เรียกว่าเป็นหนุ่มฮอตที่ไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหน ก็เป็นที่จับตามองมาตลอด สำหรับเจ้าของฉายา "หล่อขั้นเทพ" อย่าง "โดม" ปกรณ์ลัม ที่ตอนนี้ทั้งงานเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวที่ปล่อยเพลงมาแล้วอย่างเพลง "คิดถึง" กำลังไปได้สวย รวมถึงความรักกับหวานใจคนใหม่ "กัสจัง" รันธนิน พิทักษ์พรตระกูล ที่เส้นทางรักกำลังโรยด้วยกลีบกุหลาบ ฮอตขึ้นแท่นแบบนี้ "คม ชัด ลึก" เลยขอฉกตัว "โดม" มาพูดคุยถึงความเป็นตัวตนในแบบส่วนตั๊ว ส่วนตัวของชายในฝันคนนี้
***10 ปีกับการกลับมาเป็นศิลปินเดี่ยวอีกครั้งเป็นอย่างไรบ้าง
ต้องบอกว่า "คิดถึง" จริงๆ แล้วผมใช้เวลาในการก่อร่างสร้างตัวในการรวบรวมทีมมันนานกว่า เพราะว่าผมกับเพื่อนวงโนโลโก้แยกทางกันแล้ว ในตอนแรกมีคนบอกว่าผมจะเลิกทำเพลง เพราะเห็นผมไปเล่นละครเล่นละครเวที แต่ผมจะบอกทุกคนเสมอว่า ผมเลิกไม่ได้ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เวลาเราไปเล่นอะไรก็แล้ว ทั้งเล่นโฆษณาหรือไปทำอะไรก็แล้วแต่ มันเป็นการเหมือนไปใช้พลังงาน แต่การทำเพลงเป็นเหมือนชาร์จแบต สนุกที่ได้ทำ ทำแล้วไม่เหนื่อย มันคิดถึงบรรยากาศตอนนั้น มันคิดถึงจริงๆ ความรู้สึกที่มันหอมหวน เทปขายได้เป็นล้านๆ ตลับ ทำไมฝนตกคนยังมาดูคอนเสิร์ตกันอยู่ มันเลยเป็นที่มา ทำให้เรารวบรวมทีมอีกครั้ง
***อัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มนี้ จะเห็นอะไรที่แตกต่างจาก โดม โนโลโก้ บ้าง
อันดับแรกเลยคือการหาโจทย์ใหม่ๆ ก่อน ตอนแรกคิดกันว่ามันต้องล้ำ มันต้องทันสมัย แต่เรามาคิดในอีกทางว่าจะใหม่ จะล้ำไปไหน คนเห็นโดมมาทุกแบบแล้วทุกมุมจริงๆ ตั้งแต่เป็นนายแบบ เห็นโดมมาทุกลุคทุกภาพจะเป็นป๊อป ร็อก เห็นถ่ายรูปมาเยอะแยะ แต่สิ่งหนึ่งที่คนไม่เห็นผมมาตั้งนานแล้ว คือความเป็นผมจริงๆ ตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเดินทางมาถึงจนวันนี้ ผมเดินมา 15 ปีในวงการเพลง ผมอยากย้อนไปวันก่อนที่ผมจะถูกเติมแต่งว่าผมเคยเป็นอะไรมา วันที่เป็นนายปกรณ์ ลัม ด.ช.ปกรณ์ ลัมเนี่ยมันเป็นยังไง
***ความแตกต่างระหว่างการเป็นศิลปินและการเป็นดารา
มันต่างกันมากเลยนะ อย่างผมจะมีความรู้สึกว่าเวลาออกไปเล่นคอนเสิร์ตเหมือนเราได้ไปซึมซับกิริยาความรู้สึกของทุกคน มันไม่เหมือนเล่นละครที่คนดูๆ ทีวีอยู่ที่บ้าน และไม่มีพฤติกรรมโต้ตอบกลับมาว่าเขารู้สึกยังไง ผิดกับเวลาไปเล่นคอนเสิร์ต เราเห็นกันจะๆ ความสนุกมันก็รับส่งถึงกันแบบเต็มๆ มันเป็นความรู้สึกที่เรียกว่ามันประทับใจเราไม่รู้ลืมเลย
***กระโดดจาก "ศิลปิน" ก้าวขึ้นแท่นเจ้าของค่ายเพลงของตัวเองแล้ว
ใช่ ในวันนี้ผมเป็นเจ้าของค่าย "ไอโคนิค" ค่ายเพลงของผมเอง ผมเชื่อว่าเราทำงานทุกอย่าง โดยเฉพาะทำงานศิลปะ เราต้องสนุกถ้าไม่สนุกแล้ว ผมว่าเลิกเถอะ มันเสียเวลาทั้งทุกอย่างและทุกคน จุดหนึ่งเราอยู่ค่ายมาต่างๆ ความสนุกมันเริ่มน้อยลงไป เริ่มรู้สึกเราทำงานเหมือนกดปุ่ม ซึ่งผมว่ามันไม่ใช่งานศิลปะ บางทีเราทำอะไรมาซ้ำๆ นานๆ ทำเป็นระบบมันกลายเป็นการกดปุ่ม การที่เรามาทำค่ายเพลง เราควบคุมทุกอย่างเองได้ ยิ่งเป็นนายทุนก็ยิ่งดี
https://www.facebook.com/teeneedotcom