว่าเป็นแฟนปีเตอร์แล้ว ยังมีหนุ่มๆ กล้าเข้ามาจีบอีกหรือเปล่า นางแบบดังเผยสั้นๆ เพียงว่า "เท่าที่รู้ก็ไม่มีนะ"

วกกลับมาพูดคุยถึงงานแสดงครั้งแรกในเมืองไทย

หวานใจ ปีเตอร์ กล่าวว่าในบทเธอรับเล่นเป็น "ยิ้ม" แต่ในเรื่องแทบจะไม่ได้ยิ้มเลยสักนิด

ในเรื่องนี้ฉันจะเป็นผู้หญิงที่เนี้ยบมาก

ดูแลรูปร่างหน้าตาตัวเองตลอด และก็หมั่นออกกำลังกาย คือดูแลตัวเองมากๆ ในเรื่องของความเซ็กซี่ไม่ค่อยนะ คือฉันมองว่ามันเป็นเรื่องของการทำงาน ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาเน้นโชว์อะไร ซึ่งความเซ็กซี่ฉันอาจจะน้อยกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ

ในส่วนของความคาดหวังกับหนังเรื่องแรกนั้น

ฉันว่าฉันทำดีที่สุดแล้ว ซึ่งคนอื่นก็น่าจะเห็นถึงความตั้งใจตรงนี้เขาฉันด้วย" โอซา แวง กล่าวปิดท้าย