ทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์‘เรยา’ปะทะ‘เสก’

มากไปกว่านั้น สิ่งที่สะท้อนผ่านเนื้อหาในละคร คือพฤติกรรมไม่เหมาะสมของตัวละครเรยา ทั้งความก้าวร้าวต่อ "แม่" ผู้ให้กำเนิด การลักลอบเป็น "ชู้" กับสามีคนอื่น ความฟุ้งเฟ้อ ความทะยานอยากในทางที่ผิด จนละเมิดต่อศีลธรรมอันดีงาม ได้มีการขยายผลต่อไปในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องจากผู้ปกครองจำนวนมาก โทรศัพท์ผ่านสายด่วน 1765 ร้องเรียนให้ทบทวนการนำเสนอเนื้อหาในละคร "ดอกส้มสีทอง" จนถึงขั้นอาจโดนแบน 
    
ในทางกลับกัน ยิ่งมีกระแสวิจารณ์และต่อต้านมากเท่าไหร่ บทบาทของ "เรยา" กลับเข้มข้นขึ้นทั้งในละครและชีวิตจริง กระทั่งกลายเป็นหัวข้อสนทนาเรื่องหนึ่งในชีวิตประจำวันในเวลานั้น จนลุกลามบานปลายไปถึงการเรียกร้อง ให้จัดเรตติ้งละครภาคค่ำใหม่ ส่วนหนึ่งเพราะภาพรวมของละคร เหมาะสำหรับการตีความด้วยวุฒิภาวะของผู้ใหญ่ และผู้ปกครองมีความเป็นห่วงถ้าลูกที่ยังเป็นเยาวชนจะนั่งดูละครเรื่องนี้ ทั้งที่ในความเป็นจริง เด็กและเยาวชนโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา หรือหนุ่มสาววัยทำงาน กลับชอบ “ดอกส้มสีทอง” ด้วยเหตุผลที่ว่า ดูสนุก เพราะพฤติกรรมรวมทั้งบทพูดในละคร “แซ่บ” ตรงใจอย่าบอกใคร
     

ซึ่งการตีความคำว่า “แซ่บ” ตรงใจของแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน แต่ท้ายที่สุดพฤติกรรมของตัวละคร ถ้ามองในแง่ความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์ ผู้หญิงสวยฉลาดอย่างเรยา เลือกที่จะเป็น “ชู้” กับสามีคนอื่นเพราะอะไร และทำไมถึงเลือกใช้เสน่ห์จริตมารยาหญิง เป็นเครื่องมือล่อลวงผู้ชายให้มาติดกับ “บ่วงกามารมย์” ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ โดยไม่สนใจว่า สิ่งนั้นจะถูกหรือผิด ในชีวิตจริงมีหรือไม่ 
    
ความฟุ้งเฟ้อไม่รู้จักพอ ค่านิยมการบูชาเงิน เห็นแก่ตัวแม้แต่กับ “แม่” ผู้ให้กำเนิด จนเข้าขั้นอกตัญญู และการเลี้ยงดูลูกอย่างตามใจ โดยปราศจากเหตุผล รวมถึงแม่ที่มีลูกด้วยความไม่พร้อม สุดท้ายลูกเป็นอย่างไร ในชีวิตจริงเหตุการณ์ลักษณะนี้มีหรือไม่  
    
การกดขี่และค่านิยมทางเพศ ความไม่ซื่อสัตย์ต่อสามีหรือภรรยา ความไม่หนักแน่น และรู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมมารยาหญิง จนเลยเถิดเผลอไปมีสัมพันธ์สวาทกับเรยาของ “คุณใหญ่” นำแสดงโดย “อั๋น” วิทยา วสุไกรไพศาล ทั้งที่ตัวเองมีภรรยาอยู่แล้ว ในชีวิตจริงมีหรือไม่ และถ้าผู้ชายดูแล้วจะรู้อะไร 

แม้แต่การวางตัวเป็นเมียหลวงของคุณ “ดี๋” รับบทโดย “โดนัท” มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล ใช้ความนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ซึ่งรับประกันไม่ได้ว่า สูตรนี้จะใช้ได้กับทุกครัวเรือน แต่ความอดทนอดกลั้น และการให้อภัยเป็นลักษณะเด่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะประคับประคองชีวิตคู่ให้อยู่รอด สามารถดึงออกมาใช้ได้ในชีวิตจริง
    
ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่สอดแทรกอยู่ในปรากฏการณ์ ทอล์กออฟเดอะทาวน์ ซึ่งความจริงที่เกิดขึ้น คือเด็กหรือวัยรุ่นถ้าดูละครเรื่องนี้ โดยปราศจากผู้ปกครองอธิบายอาจเป็นอันตรายในด้านพฤติกรรมเลียนแบบ หนุ่มสาววัยทำงาน โดนใจเพราะแซ่บเวอร์ ผู้ใหญ่อาจจะติติง ชอบหรือไม่ชอบ เพราะพฤติกรรมของตัวละคร และเนื้อหาโดยรวมล่อแหลมเกินไป โดยสรุป ใครจะมีความคิดเห็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการวิจารณญานในการรับชม บวกรวมกับประสบการณ์ และมุมมองชีวิตของแต่ละบุคคล 
     
ฉะนั้นสิ่งสำคัญหากจะใช้คำจำกัดความว่า “ดูละครย้อนดูตัวเอง” กับ “ดอกส้มสีทอง” คงไม่ผิดนัก ถ้าจะผิดอาจเพราะละครเรื่องนี้ ใส่ผงชูรสและสมจริงเกินไป สะท้อนพฤติกรรมไร้ยางอายของผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งที่ความจริงอาจน่าสงสาร และเชื่อว่ามีอยู่ในสังคม ที่สำคัญเธอเป็นทั้ง “ผู้กระทำ” และ “ผู้ถูกกระทำ” ตรงนี้ต่างหากที่น่าขบคิด

อีกปรากฏการณ์ ที่เป็นทอล์ก ออฟเดอะทาวน์ ของวงการเพลง เมื่อร็อกสตาร์คนดัง “เสก” โลโซ หรือ เสกสรร ศุขพิมาย ถูกอดีตภรรยา “กานต์” วิภากร ศุขมิมาย ออกมาโพสต์รูปผ่านเฟสบุ๊กแฉว่า เสกมีพฤติกรรมเสพยา และทำร้ายร่างกายลูกเมีย หากมองด้านภาพลักษณ์ เสกถือว่าเป็นอัจฉริยะทางดนตรีคนหนึ่ง เพราะเขาเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ทางเสียงเพลง แต่สิ่งที่ค่อยๆ ลดทอนพรสวรรค์ของเขาอย่างไม่รู้ตัวคือ “ยาเสพติด” ซึ่งเสกมีความคิดว่า จะใช้มันเพื่อเพิ่ม “ไอเดีย” ในการทำเพลง สุดท้ายร็อกสตาร์ชื่อดัง ติดกับดักความสุขชั่วคราวของยาเพิ่มไอเดีย ร่วงหล่นจากฟ้า สลัดภาพร็อกสตาร์ กลายเป็นคน(ไม่)ปกติคนหนึ่ง เส้นทางในวงการหอมหวาน แต่ต้องเดินอย่างระวัง เพราะพลาดเมื่อไหร่ โอกาสแก้ตัวคงมี แต่อยู่ที่วิจารณญาณของประชาชน 
    
จบเรื่องทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ ปี 2554 ใครทำดีมีเรื่องให้กล่าวถึง ใครทำไม่ดี มีเสียวสันหลัง เพราะแป๊บเดียว รู้กันทั้งเมือง!!