ใบเฟิร์นรับโอกาส มุ่งมั่นทำทุกอย่างให้ดี!

เป็นเด็กปั้นที่ช่อง 7 ภูมิใจนำเสนอ สำหรับนางเอกสาวหมวย "ใบเฟิร์น"พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ เรียกว่าป้อนงานให้ไม่ขาดช่วง

จบจากละคร "มนต์รักแม่น้ำมูล" ก็ต่อด้วยละครเรื่อง "อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว"

นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ที่กำลังถ่ายทำเรื่อง "เลิฟซัมเมอร์" ส่วน เรื่องเรียนก็เพิ่งเป็นน้องใหม่รั้วมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะ ศิลปกรรมศาสตร์ สาขา วิชาการแสดงและกำกับการแสดง

l ชีวิตในมหาวิทยาลัยเป็นอย่างไรบ้าง?

ใบเฟิร์น - "คณะนี้เป็นคณะที่อยากเรียนและตั้งใจมานานมาก เพราะเฟิร์นทำงานในวงการ ทำให้รู้ว่าเราชอบแบบนี้และอยากเป็นผู้กำกับ แต่ตอนนี้มีทั้งละคร-หนังเลยทำให้ไม่ได้ไปเรียน ยอมรับว่ากดดันตัวเองอย่าง มศว เป็นมหาวิทยาลัยรัฐ เขาให้ขาดได้ 3 ครั้ง การจะขอคิวตลอดเป็นไปได้ยาก เพราะละครไม่ได้ขึ้นกับเฟิร์นคนเดียว ถ้ามารอเฟิร์นคนเดียวก็เกรงใจ ยอมรับหนักใจ อยากทำให้ดีทั้งเรียนและแสดง ใจจริงไม่อยากทิ้งอะไรเลย"

l กับงานแสดงตอนนี้มีเรื่องอะไร?

ใบเฟิร์น - "มีละคร อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว และหนัง เลิฟซัมเมอร์ เป็นโรดมูฟวี่ไปถ่ายตามต่างจังหวัดตลอด เรียกว่าเสร็จจากงานหนังก็ขึ้นเครื่องมาถ่ายละครที่กรุงเทพฯ ต่อทันที ถามว่างานตอนนี้กำลังพอดีมั้ย เฟิร์นไม่รู้ว่าพอดีหรือเปล่า คือยังอยากแชร์เอาเวลาเรียนให้มากกว่านี้หน่อย ทำให้ต้องพยายามมากขึ้น"

l เข้ามหาวิทยาลัยแม่ยังตามรับส่งหรือเปล่า?

ใบเฟิร์น - "ตอนนี้เฟิร์นซื้อรถแล้ว คุณพ่อคุณแม่ช่วยออกครึ่งนึง อย่าเรียกว่าเป็นของขวัญที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เลย มันจำเป็นมากกว่า เพราะต้องไปเรียนมศว ที่องครักษ์ จ.นครนายก คุณแม่จะมาคอยรับส่งตลอดก็เหนื่อย อะไรที่ทำเองได้ก็ทำ แต่ยังไม่กล้าขับไปไกล เพราะยังไม่เก่ง"

l มีข่าวว่าเฟิร์นเข้าสังกัด พี่เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร แล้ว?

ใบเฟิร์น - "ไม่ใช่ค่ะ เป็นพี่เก้าดูแลแต่ไม่ได้อยู่สังกัดพี่เอ พี่เก้า ดูเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมให้ คนก็จะนึกว่าเป็นเด็กพี่เอเพราะพี่เก้ากับพี่เอสนิทกัน กับพี่เอเคยเจอตามงาน แต่ไม่ได้คุยเรื่องชวนเข้าสังกัด เพราะเฟิร์นเซ็นสัญญากับช่อง 7 ทั้งหมด 7 ปี ตอนนี้เหลือ 5 ปีแล้ว"

"กับการทำงานที่ช่อง 7 ต้องบอกว่าเฟิร์นโชคดีมาก รู้สึกว่าตัวเองมีโอกาสดีมาก เพราะตอนแรกทางช่องอยากให้รับบทเป็นน้องสาวก่อนในละคร นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว และเล่นเป็นคู่ 2 ในมนต์รักแม่น้ำมูล เป็นนางเอกละครเรื่อง ลูกโขน ละครเฉลิมพระเกียรติ เพิ่งจะมาเรื่อง อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว ที่เล่นเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรก เหมือนช่องให้โอกาสมากๆ เรียกว่าให้ลองให้ฝึก ค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ"

l คนเลยมองว่าก้าวเป็นนางเอกเร็วไปไหม?

ใบเฟิร์น - "แล้วแต่คนมอง สำหรับเฟิร์นคิดว่ากว่าจะได้อะไรมาแต่ละอย่าง เราตั้งใจและพยายามทำทุกอย่างให้ดีตลอด สมกับที่ได้โอกาสมาเพราะโอกาสไม่ได้มาง่ายๆ"

"อย่างเรื่อง อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว เป็นนางเอกเต็มตัวครั้งแรกยอมรับเกร็งมาก เรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซี ไม่ถนัดเลย ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนเยอะ ที่ผ่านมาละครที่เฟิร์นเล่นมีแต่แนวจริงจัง ดราม่าซะเยอะ ยอมรับเครียดมาก ยากนะกับบทแก่นๆ ใสๆ บางคนบอกเรื่องนี้บทสมวัยทำไมเล่นไม่ได้ อาจเป็นเพราะเราถนัดดราม่า เลยทำให้ต้องไปเรียนแอ๊กติ้งเพิ่ม ต้องพยายามอีกเยอะ"

l รู้สึกอย่างไรที่ถูกมองว่าเป็นนางเอกขายดีลูกรักช่อง 7 ?

ใบเฟิร์น - "ไม่ได้มีงานเยอะขนาดนั้นแค่มีงานต่อเนื่อง ก็รู้สึกดีใจและโชคดีที่มีงานแสดงต่อเนื่องตลอด ถามว่าเหนื่อยมั้ย ก็เหนื่อย แต่มันเป็นโอกาสที่ดี ยอมเหนื่อยดีกว่าไม่มีงานทำ"

"ส่วนเรื่องที่คนมองเป็นลูกรัก จริงๆ ไม่ใช่เลย เพราะทางช่องเลือกบทให้ตามความเหมาะสมมากกว่า ด้วยบทเรื่องนี้วัยตรงกับเฟิร์นคือ 18-19 ปี ช่องกระจายบทให้ทุกคน ให้เด็กรุ่นใหม่ๆ แสดงฝีมือและพัฒนาฝีมือตลอดค่ะ"

l ดูเฟิร์นโตกว่าเด็กในวัยเดียวกันเยอะเนอะ?

ใบเฟิร์น - "ด้วยความที่มีโอกาสทำงานในวงการต้องรับผิดชอบหลายอย่าง งานในวงการทำให้เรารู้จักหน้าที่ รู้ตัวเองว่าทำอะไรอยู่ รับผิดชอบอะไรอยู่"

l ที่ผ่านมาข่าวไหนที่เจอแล้วทำให้เครียด?

ใบเฟิร์น - "ข่าวที่บอกว่าเฟิร์นพูดจาห้วน แต่ก็ดีใจที่มีข่าวออกมาเราจะได้ปรับปรุงตัว เพราะบางทีไม่ได้ตั้งใจพูดห้วน พอมีข่าวก็อยากขอโทษและทำให้ดีขึ้น มีบ้างที่รู้สึกว่าทำตัวไม่ถูกจริงๆ มันยากที่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง แรกๆ มีข่าวออกมาว่าหยิ่งหรือเปล่า เหวี่ยงหรือเปล่า รู้สึกแปลกๆ เกร็งๆ ไม่ชินที่คนมาขอถ่ายรูป"

"อย่างเสียงวิจารณ์ในเน็ต เฟิร์นเคยอ่านจนเก็บไปคิดมาก ร้องไห้ ที่ติส่วนใหญ่เป็นเรื่องหน้าตา เฟิร์นไม่เคยคิดว่าตัวเองสวย เพอร์เฟ็กต์ หรือดีพร้อม เราตั้งใจทำงานโดยไม่คิดว่าตัวเองเพอร์เฟ็กต์ อยากให้ดูที่การทำงานมากกว่า คุณแม่ก็สอนว่ามีทั้งคนชอบและไม่ชอบ อย่าสนใจ อะไรที่ทำแล้วคิดว่าไม่ดีก็พัฒนาตัวเองให้ดี ถ้าเราทำดีแล้วจะมีงานต่อเอง แต่ถ้าไปไม่ได้จริงๆ ทุกอย่างก็จะจบไปตามทางของมันค่ะ"

l รับมือกับข่าวต่างๆ ที่เข้ามาอย่างไร?

ใบเฟิร์น - พยายามเข้มแข็ง มีคุณพ่อคุณแม่ให้คำปรึกษา อาจเพราะเรายังเด็กเจออะไรที่ทุกข์หรือท้อก็จะไม่เอาแล้ว มันดูใหญ่สำหรับเรา ทั้งที่เรื่องบางเรื่องไม่มีอะไรด้วยซ้ำ คุณแม่จะปลอบโยนไปให้กำลังใจไป พอผ่านไปได้ มาย้อนมองก็จะรู้ว่าเรื่องมันเล็กแค่นี้ แล้วเฟิร์นจะเป็นจะตายกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้ทำไม"

l มีอะไรที่อยากบอกแฟนๆ ไหม?

ใบเฟิร์น - "อยากบอกว่าหลายอย่างที่ทำเฟิร์นยังเด็กและใหม่ ตัดสินใจอะไรยังไม่ดีเท่าไหร่ อยากจะขอโอกาสตั้งใจทำให้ดี อะไรที่ทำผิดพลาดไปก็อยากจะขอโทษค่ะ"

น่ารักอย่างนี้ มีหรือที่แฟนๆ จะไม่ให้โอกาส

บ้านที่ผูกพัน

"เรื่องบ้านที่ไฟไหม้ตอนนี้อยู่ระหว่างการซ่อมแซมอยู่ค่ะ" นางเอกสาว "ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก" เผยถึงบ้านที่ถูกไฟไหม้เมื่อเดือนที่ผ่านมา

จากนั้นก็กล่าวต่ออีกว่า "ในส่วนที่ไฟไหม้ไปนั้นก็คือห้องรับแขก เรียกว่าต้องซ่อมแซมอีกเยอะ ทั้งฝ้า กำแพง เหล็กดัด แถมยังต้องเดินสายไฟใหม่หมด กลายเป็นเรื่องใหญ่โตในการซ่อมแซมบ้าน"

ถามถึงเรื่องค่าใช้จ่าย ดาราสาวแง้มว่า "เฟิร์นให้ช่างมาตีราคาแล้วประมาณ 1 ล้านบาท นี่แค่ห้องรับแขกห้องเดียวเท่านั้นนะ ที่ค่าใช้จ่ายเยอะขนาดนี้เพราะช่างเขาต้องเดินสายไฟใหม่หมด อย่างตอนนี้ห้องอื่นๆ ที่บ้านก็มีเขม่าควันดำติดตามที่ต่างๆ ไปด้วย"

เรียกว่าตอนนี้ต้องเร่งทำงานปั๊มเงินเลยล่ะสิ น้องหนูกล่าวว่า "ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น เพราะเฟิร์นบอกกับคุณพ่อคุณแม่เองเลยว่าค่าใช้จ่ายตรงนี้เฟิร์นขอเป็นคนรับผิดชอบ อยากแบ่งเบาภาระคุณพ่อคุณแม่ เพราะตอนนี้เราก็เริ่มทำงานมีรายได้เป็นของตัวเองแล้ว อะไรที่พอจะช่วยได้เฟิร์นก็เต็มใจช่วยในฐานะลูกคนนึง"

บ้านหลังนี้อยู่มานานแค่ไหนแล้ว "อยู่มาได้ประมาณ 9 ปี ตั้งแต่เฟิร์นเรียนอยู่ป.5 เรียกว่าผูกพันพอสมควร เราโตมากับบ้านหลังนี้ พอเกิดเหตุการณ์นี้แล้วรู้สึกเสียใจเหมือนกัน"

"อย่างถ้วยรางวัลต่างๆ ของเฟิร์นที่ได้มาตั้งแต่ตอนเด็กๆ รวมถึงรางวัลในการแสดงก็ไหม้ดำไปเกือบหมด เหลือแค่บางรางวัลที่ยังอยู่ แต่ก็มีเขม่าควันดำติดเต็มไปหมด ก็ได้แฟนคลับเฟิร์นนี่แหละที่ช่วยขัดช่วยถูให้ เลยกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ และตอนที่บ้านเฟิร์นเกิดเรื่องใหม่ๆ ก็ได้แฟนคลับเหมือนกันมาช่วยเฟิร์นทำความสะอาดบ้านต้องขอบคุณแฟนคลับทุกคนของเฟิร์นด้วยนะคะ"

คิดที่จะซื้อบ้านหลังใหม่ใจกลางเมืองเลยไหม ดาราสาวพยักหน้า "จริงๆ เคยคิดก่อนจะเกิดเรื่องอีก เพราะบ้านที่เฟิร์นอยู่ตอนนี้ค่อนข้างไกล(มีนบุรี) ไปไหนก็ลำบาก แต่ถ้าซื้อบ้านหลังใหม่ก็คงต้องใช้เวลาทำงานเก็บเงินพอสมควรเลย เพราะเฟิร์นเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่เท่าไหร"

"และถ้าซื้อบ้านจริงๆ เฟิร์นคงขอเป็นคนรับผิดชอบส่วนนี้แทนคุณพ่อคุณแม่ ในฐานะที่เราทำงานหาเงินเองได้แล้วค่ะ" ลูกกตัญญูกล่าว

สเป๊กหนุ่มขอ"อบอุ่น-ใจดี-ตลก"แบบพ่อ-ตรง"พี่เวียร์"

กลายเป็นสาวฮอต เนื้อหอม เล่นละครกับพระเอกคนไหนมักมีข่าวด้วย สำหรับสาวหมวย "ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก"

ล่าสุดที่มาแรงเห็นจะเป็น 2 หนุ่ม "พอร์ช" ศรัณย์ ศิริลักษณ์ ที่เล่นละคร "ลูกโขน" ด้วยกัน และ "เวียร์"ศุกลวัฒน์ คณารศ ที่ร่วมงานกันในละคร "มนต์รักแม่น้ำมูล"

ใบเฟิร์นจาระไนให้ฟังว่า "กับพอร์ชเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญาช่อง 7 เพราะเรียนแอ๊กติ้งด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน พอได้มาทำงานด้วยกันทำให้คุยกันรู้เรื่อง เป็นเพื่อนกันมานาน รู้นิสัยกัน พอเป็นข่าวเขาก็ขำ ไม่ค่อยคิดอะไร จริงๆ พอร์ชเป็นคนที่ปากชอบแซว พอเป็นอย่างนี้คนก็จะคิดว่าพอร์ชหยอดหรือเปล่า จีบหรือเปล่า"

แล้วข่าวกับ "เวียร์-ศุกลวัฒน์" ที่มีเรื่อยๆ ล่ะ "คงเพราะร่วมงานกันใน "มนต์รักแม่น้ำมูล" และเฟิร์นติดรถพี่เวียร์ไปลงห้างแถวๆ กองถ่ายแล้วให้คุณแม่มารับ เลยเป็นที่มาของข่าว"

เวียร์มีสอนอะไรไหมเวลาเป็นข่าว "ไม่ได้สอนเรื่องข่าวค่ะ แต่จะสอนเวลาที่ไปถ่ายมนต์รักแม่น้ำมูล เฟิร์นชอบบ่นว่าเรื่องนี้เครียด กดดัน เขาก็จะเอาหนังสือวิธีการจัดการปัญหารอบด้านมาให้อ่าน เพราะแฟนคลับซื้อมาให้อ่าน"

"พอเป็นข่าวถามว่ากลัวแฟนคลับพี่เวียร์ว่าหรือเปล่า เฟิร์นว่าแฟนคลับพี่เขาน่าจะเข้าใจ ส่วนแฟนคลับเฟิร์นก็ไม่ได้ว่าหรือไม่ได้เชียร์อะไร แต่อาจมีแซวๆ บ้างว่าพี่เวียร์รับ-ส่ง"

อึดอัดไหมข่าวเวียร์ไม่จบเสียที ใบเฟิร์นปฏิเสธ "ไม่อึดอัดค่ะ ไม่ได้คิดอะไรมากกว่า และไม่รู้ว่าข่าวมาได้อย่างไร เพราะข่าวมีมาเรื่อยๆ และมีแบบอัพเดตว่าคบกันแล้ว มีถามความคิดเห็นคนโน้นคนนี้ด้วย แต่ถ้าถามว่าเจอกันแล้วจะทำตัวไม่ถูกมั้ย ก็ไม่รู้นะ เพราะไม่ได้เจอตั้งแต่ปิดกล้องละคร ไม่รู้ว่าถ้าเจอกันแล้วจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับเฟิร์นก็ไม่คิดว่าจะแปลกอะไร"

รู้สึกอย่างไรที่ถูกมองว่ามาดามใจเวียร์ "ไม่หรอกค่ะ แล้วแต่คนมอง ห้ามความคิดไม่ได้"

มีข่าวว่าเวียร์ปฏิวัติตัวเองใหม่ เลิกเที่ยวเลิกดื่มเพื่อใบเฟิร์น "ไม่นะคะ เฟิร์นก็ไม่ได้ทราบอะไรมากในส่วนของพี่เขา ได้ยินพี่เขาพูดเหมือนกันว่าต้องหยุดดื่ม อาจเพราะคุณหมอสั่ง แต่ถ้าพี่เวียร์ปฏิวัติตัวเองจริงๆ ถือเป็นเรื่องที่ดี ดีใจด้วย ถ้าคิดว่าเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นได้ อย่างน้อยก็ทำเพื่อตัวเอง ครอบครัว หรือคนที่เรารักก็ดีแล้ว"

พอไม่ได้ร่วมงานกัน มีติดต่อกันบ้างไหม "พี่เขาโทร.มาตอนบ้านเฟิร์นไฟไหม้ โทร.มาให้กำลังใจ ถามว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย เป็นการแสดงน้ำใจแบบนี้มากกว่า"

หรือแอบซุ่มคบกันแบบเงียบๆ ดาราสาวหัวเราะก่อนแย้ง "ไม่ค่ะ"

มีข่าวกับทั้ง "พอร์ช-เวียร์" เลยถูกมองว่าเนื้อหอม "ดูเหมือนค่ะ แต่จริงๆ แล้วไม่(หัวเราะ) พี่ๆ เขาก็มองเป็นน้องไป และส่วนตัวยังไม่คิดเรื่องนี้ด้วย เฟิร์นยังเด็กนะ รับผิดชอบอะไรในชีวิตยังไม่ค่อยจะดีเลย"

แม่ว่าอย่างไรกับข่าวพวกนี้ "จะขำๆ และถามเวลาที่อ่านข่าวเจอ แต่คุณแม่จะบอกแค่เรื่องการทำงานว่าให้ตรงต่อเวลา คิดแค่ว่ากว่าที่เราจะได้อะไรมามันลำบาก ทั้งคุณพ่อคุณแม่ไม่มีใครหวงลูกสาวเลย แต่จะเน้นสอน อย่างคุณแม่จะสอนว่าเฟิร์นดูแลตัวเองดีพอหรือยังที่จะไปดูแลหรือรับผิดชอบคนอีกคน"

สำหรับสเป๊กหนุ่ม ดาราสาวเผยว่า "เฟิร์นชอบเหมือนคุณพ่อค่ะ คือ อบอุ่น ใจดี ตลก"

ดูคุณสมบัตินี้ค่อนข้างตรงกับเวียร์นะ "ถามว่าตรงกับพี่เวียร์มั้ย ยอมรับว่าพี่เวียร์เป็นคนตลก ใจดี แต่เขาเหมือนเป็นพี่ชายมาตั้งแต่แรก และเขาคงมองเราเป็นน้องสาวมาตลอดด้วย เลยไม่ได้คิดอะไรนอกเหนือจากนั้นค่ะ"

อย่างนี้มีลุ้น!