สะกด มารยาทเป็นไหม!

วันนี้กระผมขอหยิบพฤติกรรมของ ดีเจสาวท่านหนึ่งนามว่า “ต้นหอม-ศกุนตลา” ดีเจประจำ คลื่น 94 อีเอฟเอ็ม ของ เอไทม์ ที่ก่อเรื่องไว้แล้ว ยังพยายามให้ข่าวและบอกความเท็จกับผู้อื่น ทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบี่ยงเบนประเด็นไป จนอาจเกิดปัญหาระหว่างค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ขึ้นก็เป็นได้
   
ทั้งที่เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องเลยด้วยซ้ำ แถมยังผูกปมทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนอีก...
   
อีกทั้งข้อมูลที่เธอนั้นสาธยายลงใน ’ทวิตเตอร์“, ’เฟซบุ๊ก“ หรือแม้กระทั่ง สเตตัสในหัว ’บีบี“ ยังเขียนระบายเอาดีเข้าตัว โดยไม่บอกรายละเอียดที่แท้จริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ที่พบเห็นข้อความดังกล่าวถือโทษและกล่าวประณามค่ายตรงข้าม ทั้งที่เขาไม่ใช่คนผิดเลยด้วยซ้ำ
   
กระผมอดรนทนไม่ได้จริง ๆ เลยต้องหยิบความจริงมาเผยแพร่ วันที่ดีเจถูกเชิญออกจากงานซ้อมรันทู (ซ้อมเหมือนจริง) ของ “คอนเสิร์ตแร็พเตอร์” หากไม่ได้ทำผิดกฎกติกามารยาทคงไม่ได้ถูกเชิญออกจากงานแน่นอน เพราะภายในช่วงซ้อมคอนเสิร์ตใหญ่อยู่นั้น ไม่ใช่มีพนักงานแกรมมี่อยู่แค่เพียงพวกเธอกลุ่มเดียว แต่ยังมีคนอื่น ๆ แทรกตัวชมคอนเสิร์ตอย่างเจียมตัวและสนุกสนาน เคยตั้งข้อสังเกตไหมครับว่าทำไมคนอื่น ๆ ถึงไม่ได้ถูกเชิญออก นั่นคือสิ่งที่กระผมจะกล่าวดังต่อไปนี้
   
อันที่จริงโทรศัพท์มือถือที่หยิบขึ้นมาใช้งานไม่ว่าจะกรณีไหน ไม่ใช่ของ ดีเจต้นหอม แต่เครื่องเจ้าปัญหานั้นดันเป็นของเพื่อนสาวต่างเพศที่เข้ามาร่วมชมด้วยนั่นเอง โดยบุคคลนั้นเป็นเออีของ เอไทม์ฯ การกระทำนั้นเกิดขึ้นท่ามกลางคำขอร้องและวิงวอนของผู้จัดงานก่อนเข้างานอยู่แล้ว ว่าห้ามนำมือถือขึ้นมาถ่ายหรือปฏิบัติการใด ๆ แต่เมื่อคอนเสิร์ตเริ่มไปสักพักดีเจสาวและเพื่อนได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจริง ๆ แสงไฟมันวูบขึ้น ทีมงานของคอนเสิร์ตจึงต้องมาเชิญตัวออกทันที

   
ถามว่าเขาทำผิดไหมที่ต้องเชิญออก มันเป็นสิทธิของเจ้าของงานที่พึงจะกระทำได้อยู่แล้ว
   
ที่สำคัญเมื่อเกิดเรื่องขึ้น ดีเจต้นหอม ยังเที่ยวปูดเรื่องให้เป็นข่าวว่าถูกเชิญออกอย่างไม่ยุติธรรมจริง ๆ โดยมารยาทอันควรที่มนุษย์คนหนึ่งพึงจะคิดได้อยู่แล้วนั้นว่าในรอบซ้อมใหญ่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง ที่ไม่ใช่สื่อมวลชน หรือบุคคลที่เขาเชิญมาดูก็ไม่ควรจะเข้าไปอยู่แล้ว ยิ่งมาแสดงพฤติกรรมแบบไร้สมองแบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งไม่น่าจะฝืนเข้าไปเลยด้วยซ้ำ แต่เธอกลับคิดว่าค่ายคู่แข่งรังเกียจและแสดงพฤติกรรมไม่ดีใส่ หารู้ไม่ว่าพฤติกรรมของดีเจสาวนั่นแหละที่น่าเดียดฉันท์สิ้นดี!
   
จริง ๆ แม้การทำงานจะเป็นคู่แข่งกัน แต่ในแง่ของการทำงานนั้นก็ล้วนแต่เป็นพี่น้องในวงการบันเทิงเหมือนกันอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็น แกรมมี่ หรือ อาร์เอสฯ หากมีการซื้อบัตรเข้าไปชมคอนเสิร์ตอย่างถูกต้องและถูกหลัก ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าไปชมโชว์ดี ๆ ตรงนั้นได้ แต่นี่อะไรกลับไปดูรอบที่โดยมารยาทก็ไม่ควรจะเสนอหน้าเข้าไปอยู่แล้ว กลับมาใส่สีตีไข่ในทำนองว่า...เป็นค่ายตรงกันข้ามแล้วต้องไล่กันด้วยเหรอ?
   
อยากจะบอกแทนผู้จัดฯจังเลยนะครับว่า หาก คุณดีเจต้นหอม มาชมรอบปกติ ก็คงไม่เกิดปัญหาขึ้นแบบนี้หรอกครับ อยากฝากไปถึงต้นสังกัดนอกจากจะมุ่งผลิตงานคุณภาพแล้ว ก็ควรอบรมบ่มนิสัยดีเจในค่ายด้วยถึงมารยาทที่ควรจะพึงกระทำด้วย มิใช่ไปกร่างในงานของผู้อื่นเช่นนี้ คอนเสิร์ตเขาดี ๆ ลงทุนไปเยอะ จะมาเสียเครดิตกับแค่ดีเจที่ไม่ได้ใช้วิจารณญาณเพียงคนเดียว
   
เพราะอย่างไรก็พี่น้องในวงการบันเทิง ก็อยู่วงการเดียวกันทั้งนั้น...