กลายเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ ข่าวใหญ่ที่ใครๆ ไม่พูดถึงไม่ได้ เพียงชั่วข้ามคืนเดียว เมื่อนางวิภากร ศุขพิมาย หรือ "กานต์" ภรรยาของนายเสกสรร ศุขพิมาย หรือ "เสก โลโซ" ร็อกเกอร์-นักร้องเพลงร็อกซูเปอร์ สตาร์ของไทย โพสต์ข้อความลงในเว็บเฟซบุ๊ก ส่วนตัว "Wiphakorn Sookpimay" พร้อมกับแสดงภาพ "เสก โลโซ" ในลักษณะ คล้ายดูด หรือเสพบางอย่าง
เมื่อหัวค่ำวันที่ 2 ธันวาคม แฉปัญหา ในครอบครัว อ้างว่าเสก โลโซ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายประการ ทั้งทำร้ายร่างกายภรรยาที่อยู่กินกันมาร่วม 20 ปี ทอดทิ้งครอบครัว ไม่ดูแลลูก มีอาการเพี้ยนหนัก สร้างภาพ และเสพสิ่งไม่เหมาะสมบางชนิด พร้อมประกาศว่าที่ทำเช่นนี้เพราะทนรับไม่ไหวอีกต่อไป จึงต้องการให้สังคมไทยได้เห็นความจริง และพร้อมสู้กับเสก โลโซ ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง กระทั่งมีผู้คนมาร่วมแชร์ ส่งต่อลุกลามไปทั่วโลกสังคมโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค และกลายเป็นข่าวใหญ่ปรากฎอยู่ตามสื่อต่างๆ ตามที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
มติชนออนไลน์จึงขออนุญาต หยิบนำบทสัมภาษณ์ นางวิกากร หรือ "กานต์" ที่ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับ "ข่าวสด" ถึงเรื่องราวอื้อฉาวที่เกิด ขึ้นว่า ตนยอมรับว่าภาพที่เห็นในเฟซบุ๊ก "Wiphakorn Sookpimay" เป็นภาพเสก โลโซ จริง โดยถ่ายเอาไว้ขณะเสกอยู่ที่บ้าน แต่ตอนนี้คงเรียกว่าตนเป็นภรรยาของเสกไม่ได้ เพราะกลายเป็นอดีตไปแล้ว หลังจากเพิ่งหย่าร้างกับเสกไปเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา สาเหตุที่ต้องหย่าเพราะสุดทนพฤติกรรมของอดีตสามี มีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง สาเหตุสำคัญเกิดจากเสกมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมบางประการ ทั้งยังแอบนอกใจตนบ่อยครั้ง
"เรามีเรื่องทะเลาะกันบ่อยถึงขั้นเราถูกตบตี แต่ที่ผ่านมาพยายามอดทนเพราะเรามีลูกกัน รักกันมายาวนานร่วมๆ 20 ปี" นางวิภากรกล่าว
หย่าแล้ว-ไม่ทำตามสัญญา
อดีตภรรยาเสก โลโซ เปิดเผยต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ประมาณปี 2552 เคยมีข่าวว่าเราทั้งคู่จะเลิกกัน แต่ในที่สุดทุกอย่างปรับจูนเข้าหากันได้ ขณะนั้นมีลูกด้วยกัน 2 คน คือน้องเสือกับน้องกวาง กระทั่งต่อมามีลูกอีกคนคือน้องลอนดอน รวมแล้วมีลูกด้วยกัน 3 คน อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันความอดทนของตนหมดแล้ว ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมดังกล่าว จนในที่สุดเป็นที่มาของการหย่าร้างเมื่อวันที่ 31 ส.ค.54 และจนถึงขณะนี้ตนทำข้อตกลงในรายละเอียดการหย่ากับทางอดีตสามีไว้หมด โดยฝ่ายเสกได้จ่ายค่าเลี้ยงดูลูกมาส่วนหนึ่งหลังจากหย่ากัน แต่ในส่วนของค่าเปอร์เซ็นต์ซีดีและคอนเสิร์ต ที่ผ่านมานับตั้งแต่หย่าไม่เป็นไปตามเงื่อนไข พอตนทวงถามก็อารมณ์เสีย
อ้าง "เสก"พาผู้หญิงเข้าบ้าน
นางวิภากรระบุอีกว่า เรื่องทรัพย์สินสมรส โดยเฉพาะบ้านที่ซอยวัชรพล (ตลาดออเงิน) ที่ดินย่านเกษตร-นวมินทร์ รวมถึงรถบีเอ็ม ดับเบิลยู ซีรีส์ 7 เสกบอกจะยกให้ลูก เพราะจะได้ให้ไว้ไปส่งลูกเรียน แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามคำพูด ที่สำคัญบ้านที่อยู่ปัจจุบันก็เข้าไปอยู่เอง และพาผู้หญิงเข้าไปอยู่ ทั้งๆ ที่ตกลงกันว่าจะย้ายตัวเองไปอยู่คอนโดมิเนียม ทุกข้อตกลงไม่เป็นไปตามนั้น
"แล้วจะให้หนูทำยังไง หนูต้องดูแลลูก 3 คน ถึงตอนนี้หนูทนไม่ไหวแล้วจึงต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ใครจะว่าหนูทำเกินไปก็ตาม แต่ในความเป็นแม่คนยังไงก็ต้องสู้ ซึ่งถ้าเขาเป็นลูกผู้ชายและยังมีความเป็นพ่อหลงเหลือน่าจะคิดและเข้าใจถึงจุดนี้บ้าง ยืนยันจะเดินหน้าสู้เพื่อความชอบธรรมถึงที่สุด เพราะทุกเรื่องก่อนหย่าหนูมีหลักฐานสัญญาที่เซ็นตกลงกันไว้หมดแล้ว" นางวิภากรกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
https://www.facebook.com/teeneedotcom