เป้ย เมินคนมองขาลงรับเลือกมากขึ้นลดเซ็กซี่

ตั้งแต่เลิกรากับอดีตคนรัก เต็ม-วุฒิสิทธิ์ สืบสุวรรณ หลายคนก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตานางร้ายเซ็กซี่ เป้ย-ปานวาด เหมมณี ออกงานหรือมีละครให้เห็นเท่าไหร่
 
จนถูกเมาท์ว่าสาวเป้ย กำลังอยู่ในช่วงขาลงในวงการบันเทิงบ้าง เก็บตัวหวังลบภาพเซ็กซี่บ้าง สาวเป้ยเลยเคลียร์ว่า
   
“งานเซ็กซี่ไม่ใช่ไม่รับหรอก อย่างงานที่เราทำประจำโอเครับได้ ถ่ายแบบก็มีบ้างแต่คืออะไรที่สามารถควบคุมได้”
 
แสดงว่าเบรกเซ็กซี่ไม่ให้เยอะแบบเมื่อก่อน?
“เราพยายามทำนะ บางทีเราพยายามเลือก แต่ถ้าคนที่ติดต่อมาเราสนิทกันเราก็เกรงใจ ก็มีบ้างที่ต้องรับ ก็ไม่ได้จะหายไปทีเดียว จะเลือกมากขึ้น รับในสิ่งที่เราสบายใจ บางทีภาพที่ออกมาทำให้รู้สึกว่าฉันไม่ควรจะรับงานนี้เลย มันก็ไม่ดีทำร้ายจิตใจเรา มันเหมือนเป็นแผล อย่างเรื่องล้างรถก็เหมือนเป็นแผล ไม่ได้อยากจะเปลี่ยนลุค เป้ยเคารพตรงนี้ ไม่ได้ทิ้ง แต่จะไม่รับบ่อยเหมือนเดิม ภาพเซ็กซี่ลบไม่ได้หรอก คนก็รู้จักเราจากตรงนี้ ที่ดูหาย ๆ ไปเป็นความตั้งใจที่จะไม่ทำไม่รับดีกว่าในงานบางงาน”
 
แล้วการรับบทในละครจะปรับ   ลุคด้วยมั้ย?
 “ละครคนดูเขารู้ว่าอะไรคืออะไร ชีวิตจริงเราไม่ได้เป็นแบบนั้น ละครเป็นงานเราก็ไม่ได้เกี่ยง    เป้ยยอมรับว่า เป้ยเป็นเป้ย-ปานวาด เหมมณี ได้ทุกวันนี้ โชคดีมากที่มีเอ็กแซ็กท์ คอยยื่นแต่บทดี ๆ ให้” อยากจะเซ็นสัญญากับคุณบอยเลยมั้ย? “ตัวเราทำงานกับคุณบอยอยู่แล้วเราให้ใจอยู่แล้ว คือไม่ต้องเซ็นสัญญาเราก็มีงานกับเอ็กแซ็กท์ตลอดอยู่แล้ว เราฟรีแลนซ์ทำงานอะไรกับใครก็ได้ แล้วคุณบอยเขาก็เปิดโอกาสให้เรา

สามารถไปเล่นละครค่ายอื่นได้ คือเราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรที่ไม่ได้เซ็นสัญญากับเขา เพียงแต่ว่าที่สุดแล้วไม่ใช่ว่าเป้ยไม่รับนะ เป้ยพยายามทำให้อยู่ตรงกลางมากที่สุด ใจเขาใจเรา เขาอาจจะคิดมากไปเองก็ได้นะ แต่เป้ยคิดว่าเป้ยมีที่มาที่ไปยังไง ใครทำให้เป้ยมีทุกวันนี้มีเงินใช้ทุกวันนี้ได้ เป้ยพยายามคิดตรงนี้ไว้ดีกว่า เราแฮปปี้อยู่แล้วทำงานกับเอ็กแซ็กท์ อย่างที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยขอดูบท แต่เราเชื่อใจ เพราะมันเป็นบทดี ๆ ทั้งนั้น”
   
ที่ผ่านมาเหมือนพยายามลบภาพเซ็กซี่ตอนนี้พอใจแล้วหรือยัง?
 “มันไม่ได้ลบนะพี่ เป้ยบอกพยายามเลือกมากกว่า ให้เบาลงสบายใจที่สุด เป้ยก็ยอมรับว่าเป้ยอยากแต่งงานอยากมีครอบครัว มันส่งผลถึงอนาคตของเราด้วยนะงานแบบนี้” ที่คนส่วนใหญ่มองว่าเราสตรอเบอรี่ เราอยากจะลบภาพตรงนี้ด้วยไหม? “จริง ๆ คนที่รู้จักเป้ยก็รู้ว่าเป้ยเป็นคนยังไง บางสิ่งบางอย่างที่ผ่านมาแล้ว เราก็ไม่สามารถไปแก้อะไรได้ แต่ ณ ตอนนี้เป้ยรู้แล้วว่าควรจะอะไรยังไง
 
เป้ยเลือกที่จะอย่างนี้ดีกว่า เจออะไรมาเยอะ พร้อมที่จะหยิบเอาตรงนั้นมาเป็นบทเรียนได้ว่า ต่อไปนี้ฉันควรจะอย่างนี้นะ ฉันควรที่จะคิดดี ๆ ก่อนนะ ก่อนที่จะพูดอะไร เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองว่าเราจะเป็นคนยังไง” อาจจะพูดน้อยลงหรือว่าคิดก่อนพูดมากกว่านี้? “คือบางทีเรารู้เราเข้าใจ ในการเขียนข่าวหรืออะไรก็ตามแต่เพื่อ  ที่คนจะได้อ่าน เพื่อที่คนจะได้ดูอย่างนี้ เราเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างเราสามารถควบคุมได้ มันขึ้นอยู่กับตัวเราแค่นั้นเอง”.