ตามรอยละคร“ทาสรัก” สะท้อนชีวิตหญิงโสเภณี

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย ตามรอยละคร“ทาสรัก” สะท้อนชีวิตหญิงโสเภณี

ข่าวดาราล่าสุด star.teenee.com
บันเทิงดารา entertain.teenee.com

เชอรี่ เข็มอัปสร นักแสดงนำจากละคร ทาสรัก

หากใครได้ดูละครเรื่อง “ทาสรัก” ซึ่งกำลังออกอากาศทางช่อง 3 ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี

นำแสดงโดย สมาร์ท กฤษฎา,เชอรี่ เข็มอัปสร,ปอ ทฤษฎี และ เจนี่ จะรู้สึกว่าการดำเนินเรื่องสนุก นอกจากนี้เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มและฉากยังสวยงามตระการตา อีกทั้งยังได้เห็นแง่มุมชีวิตของคนไทยในสัมยก่อน โดยเฉพาะโรงโสเภณีหรือซ่องสมัยโบราณ ที่ผู้จัดและผู้กำกับการแสดงกล้านำเสนอเกือบทั้งเรื่อง

สำหรับละครเรื่องทาสรักเป็นเรื่องราวย้อนอดีตช่วงรัชกาลที่ 4 โรงโสเภณีในสมัยนั้นจะเรียกกันว่า สำนักนางโลมโคมเขียว เพราะหน้าสำนักจะมีโคมไฟสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ ละครพีเรียดน้อยเรื่องนักที่ใช้โรงโสเภณีตีแพร่เป็นเรื่องเป็นราว เพราะโสเภณีถูกมองเป็นมุมมืด

แต่ละครทาสรัก แม้บางช่วงบางตอนอาจอิงประวัติศาสตร์ได้ไม่ครบถ้วน แต่ก็ได้พยายามทำให้ได้เห็นว่าโรงโสเภณีนั้นมีมาตั้งแต่เริ่มแรกเดิมที มิใช่เพิ่งเกิดช่วงสิบยี่สิบปี แต่การเรียกขานและสถานที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย โสเภณียุครัชกาลที่ 4 นางโลมโคมเขียวคือทาสที่ต้องทำงานให้กับเจ้านายที่ซื้อตัว กลางวันทำงานบ้าน ตกกลางคืนต้องปรนนิบัติพัดวีแขกเหรื่อที่มาเที่ยวโรงโสเภณี

โดยเฉพาะนางเอก เชอรี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ ที่จับพลัดจับผลูกลายเป็นนางโลมดาวเด่นประจำโรงโสเภณีเป็นที่ขึ้นชื่อลือนามไปทั่วพระนคร ละครที่มีเรื่องราวตีแพร่ชีวิตของโสเภณีนอกเหนือจากทาสรักแล้วก็ยังมีเรื่อง กว่าจะรู้เดียวสา ซึ่งนางเอกต้องจบชีวิตอยู่ที่โสเภณี

ภาพบางส่วนจาก ละคร ทาสรัก

ยิ่งแง่มุมของโสเภณีมีถูกนำมาเขียนตีแพร่เป้นสารคดีเรื่อง ดอกไม้ราตรี สินค้ามีชีวิต เขียนโดย อรสม สุทธิสาคร ได้เก็บข้อมูลเรื่องราวต่างๆของกลุ่มตัวอย่างผู้หญิงกลางคืน พวกเต้นโชว์ อโกโก้ และโชว์พิสดาร คาเฟ่ คาราโอเกะ บาร์ พวกที่หาจับแขกข้างถนน ซ่องและหมอนวด ทำให้พบว่าการเกิดมีปัญหาของโสเภณีนั้น ไม่ได้เกิดจากผู้หญิงฝ่ายเดียวแต่ผู้ชายนิยมใช้บริการด้วย

แม้สารคดีของอรสมจะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันแต่สะท้อนได้กับละครเรื่องทาสรักโดยเฉพาะฉากของโรงโสเภณีของคนไทยที่ดำรงชีพซ่อนเร้นอยู่ในมุมมืดของสังคม ทั้งหนังสือและละครได้สะท้อนที่ยุคสมัยของการค้ากาม ยังทำให้รู้จักความเป็นผู้ชายคล้ายคลึงกันทุกยุคทุกสมัย ยังเป็นการยืนยันอีกด้วยว่าโลกของโสเภณีที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่มีความแตกต่างกันมาก