ณัฏฐ์ยันไม่คิดหนีพร้อมช่วยคนเจ็บ

นายณัฏฐ์ ย้ำว่า มีสติ ไม่มีอาการมึนเมา เพราะช่วงนั้นถ่ายละครอยู่ก่อนจะมาเจอเหตุการณ์นี้ และโดยส่วนตัวก็ขับรถมา 10 ปี ไม่เคยขับรถชน อาจมีการเฉี่ยวเสาบ้าง จากเหตุการณ์นี้ไม่เคยมีความคิดที่จะหนี หรือทิ้งคู่กรณีไว้ ยินดีจะรับผิดชอบ และดูแลผู้บาดเจ็บตลอด และสิ่งที่ทำเป็นการบ่งบอกได้ดี หลังจากคู่กรณีถูกส่งเข้าโรงพยาบาลได้นั่งรถกองถ่ายไป สภ.บ้านกร่ำ อ.แกลง เพื่อไปให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเดินทางไปด้วยตัวเอง ซึ่งลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้ว 
   
ช่วยเหลือเบื้องต้น1หมื่นบาท
       
"ผมกลับมาที่เกิดเหตุ และพบกับคุณพ่อของพี่อภิวัฒน์ ซึ่งมีการพุดคุยกัน โดยคุณพ่อของพี่อภิวัฒน์ ไม่ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ บอกเพียงว่าชีวิตคนสำคัญกว่าและยังบอกว่าดีใจที่ผมไม่คิดหนี และแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจตอนนี้พี่อภิวัฒน์ผ่าตัดซี่โครงและกรามที่หักจนปลอดภัยแล้ว พักอยู่โรงพยาบาลระยอง ผมยังมีงานค้างอยู่เลยส่งคุณแม่ไปดูแลและเป็นตัวแทนของผมก่อน เบื้องต้นได้ให้เงินช่วยเหลือไปจำนวน 1 หมื่นบาท และรับปากว่าจะดูแลจนกว่าจะหาย" นักแสดงหนุ่มกล่าว 
       
ก่อนจะเสร็จสิ้นการแถลงข่าวครั้งนี้ นายณัฏฐ์กล่าวย้ำว่า มีสติในการขับรถเสมอ เนื่องจากได้ข้อคิดว่า เท้าข้างหนึ่งอยู่ในคุก และจากเหตุการณ์ดังกล่าวขอพักการขับรถไว้ก่อน
       
"แม่สอนมาตั้งแต่หัดขับรถว่า ขับรถต้องคิดไว้เสมอว่าเท้าข้างหนึ่งอยู่ในคุกแล้ว จากเหตุการณ์นี้ผมเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้มีคนได้รับบาดเจ็บ ถึงมันจะไม่ใช่ความตั้งใจ แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกแย่กับการขับรถ จนตอนนี้ผมต้องหยุดพักการขับรถไว้เลย" นายณัฏฐ์ กล่าวทิ้งท้าย
    
ตร.ยันทำคดีตรงไปตรงมา
               
ด้าน พ.ต.ท.นาวิน ธีระวิทย์ รองผกก.สส.สภ.บ้านกร่ำ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า ผลทางคดีต้องรอตรวจสอบพยานบุคคล พยานวิทยาการพิสูจน์หลักฐานรวมถึงปากคำคนเจ็บให้ชัดเจนก่อน ซึ่งตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว อีกไม่กี่วันคงหายและให้ปากคำได้ สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์คุ้มครองค่ารักษาจำนวนเงิน 15,000-50,000 บาท ส่วนประกันรถ ทั้งสองผ่ายต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงจะชี้ได้ว่าฝ่ายไหนผิด เบื่องต้นทราบว่าจุดเกิดเหตุนั้นเป็นเส้นทึบห้ามแซงเนื่องจากเป็นเขตชุมชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย 
        
"หลังเกิดเหตุนายณัฏฐ์ มาพบพนักงานสอบสวนกลางดึก และให้ปากคำเบื้องต้นไว้แล้วโดยยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจะขอเจรจากับผู้เสียหายก่อนจึงจะมาแจ้งพนักงานสอบสวนทราบภายหลัง ทางตำรวจจึงยังไม่มีการเรียกมาสอบปากคำ แต่หากคนเจ็บผลออกมาว่าได้รับบาดเจ็บขาหักตามคดีแล้วเป็นคดีอาญาแต่ชดใช้ค่าเสียหายกันทางแพ่งได้ เมื่อสำนวนส่งไปศาลแล้วศาลจะสั่งปรับหรือจำอย่างไรอยู่ที่อาการของผู้บาดเจ็บ ผมสั่งให้พนักงานสอบสวนทำคดีอย่างตรงไปตรงมา" พ.ต.ท.นาวินระบุ

ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา

วันเดียวกัน นายสุพิชัยเดินทางมายัง สภ.บ้านกร่ำ เพื่อขอขัดประจำวันไปเบิก พ.ร.บ.ค่ารักษาพยาบาลให้ลูกชาย ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องศัลยกรรม ชั้น 1 โรงพยาบาลระยอง
    
พ่อคนเจ็บยันลูกชายไม่ผิด
       
นายสุพิชัยเปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ถือโทษโกรธคู่กรณีแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลา ถือเป็นคราวเคราะห์ของลูกชายและคู่กรณี ทั้งนี้ นายณัฏฐ์ได้ให้ผู้จัดการส่วนตัวเป็นหญิงทั้งสองคนมาพบตนที่โรงพยาบาล โดยบอกว่านายณัฏฐ์ให้มาดูแลเต็มที่ ซึ่งตนเป็นเจ้าของบังกะโลชายหาดแหลมแม่พิมพ์ ขอใช้เงินส่วนตัวรักษาลูกชายจนกว่าจะหายดีแล้วค่อยว่ากัน เบื้องต้นลูกชายได้รับบาดเจ็บ กรามหัก ซี่โครงหัก แขนหัก 2 ท่อน ปากฉีก และหูแหว่ง หลังจากแพทย์ได้ผ่าตัดซี่โครงแล้วดีขึ้นตามลำดับ ลืมตาได้และตอบสนอง เพียงแต่ยังพูดไม่ได้ 
       
"วันเกิดเหตุมีคนเห็นเหตุการณ์บอกผมว่า คุณณัฏฐ์ขับรถมาแล้วพุ่งมาชนท้ายรถลูกชายผมกระเด็นเข้าไปในรถเก๋งอย่างแรง ซึ่งบริเวณดังกล่าวนั้นเป็นเขตชุมชน ส่วนมากนักท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ค้าจะรู้กันดีว่าห้ามแซงบริเวณดังกล่าว ผมเชื่อว่าลูกชายจะเป็นฝ่ายถูกเพราะขับมาอยู่ในเลนเพื่อจะเลี้ยวเข้าบ้าน" นายสุพิชัยกล่าวอย่างมั่นใจ 
       
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน มีผู้หญิงโทรศัพท์มาที่บิดาของผู้ได้รับบาดเจ็บ อ้างว่าตนเองชื่อปู เป็นแม่ของนายณัฏฐ์ ตอนนี้ณัฏฐ์อยู่ กทม. และจะช่วยเหลือทุกอย่าง ในเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมกับจะเดินทางมาเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บด้วยตนเอง

ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา