เมษ์ บัณฑิตาสุดปลื้มได้เงิน3แสน9 จากเสี่ยกำมะลอคืนแล้ว

"เมษ์ บัณฑิตา" ปลื้มสุดๆ ได้เงิน 3 แสน 9 หมื่นที่ถูกเสี่ยกำมะลอหลอกตุ๋นไปคืนแล้วครบทุกบาททุกสตางค์ หลังถูกต่อรองเหลือ 3 แสนแต่ทำใจแข็งไม่ยอม เพราะต้องการให้ผู้กะทำผิดได้รับโทษอย่างสาสม เผยเตรียมเดินสายแก้บน ล่าสุดมีข่าวดีนาฬิกายี่ห้อดังทาบเป็นพรีเซ็นเตอร์

ดีใจสุดๆ เมื่อครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว "นายวินัย บุญส่ง" เสี่ยกำมะลอที่หลอกตุ๋นเงินไปกว่า 4 แสนบาท ล่าสุดความคืบหน้าเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดว่จาก ดาราสาวช่อง 7 สี "เมษ์" บัณฑิตา ฐานวิเศษ ยอมรับว่าตนได้รับเงินที่เสี่ยกำมะลอต้มตุ๋นไปคืนครบทุกบาททุกสตางค์ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับยอมรับว่าขณะนี้รู้สึกดีใจเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าครั้งที่ได้ทราบข่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมเสี่ยกำมะลอมาดำเนินคดีได้

เมษ์ บัณฑิตา เปิดเผยถึงขั้นตอนการได้เงินคืนครั้งนี้ว่า

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ โทรศัพท์มาหาตนเพื่อนัดให้เดินทางไปที่สน. เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องเงินที่ถูก "นายวินัย บุญส่ง" เสี่ยกำมะลอตุ๋นไป เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า มี ทนาย ภรรยา ลูกสาว และพี่สาวรวเมษ์มถึงเจ้าหนี้ ของนายวินัยจำนวนหนึ่งรออยู่
ก่อนที่จะเปิดการเจรจาไกล่เกลี่ย

"ที่สน.เมษ์ไปไม่เห็นคนที่หลอกเมษ์มาด้วยนะ มีแต่ทนาย พี่สาว ภรรยา และลูกสาวเขามา ตอนแรกเขาต่อรองเราว่าขอชดใช้ให้ 3 แสน เพราะเขาบอกว่าเมษ์กับคนที่หลอกเมษ์ไปตกลงกันไว้แล้วว่าแค่ 3 แสน ทั้งที่เขากับเมษ์ตกลงกันไว้ที่ 4 แสน พวกเขาก็บอกว่ามีเงินสดมาแค่ 3 แสนเท่านั้น แต่เมษ์ก็ไม่ยอมนะบอกเขาไปว่าเมษ์โดนหลอกไป 3 แสน 9 หมื่นบาท ยังไงถ้าไม่ได้ 4 แสนตามที่ตกลง ก็ขอให้ได้คืนเท่าจำนวนที่หลอกไปแล้วกัน"

"จริงๆ เห็นหน้าลูกสาวเขาวัย 7 เดือนก็รู้สึกสงสารนะ ภรรยาเขาก็พยายามจะพูดว่าเขาลำบาก ให้เห็นใจเขาด้วย แต่เมษ์ก็คิดว่าต้องตัดสินใจเด็ดขาด ยอมไม่ได้หรอก เพราะเมษ์เองกว่าจะหาเงินก้อนนี้มาได้ก็ลำบากเหมือนกันนะ ลดจาก 4 แสนได้ แต่ 3 แสนคงไม่ได้ สุดท้ายตกลงกันไปมาทางเขาก็จ่ายคืนให้เมษ์เลย ที่จำนวน 3 แสน 9 หมื่น เท่ากับที่เมษ์โดนหลอกไป"

เมษ์ก็ต้องการให้เขาได้รับผิด ไม่งั้นนะเขาก็ไปหลอกคนอื่นๆ

ดาราสาวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวต่อไปว่า หลังจากได้รับเงินคืนแล้ว รู้สึกดีใจมากๆ เพราะตนภาวนามาตลอดให้เรื่องนี้จบลงโดยเร็ว และเงินที่ตนเสียไปต้องไม่สูญเปล่า

"ดีใจมากค่ะ สุดท้ายมันก็จบเสียที เพราะเมษ์ไม่อยากให้แค่เรื่องโกงเงินเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตหรอก แต่เมษ์ก็ต้องการให้เขาได้รับผิด ไม่ใช่ลอยนวลไป ไม่งั้นนะเขาก็ไปหลอกคนอื่นๆ ต่อเพราะที่ผ่านมาเขายังเอาชื่อเมษ์ไปอ้างเพื่อหลอกคนในบ่อนด้วย อ้างชื่อว่ารู้จักกันแล้วก็เอาเงินเขามา"

"นอกจากนั้นยังมีชื่อดาราอีกหลายคนที่เขาเอาไปอ้างด้วย มีครั้งหนึ่งชื่อเมษ์ยังโดนเขาเอาไปอ้างเพื่อยืมเงินมอเตอร์ไซด์รับจ้างด้วย เมษ์ไม่รู้ว่าที่เพื่อนดาราคนอื่นเขาโดนโกงไปจะมีโอกาสได้คืนนั้นเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ครั้งนี้ที่เขายอมคืนให้เมษ์ถือว่าโชคดีที่สุดแล้ว เพราะเขาบอกว่าอยากให้เรื่องทั้งหมดจบเร็วๆ เพราะไม่อยากให้เป็นข่าวกลัวไปทำงานอย่างอื่นไม่ได้ และกลัวลูกสาวจะไปเรียนหนังสือไม่ได้ในอนาคต"

หลังได้รับเงินที่หลอกเอาไปคืนมาแล้ว "เมษ์" เปิดเผยว่าจากตนกำลังเตรียมตัวเดินสายแก้บน หลังจากไปบนสาลกล่าวเพื่อให้ได้เงินคืนไว้หลายที่ด้วยกัน

"ตอนนี้คงต้องไปแก้บนเพียบเลยล่ะ เพราะก่อนหน้าที่จะจับเขาได้เมษ์บนไว้ 4 วัด พอจับได้กลัวไม่ได้เงินคืนบนอีก 3 วัด รวมเป็น 7 วัด ล่าสุดรู้สึกจะเป็นที่เกาะเกร็ด ทีไปบนเพราะเมษ์ไม่รู้ว่าเขาจะจับคนร้ายได้หรือเปล่า หรือจับได้แล้วจะได้เงินคืนหรือเปล่า หรือว่าเรื่องราวทั้งหมดจะจบลงอย่างไร ตอนนั้นสำหรับเมษ์มันเครียดนะ มันก็ต้องหาที่พึ่งเป็นธรรมดา"

ไม่หวั่น กลัวเสี่ยตามอาฆาต ยันตนน่าจะเป็นฝ่ายอาฆาตมากกว่า

ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่า หลังจากเรื่องนี้จบลงแล้วอย่างสวยงาม หวั่นหรือไม่ว่าทางเสี่ยกำมะลอ จะคิดอาฆาต แล้วย้อนกลับมาแก้แค้นภายหลัง ดาราสาวช่อง 7 เปิดเผยว่า ไม่หวั่น พร้อมกับบอกว่าตนน่าจะเป็นฝ่ายอาฆาตตามล้างแค้นเขามากว่าที่หลอกตนในครั้งนี้

"ในส่วนตัวไม่กลัวเลยนะ เพราะเมษ์ไม่ได้ไปทำอะไรเขา เขาต่างห่างที่เป็นฝ่ายทำเมษ์คนที่แค้น น่าจะเป็นทางฝ่ายเมษ์มากกว่า ตอนนี้เวลาไปไหนมาไหนก็จะมีเพื่อนไปด้วยตลอด ไม่ได้ไหนคนเดียวคิดว่าเขาคงไม่กล้ามาทำอะไรเมษ์หรอก และอันที่จริงเขาไม่ควรที่จะมายุ่งกับเมษ์แล้วด้วยนะ"

อนึ่ง "เมษ์" เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทิ้งท้ายว่า ตนรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เหมือนกับเป็นการ สะเดาะเคราะห์ และเป็นการล้างซวยครั้งยิ่งใหญ่ เพราะหลังจากเหตุการณ์นี้กำลังจบลง ตนได้รับการทาบทามให้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์นาฬิกาชื่อดังยี่ห้อหนึ่งทันที ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเจรจากันอยู่