หลุยส์ สก๊อต หนุ่มอารมณ์ดี ที่ใกล้จะเลข3!

“ดอกส้มสีทอง”
   
ทำเอา หลุยส์ เนื้อหอมทีเดียวนะช่วงนี้ จากบท ซีเค ในดอกส้ม?
   
“จากเรื่อง ดอกส้มสีทอง ในส่วนของบท เรยา มันเลยเถิดมาเยอะแล้วนะ แค้นกันเยอะ ตามบทที่จะออกมาจัดการกับเรยาได้ก็คือ ซีเค มาเอาคืน เอาความสะใจ แต่มันมีปูบทมาด้วยว่า ซีเค เป็นคนยังไง แล้วพอออกมาแล้วคนชอบกับบท ซีเค ผมก็ขอบคุณมากครับ แต่จริง ๆก็ต้องขอบคุณนักแสดงทุก ๆ คน และทีมงานรวมถึงทางพี่หน่องอรุโณชา ภาณุพันธุ์ ครับที่ให้โอกาสผมได้ทำงานในละครเรื่องนี้”
   
ได้ข่าวว่ามีการตัดทอนบทออกไปหลายฉากในช่วงท้ายของละคร หลุยส์ เสียดายไหม
   
“ก็ตัดออกไป 2-3 ฉากครับ ถามว่าเสียดาย หรือว่าเสียใจไหม เราก็ทำอะไรไม่ได้ ผมก็เลยไม่เสียใจไปดีกว่า เพราะถ้าเรตติ้งมันออกมาก็โอเคอยู่แล้ว ผมก็แฮปปี้ครับ”
   
เรียกว่าบท ซีเค ทำให้ หลุยส์ ได้แจ้งเกิดกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมขึ้นมาทันที จนได้กลายเป็นพระเอกเต็มตัวใน เรือนหอรอเฮี้ยน?
   
“ครับ คือเรื่องนี้มันก็เหมือนว่าคนติดตามต่อจากดอกส้มฯ ไป แต่ว่าเรื่องนี้มันออกแนวสนุกสนาน มันพลิกกันเลย ก็ชอบนะครับกับละครเรื่องนี้ และก็ขอบคุณทุกคนนะครับที่ติดตามชม”
   
ดู หลุยส์ มีพัฒนาการในการแสดงเพิ่มมากขึ้นนะ “(ยิ้ม) คือเมื่อก่อนหน้านี้ ผมเหมือนปลาที่เพิ่งลงน้ำง่ะครับ ยังไม่รู้ว่าจะว่ายยังไง ก็พยายามแถ ๆ ไป แรก ๆ เข้ามารับบทเป็นรองพระเอก เราก็เล่นไม่ค่อยจะเก่ง ก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ จนมาถึงทุกวันนี้ง่ะครับ แต่สำหรับการเข้ามาเล่นละครถึงวันนี้ก็ 4 ปีแล้ว”
   

“แร็พเตอร์”
   
ได้ข่าวว่า แร็พเตอร์ จะกลับมาร่วมตัวกันอีกครั้ง
   
“ครับ ประมาณเดือนตุลาคม ครับที่วางแปลนเอาไว้ คือตอนแรก ๆ ที่เรามาเล่นละคร มันก็เกิดจากการที่เราอิ่มตัวส่วนหนึ่งจากที่เราเล่นคอนเสิร์ต ร้องเพลง สิ่งอะไรที่มันเดิม ๆ มันก็เกิดความเคยชิน ก็เปลี่ยนมาเล่นละครบ้าง แต่ตอนนี้เราก็เล่นละครมาหลายปีแล้ว ก็อยากกลับไปขึ้นคอนเสิร์ตใหม่ ให้ได้ความรู้สึกเดิมที่เคยได้มาก่อน”
   
ในเรื่องของการเต้นล่ะ ยังไหวกันไหม
   
“(หัวเราะ) ยังพอได้ครับ เราก็ต้องเข้าไปฝึกการเต้นใหม่ให้มัน เมื่อก่อนเรายังเด็กแรงเราเยอะ แต่ตอนนี้เราโตขึ้น เราทั้งร้อง ทั้งเต้น ก็ต้องซ้อมกันอย่างจริงจัง”
   
เสียงตอบรับดีไหม
   
“ดีครับ พอมีข่าวออกมาว่าจะมีคอนเสิร์ต ก็มีเพื่อน ๆ โทรฯ มาขอบัตรฟรีกันเยอะเลยครับ (หัวเราะ) ผมเลยบอกว่ามีแต่คนขอฟรี งั้นผมเล่นการกุศลเลยแล้วกัน (หัวเราะ)”
   
มาถึงวันนี้เรียกว่าประสบความสำเร็จไปหลาย ๆ เรื่องแล้ว ทำให้ความคิดความอ่านของเราเปลี่ยนไหม
   
“เปลี่ยนครับ มีหลาย ๆ อย่างที่เราเซตเป็นเป้าหมาย แล้วเป้าหมายมันชัดขึ้น ๆ เรารู้ว่าเราต้องการอะไร เรารู้ว่าเราเป็นคนแบบไหน เรารู้ว่าเรามีกำลังมากแค่ไหน ที่จะทำให้มันสำเร็จหรือเปล่า แล้วอะไรที่เราอยากได้อยากทำมันประสบความสำเร็จ เลยทำให้ชีวิตเรามีความสุข
   
แต่เมื่อก่อนเรายังเด็ก ๆ อยู่ ก็จะไม่ค่อยวางแผนอะไรในชีวิต ก็ปล่อยเลยตามเลย เพราะงานก็มีคนดูแล เขาอยากให้ทำอะไรก็ทำ เราจำได้แค่ว่าที่จำเป็นที่จะต้องทำก็คือการเรียนให้จบ เรื่องจบเท่านั้นที่เราคิด แต่พอเราเรียนจบปุ๊บก็มีละครเข้ามา เราก็โอเค ๆ เล่นไปขำ ๆ สักพักหนึ่งมันเริ่มสนุกกับการทำงานตรงนั้น เริ่มที่จะจริงจังกับงานการแสดง คือมีการศึกษาบทมากขึ้น เหมือนเราอัพเกรดตัวเอง เริ่มชอบที่จะเล่นละครตั้งแต่ตอนนั้น จริง ๆ ตอนนี้เรียกว่าเป็นอาชีพของเราได้เลยนะ ณ ตอนนี้น่ะ”
   

“นุ่น รมิดา ของ หลุยส์”
   
ดูงานเยอะขึ้น แล้วมีเวลาให้ นุ่น บ้างไหม
   
“น้อยลงครับ แต่เขาเข้าใจก็โอเค แล้วพอมีเวลาเราก็ไปกินข้าว ไปเที่ยวไหนมาไหนกันได้บ้าง แต่ช่วงว่างของผม ผมชอบที่จะไปเชียงใหม่ ไปนอนยาว ๆ ไม่ทำอะไรเลย ผมไม่ชอบเที่ยวกลางคืน เป็นคนไม่ชอบออกไปเที่ยวข้างนอก ผมชอบอยู่เชียงใหม่นะ เชียงใหม่มีทุกอย่างเหมือนกรุงเทพฯ แล้วเวลาช่วงปลายปีอากาศก็ดี เย็น ๆ สบาย ๆ ผมเลยชอบที่จะอยู่ที่นั่นเวลาที่ว่าง”
   
ตอนนี้อายุจะ 30 แล้ว แปลนเรื่องชีวิตครอบครัวแล้วยัง?
   
“ยังครับ แต่ถามว่าอยากมีครอบครัวเป็นของตัวเองไหม อันนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วครับ แต่ก่อนที่จะมีครอบครัวที่มั่นคง เราเองต้องมั่นคงก่อน เรายังไมได้แต่งงานกับใคร ยังไม่มีลูกหลาน เรายังสามารถที่จะเสี่ยงได้กับตัวเราเอง เสี่ยงลงทุน เสี่ยงร่างกาย เสี่ยงได้หมด แต่ถ้าเรามีภรรยามีลูกเราเสี่ยงได้น้อยลง เพราะมีคนที่พึ่งพาเราอยู่  แต่ตอนนี้เราทำได้หมด อยากลองทำไอ้โน่น อยากทำไอ้นี่ทำได้หมด แล้วพอวันหนึ่งที่เรามั่นคงเราก็มีครอบครัวของเราได้”
   
แล้วกับ นุ่น ล่ะ?
   
“ณ ตอนนี้เราเป็นแฟนกันใช่ แต่อย่าคิดนะอะไรที่เร็ว ๆ คิดว่าจะแบบแต่งงานยังไม่ทำ เราก็บอกให้เขาเคลียร์ เขาก็เข้าใจ ส่วนเรื่องเวลาในช่วงที่งานเข้ามาเยอะ ๆ ในตอนนี้ แรก ๆ เขาก็มีบ่นบ้างไม่ค่อยเจอเลย แต่ถามว่าเขาเข้าใจไหม เขาเข้าใจหลุยส์เองก็ไม่ต้องอธิบายอะไรเลย ว่าอะไรทำไม เพราะเขาเองก็ทำงานในวงการเหมือนกัน เขารู้”
   

 “30 ยังแจ๋ว”
   
ขอถามเรื่องอายุหน่อย ในเรื่องตัวเลขถ้าเป็นผู้หญิง จะกลัวการมีตัวเลขที่เพิ่มมากขึ้น แล้วผู้ชายอย่างหลุยส์กลัวไหมกับเลข 30 ที่กำลังจะมาถึง?
   
“ถามว่ากลัวไหม ไม่กลัวนะ แต่จะนึกถึงบ่อย (ยิ้ม) แต่จะให้ทำยังไงละ ย้อนเวลากลับไม่ได้ ยิ่งคิดยิ่งเครียด ก็คิดเสียว่าแก่ก็เท่ไปอีกแบบ มีประสบการณ์อะไรเยอะ ซึ่งเมื่อตอนเด็ก ๆ เราใช้ร่างกายเยอะแล้ว แล้วพอมาถึงจุดหนึ่งเรานิ่งขึ้น สงบขึ้นมันก็ดี มันก็สบายไม่เหนื่อย ผมว่าตัวเลขสวยนะ 30 เนี่ย”
   
แปลน ๆ ไหมว่า จะแต่งงานก่อนสัก 40 หรือว่าอะไรยังไงไหม?
   
“ ก็คิดครับ พยายามก่อนจะ 35 ไม่อยากจะแก่เกิน เดี๋ยวใช้ลูกไม่ทัน (หัวเราะ)”
   
เอ๊า....เหล่าสาวกแร็พเตอร์ทั้งหลายก็เตรียมตัวฟิตร่างกายกันเอาไว้ กำหนดวันคอนเสิร์ตออกมาเมื่อไหร่ ไปโยกย้ายส่ายตะโพกกับนายหลุยส์กัน.