เอ อัญชลี ถอยเต้าใหม่เมื่อฟ้าหลังฝน

ต้องบอกว่าเป็นฟ้าหลังฝน จริงจริ๊งสำหรับ เอ-อัญชลี หัสดีวิจิตร ถูกมรสุมชีวิตร้าวรักรุมเร้า เมื่อทุกอย่างผ่านไปหัวใจเธอแกร่งขึ้นมาอีกครั้ง

พร้อมกับสู้งานที่ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อตัวเองเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึง “น้องเอวี่ เพชรพลอย” บุตรสาวที่ตัวเองต้องรับผิดชอบดูแลเป็นทั้งแม่และพ่อในคราเดียวกัน

“สมัยนี้ศัลยกรรมมีส่วนช่วยในการแก้ไขจุดบกพร่องและเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นด้วย เอทำงานในวงการบันเทิงก็ต้องดูแลตัวเองให้ดูดี ถือเป็นความรับผิดชอบต่อบทบาทและหน้าที่ของเราด้วย อย่างตอนนี้เอมาเปิดโรงเรียนสอนบุคลิกภาพฟีเวอร์รันเวย์ เพราะเอกับโยได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรสอนในที่ต่างๆ มากมาย มีกระแสเรียกร้องเข้ามาเยอะว่า น่าจะเปิดโรงเรียนที่สอนทางด้านนี้โดยตรงเลยถือเป็นจังหวะที่เหมาะสมในชีวิตด้วยที่จะได้แบ่งปันสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์แก่คนอื่น ๆ เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างเด็กรุ่นใหม่ที่มีใจรักและมีความสามารถเข้าสู่วงการบันเทิง”

เอยังได้คุยถึงทายาทตัวน้อยด้วยว่า ช่วงนี้เอวี่ เข้าสู่วัย 1 ขวบ 4 เดือน เอส่งเข้าเนอสเซอรี่แล้ว แต่ถ้าวันไหนไม่มีงานวันนั้นเราจะอยู่กับลูก ทำหน้าที่เป็นครูแทนที่โรงเรียน ทำกับข้าวด้วยกันดูหนังอ่านหนังสือ บางทีออกไปข้างนอกให้เขาได้เล่น ได้เล่นสนุกถามว่าเลี้ยงเขาแบบนี้ไม่กลัวเหรอ ตอนแรก ๆ รู้สึกห่วงนะ ตั้งแต่ตอนท้องเรารู้แล้วว่า เราต้องเป็นคุณแม่คนเดียวนะ ซึ่งหนังสือทุกเล่มจะมีคำแนะนำของคุณแม่และคุณพ่อ เราก็ต้องอ่านในส่วนของคุณพ่อด้วย

“ช่วงแรกกลัวมาก ลูกเป็นอะไรนิดหน่อย เข้าโรงพยาบาลตลอดเครียดมาก แต่พอเราเริ่มชิน เริ่มปรับตัวได้ เลยเข้าใจว่า เด็กต้องมีเป็นหวัดบ้าง เพื่อสร้างภูมิต้านทาน เริ่มเลี้ยงลูกแบบคลุกฝุ่นบ้างแล้ว แต่ก็ดูแลคนอย่างใกล้ชิดมีเวลามากเท่าไหร่ให้เขาหมด ด้วยความที่เราเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องทำงานด้วย เพราะไม่มีใครมาเลี้ยงดูเรา ต้องแบ่งเป็นทั้งแม่ ทั้งพ่อ และคนที่ทำงานไปพร้อมๆ กัน” คุณแม่สู้ชีวิตกล่าวในท้ายที่สุด

เอ อัญชลี