ป๊อด ยิ้มรับกับความเหงาถ่ายทอดเพลง

ซึ่งเอิ้นเผยว่า มีโอกาสได้ฟังเรื่องราวจากคนฟัง Club Friday ที่โทรเข้ามาเล่าให้ พี่ฉอด และ พี่อ้อย ฟังอยู่ตลอดเวลาว่าปัญหาส่วนใหญ่ ที่มักจะได้ยินก็เป็นเรื่องราวของ ความเหงา ความทุกข์ ที่เกิดจากความรักเป็นส่วนใหญ่ และไม่ว่าคนเรา จะทุกข์ร้อนเรื่องอะไร มักจะมีความรู้สึกหนึ่งที่แอบแฝงอยู่ภายในเรื่องนั้นเสมอ นั่นคือ ความเหงา บวกกับมุมมองที่เชื่อว่าโลกใบนี้ มักมีสองด้านเสมอ คือด้านบวกและด้านลบ จึงทำให้คิดว่าความเหงามักจะทำให้เรารู้สึกเศร้า ว้าเหว่ ไม่มีใคร ซึ่งนั่นคือด้านไม่ดีของความเหงา แต่ลืมไปว่าคนเราก็อยู่กับความเหงาเกือบทั้งชีวิต และในที่สุดก็อยู่ได้ ยังใช้ชีวิตโดยมีความเหงาเป็นเหมือนเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ที่ให้อิสระ ให้เวลาเราได้อยู่กับตัวเอง ให้เราได้คิด ได้ทำ ได้รู้สึก ในสิ่งที่เราอยากทำ ความเหงาช่วยให้เรามีช่วงเวลาที่ทำให้เราเห็นตัวเองชัดเจนที่สุด อยากให้ คนฟังได้ลองมองมุมอื่นๆ ของความเหงาแล้วจะรู้ว่าจริงๆ แล้ว ยังมีมุมดีๆ แฝงอยู่ในความเหงาอีกมากมาย ด้วยเนื้อหาของเพลงนี้ ยากที่จะถ่ายทอดเพราะเป็นเพลงที่พูดแทนความรู้สึก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน ไม่ใช่เรื่องราวของคน การที่จะถ่ายทอดเรื่องราวที่เป็นนามธรรมให้ออกมาเป็นรูปธรรมนั้นไม่ง่าย คนๆ นั้นจะต้องเข้าใจ และสำคัญที่สุดต้องเป็นคนที่มีศรัทธาหรือเคยผ่านพ้นและก้าวผ่านความเหงามาได้อย่างภาคภูมิ ซึ่งจากสายตาและความรู้สึกของเอิ้นเชื่อว่า พี่ป๊อด คือศิลปินที่จะถ่ายทอดอารมณ์ของคนเหงานี้ได้ดีที่สุดค่ะ"

ป๊อด-ธนชัย อุชชิน

ด้าน ป๊อดเผยว่า "รู้สึกดีใจมากที่ได้มาร่วมงานกับ เอิ้น เพราะ เอิ้น เคยติดต่อให้มาร้องเพลงที่เค้าเขียนไว้ น่าจะเป็นปีแล้ว แต่เพิ่งจะมีโปรเจกต์นี้ ที่เราเพิ่งได้ทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรก เพลงนี้อยากบอกให้เราเปลี่ยนมุมมองความเหงาซะใหม่ จริงๆ ความเหงาอยู่เป็นเพื่อนกับเรามานาน งั้นเราก็มาใช้ชีวิตกับเค้าอย่างมีความสุข และอยากให้ลองมองมุมอื่นของความเหงาบ้างว่า... ความเหงาก็มีข้อดี อยากให้เรายิ้มรับกับความเหงา เพราะสุดท้าย "ความเหงาคือเพื่อนเก่าที่แสนดี" อย่างที่เพลงบอกก็ได้ครับ"

ป๊อด-ธนชัย อุชชิน