‘แม่กอล์ฟ’ เปิดใจทั้งน้ำตาเสียลูกชาย ให้สาวมือตบ ‘ดิว’

ทันทีที่อดีตนักร้องดูโอ้ค่ายแกรมมี่ฯ “กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล” ได้ออก มาเปิดใจถึงความรักกับหวานใจ “ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์”

ว่านาทีนี้ได้ผ่าน ด่านรักแท้แม่ไม่ปลื้มไปเรียบร้อยแล้ว

คำพูดนี้ก็ได้สร้างความสะเทือนใจให้ “คุณแม่ปราศรัย นิธิไพศาลกุล” เป็นอย่างยิ่ง  เพราะเรื่องราวที่ “กอล์ฟ” บอกว่าแฮปปี้เอ็นดิ้งนั้น จริงๆ แล้วเป็นการแฮปปี้ฝ่ายเดียว โดย ที่คุณแม่ไม่ได้แฮปปี้ด้วยเลย 

และตอนนี้ “กอล์ฟ” ก็หิ้วกระเป๋าออกจากบ้านไปแล้ว ซึ่งก็ยิ่งสร้างความทุกข์ใจให้ “คุณแม่” มากขึ้นไปอีก เพราะมันทำให้คุณแม่ยิ่งคิดมากว่าว่า ตนเองผิดหรือที่ตักเตือนลูกแบบนั้น จนตอนนี้ต้อง กลายเป็นจำเลยกับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ

คือสิ่งที่แม่พูดแม่สอนไป กลายเป็นสาเหตุให้ ‘กอล์ฟ’ ทิ้งแม่ออกจากบ้าน
    “ใช่ค่ะ เหมือนเขาอึดอัดที่จะอยู่ที่บ้าน ออกไป อยู่เอง แล้วก็พูดไปทั่วว่ากลับบ้าน ทั้งที่จริงไม่เคยเจอเขาเลยเป็นเวลาเกือบครึ่งปีได้แล้วมั้ง โอ.เค.ที่ผ่านมาแม่ไม่ได้เข้าไปยุ่งกับชีวิตของเขาอยู่แล้ว ปล่อย...

    ในเมื่อเราหวังดีกับเขาแล้วแต่ไม่ได้รับความหวังดีกลับเราก็ต้องปล่อยตรงนั้นออกไป มันไม่ใช่ความน้อยใจ แต่มันเป็นความเสียใจ ทั้งๆ ที่เราไม่ใช่ คนก่อเรื่องขึ้น แต่เหตุกลายเป็นว่าแม่ไม่ชอบแฟน เขา ซึ่งจริงๆ เราไม่ได้ไม่ชอบแฟนเขา แต่เราไม่ชอบ การกระทำของทั้งคู่ แล้วมาโทษเราแบบเนี่ย มันถูกต้องหรือเปล่า”

  
 ในเมื่อเราหวังดีกับเขาแล้วแต่ไม่ได้รับความหวังดีกลับเราก็ต้องปล่อยตรงนั้นออกไป มันไม่ใช่ความน้อยใจ แต่มันเป็นความเสียใจ ทั้งๆ ที่เราไม่ใช่ คนก่อเรื่องขึ้น แต่เหตุกลายเป็นว่าแม่ไม่ชอบแฟน เขา ซึ่งจริงๆ เราไม่ได้ไม่ชอบแฟนเขา แต่เราไม่ชอบ การกระทำของทั้งคู่ แล้วมาโทษเราแบบเนี่ย มันถูกต้องหรือเปล่า”

ด้วยความเป็นแม่ก็ยังห่วง ‘กอล์ฟ’
    “ห่วง แม่ทุกคนย่อมเป็นห่วงลูกอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าความรู้สึกดีๆ ที่เราให้เขาไป มันหมดไปกับสิ่ง ที่เขากระทำ”

แม่ว่า ‘กอล์ฟ’ เขาทุ่มเท ลุ่มหลงกับความรักมากไปหรือเปล่า
    “เรื่องนี้แม่ไม่ตอบดีกว่า ให้ทุกคนดูเอาเองดีกว่า ในสิ่งที่เขากระทำกับเราไว้ น้องไมค์ก็ได้แต่ปลอบแม่ว่า ‘แม่ไม่เป็นไร ยังมีน้องไมค์อยู่’ คืออะไรล่ะ ทุกครั้งที่ดิวให้สัมภาษณ์ เขามีสิทธิ์อะไรที่จะมาพูดว่าเรามีลูกหลายคน ถ้ากอล์ฟทำให้เราน้อย ใจสักคนคงไม่เป็นไร เพราะเรามีลูกหลายคน แม่ไม่ชอบในสิ่งที่เขาพูด เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดมา   ออกความเห็นว่าเราจะน้อยใจลูกเราหรือเปล่า 

    ใช่ แม่มีลูกหลายคนจริง แต่ลูกเราให้ความรักเรา เราก็ให้ความรักกับลูกหลายคนที่อยู่ เราไม่ใช่ ออกมาเพื่อเรียกร้องว่าเราโดนแย่งความรักไป มันเป็นอะไรที่เราไม่ได้กระทำผิด เขามาบอกตอนที่เรากำลังจะเดินทางไปต่างประเทศ ว่าสิ้นเดือนนี้กอล์ฟ จะออกจากบ้านแล้ว  

    แม่ฟังก็ช็อกเหมือนกัน ฟังเสร็จเดินทางไป ด้วยความสลดใจว่า เอ้อ! แม่ทำอะไรผิดเหรอ ถ้าเขา ไปแล้วมีความสุขก็ดีไป แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องออก มาบอกคนว่า แฟนผมดี ผมรับรอง เหมือนกับว่า แฟนผมดี แต่แม่ผมไม่ดี”

เท่าที่คุยกับ ‘กอล์ฟ’ เขาจะพูดประมาณว่า แต่ก่อนไม่ค่อยกล้าพูดอะไร พอตอนนี้เป็นตัวของ ตัวเองมากขึ้นกล้าพูดความจริงมากขึ้น
    “แล้วเขาพูดความจริงตรงหรือเปล่า เขายอม รับไม่ล่ะว่าเขาออกจากบ้านไปอยู่ข้างนอก เขาไปอยู่ คอนโดฯ บอกเขากลับบ้านทุกวัน เขาตรงมั้ยล่ะ เขากลับบ้านทุกวันหรือเปล่า” 
 

 หลังจากที่ออกจากบ้านไปแล้ว ‘กอล์ฟ’ ได้โทร.หาคุณแม่บ้างมั้ย
    “ไม่เคยเลย ไม่เคยห่วงใย ไม่เคยถามแม่แม้ แต่สักนิดเดียว ถามหน่อยเถอะแม่ผิดหรือเปล่า เราไม่ได้น้อยใจน่ะ แต่เราเสียใจ (ร้องไห้) เพราะว่าเราเลี้ยงดูเขามาอย่างดี”
เคยคิดจะมานั่งพูดเปิดอกกันมั้ยว่าแม่คิดอย่างนี้ พ่อคิดแบบนี้ ‘กอล์ฟ’ จะเอายังไง

    “ก่อนที่เขาจะตัดสินใจออกจากบ้าน แม่กับพ่อ ก็ยอมที่จะคุยกับเขาด้วยดี ซึ่งก็เหมือนเขาจะเข้าใจดีแล้ว แต่จริงๆ แล้วเขาไม่เข้าใจ”

เคยนั่งคุยมี‘พ่อแม่ กอล์ฟ ดิว’บ้างหรือยัง
“ไม่เคยค่ะ คิดดูแล้วกัน เมื่อไม่กี่อาทิตย์ เดือนที่แล้ว เขาเจอแม่ที่เซ็นทรัล ชิดลม เขาหลบเราทั้งคู่เลย ไม่ใช่แม่ไม่เห็นน่ะ แต่เขาพูดกับสื่อว่าถ้าเขาเจอ เรา เขาจะเข้ามาหาเรา เขาได้ทำอย่างที่เขาพูดหรือเปล่า เขาไม่เคยทำ”

แม่ยืนยันว่าเห็น ‘กอล์ฟ’
“แม่เห็นทั้งแม่ดิว ดิว กอล์ฟ ซึ่งพ่ออยู่ข้างล่าง แม่ยังเรียกพ่อขึ้นมาดูเลย เขาเห็นเราแต่เขาทำเป็นเดินเหมือนไม่รู้จักเรา เขาหลบไปเลย”

เขาอาจจะไม่ทันตั้งตัว แต่ความรู้สึกแม่แย่  ไปแล้ว
    “เขากล้าเผชิญหน้ากับเราหรือเปล่าล่ะ ทั้งดิวทั้งกอล์ฟ เขากล้าเผชิญหน้ากับเรามั้ย เหมือนที่เขาพูดกับสื่อหรือเปล่า แล้วเราทำผิดอะไรล่ะ เขาจะไป เที่ยวเราก็ไม่ว่า แต่เขากลับบ้านดึกตลอดเวลามีข่าว ออกมาไม่เว้นแต่ละวัน เราเป็นแม่ก็ต้องตักเตือน”

แต่ใครๆ จะคิดไปว่าแม่หวง ‘กอล์ฟ’ เกินไปหรือเปล่า กลายเป็นอีกประเด็นกับที่แม่รู้สึก
    “ถ้าเราหวงเขา ทำไมแม่ไม่ทำกับไมค์บ้างล่ะ ไมค์ก็ไปเที่ยวเหมือนกัน แต่ไมค์ไม่เคยมีภาพหลุด ไม่มีข่าวที่ทำให้เขาเสียหาย”

มันเหมือนกับว่า ‘ไมค์’ มีแฟนเป็นนางเอก ‘กอล์ฟ’ มีแฟนเป็นนางร้ายหรือเปล่า
    “ไม่เกี่ยว สมัยก่อนไมค์ยังไม่มีแฟนเป็นนาง เอกเลย เรื่องที่มันเกิดขึ้นมันก็เกิดตั้งนานแล้ว มันจบไปตั้งนานแล้ว ณ วันที่เขาเดินออกจากบ้านไป ไม่ มีการเคลียร์อะไรกันอีกเลย แต่เขากลับพูดว่าเขาเคลียร์หมดเรียบร้อยแล้ว เขาเคลียร์ด้วยการออกจากบ้านไง” (ร้องไห้)

ความรู้สึกของแม่ก็คือ เหมือนเราสูญเสียลูกชายไปแล้ว
    “ก็คงจะเป็นแบบนั้น เพราะเราเหมือนสูญเสียเขาไปจากชีวิตเราจริง และรู้สึกว่าที่เขาออกไปจาก    ชีวิตเรา เพราะเราทำผิดเหรอ คือถ้าเราทำผิดแม่จะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่เราไม่ได้เป็นผู้กระทำแต่ถูกกระทำ แต่คนทำผิดที่เขาบอกว่าไม่เคยทำให้เขาดิ่งลง...ใช่ ตัวเขาอาจจะไม่ได้ดิ่งลง แต่จิตใจเขาเนี่ยดิ่ง ลง เขานึกถึงมั้ยว่าสิ่งที่เขาทำไปมันเกินไป เขากลับมาโทษแม่ว่าเราเป็นคนทำผิดแบบนั้นเหรอ
 
 คือแม่ไม่แฮปปี้ที่เขาพูดกับสื่อเรื่อยๆ แล้วดึงแม่เข้าไปเกี่ยวข้อง คือแม่เคยพูดกับคุณพ่อแล้วว่า ถ้าเขาออกจากบ้านเขาจะไปทำอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ต้องมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแม่ทั้งสิ้น ไม่ต้องดึงเราเข้าไปร่วม แม่ไม่มีบุญคุณมากพอที่จะดึงเข้าไปร่วมอยู่แล้ว” (อาการน้อยใจสุดๆ)

ความรู้สึก ณ ขณะนี้เหมือนจะตัดแม่ตัดลูกกันไปเลย หรือว่าอยากจะได้ลูกชาย กลับคืน
    “ความรู้สึกของแม่ คงไม่มีแม่คนไหน... หรอกที่บอกจะตัดลูกไปได้ มีแต่ว่าลูกน่ะอาจจะตัดแม่ได้ แต่ความรู้สึกนั้นมันไม่เคยมี เราไม่เคยตัดเขาออกจากความเป็นลูก... เพียงแต่ว่าเรารู้สึกเสียใจกับการกระทำของเขาเท่านั้นเอง และเราอยากให้เขารับรู้บ้าง (เสียงเครือ) เขาออกสื่อได้แต่เราไม่ใช่ดารา เราถูกเขาเอาไปพูดโดยที่เราไม่สามารถโต้ตอบได้”

ความน้อยใจ เสียใจ เพิ่มมากขึ้น เมื่อ ‘กอล์ฟ’ เลือกแฟนมากกว่าเลือกแม่
    “แม่ไม่ได้คิดแบบนั้น คือในที่สุดลูกต้องแต่ง งาน มีชีวิตของเขาในภายภาคหน้า แต่มันถึงเวลา หรือยังล่ะ ถ้าเขาถึงเวลาเราพร้อมรับเสมออยู่แล้ว ทุกวันนี้แม่พร้อมทำใจอยู่แล้วว่าลูกจะต้องแต่งงานออกไปแต่มันถึงเวลาแล้วเหรอ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดของเราเหรอ”

คุณแม่มองไปว่าสิ่งต่างๆ ที่แม่พูด  ‘กอล์ฟ’ แปลเจตนาไปอีกแบบหนึ่ง มองกันคนละมุม กลายเป็นความผิดของแม่ไป
    “ใช่ (ร้องไห้) แต่สิ่งที่เขาออกมาพูดเทิดทูน  ผู้หญิงว่าดียังนั้นดีอย่างนี้ ปกป้องและก็พูดว่าเขาคบผู้หญิงคนนี้ได้นาน แม่ไม่เข้าใจประเด็นนี้ว่า   ลูกทำเพื่ออะไร (ร้องไห้) คนเราถ้าดีจริงไม่ต้องมาประกาศบอกใครหรอกว่าเราเป็นคนดี เราดีอย่างนั้นเราดีอย่างนี้ ถ้าเธอเป็นคนดี เธอทำดีไปคนก็ต้อง เห็นสิว่าเธอเป็นคนดี แต่สิ่งที่ผ่านมาเธอทำอะไร    ไว้บ้างล่ะ”

กลัวมั้ยกับการออก มาพูดด้วยความน้อยใจเสียใจ จะเป็นการ ฆ่าลูกเราผ่านสื่อ เพราะการเป็นศิลปินมันต้องรักษาภาพลักษณ์
    “เรื่องการรักษาภาพลักษณ์แม่ก็เข้าใจ แต่ความรู้สึกแม่มันแย่มากๆ เพราะลูกออกมาพูดว่าผู้หญิงดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ คนก็จะมองแม่ว่าเราเป็น แม่ที่ใจร้าย เราเป็นแม่ที่แย่มากๆ เหมือนเป็นคน ร้ายกาจมาก อย่างแม่เวลาเจอเพื่อนแต่ละคน ถามคำถามเหล่านี้ตลอดเวลา ซึ่งเราไม่อยากตอบ ไม่อยากพูดถึง เขาถามว่าทำไมเกลียดดิว ทำไมไม่ปลื้ม ดิว แต่ละคำถามมันแทงใจเราใช่มั้ย”

แต่แม่ยืนยันไม่ได้เกลียด ‘ดิว’
“แม่ไม่เคยเกลียดใคร แต่ถ้าเธอมาทำอะไรกับเรา แน่นอนเราต้องออกมาพูดในสิ่งที่มันถูกต้อง แม่ไม่เคยพูดให้กอล์ฟเลิกคบกับดิว เธอก็คบไปแต่ เธอต้องทำอะไรให้มันพอดี และเธอไม่ควรออกไปรับเรื่องแทนเขา เธอไม่ควรจะออกไปปกป้องเขาโดย การไปว่าคนอื่นเขา แล้วผู้หญิงก็ออกมาเย้ๆๆ ตบมือว่ากอล์ฟทำได้ดีมาก..มันเป็นสิ่งที่ดีมั้ยล่ะ คนเป็นแม่อยากให้ลูกทำแบบนั้นมั้ย แล้วแค่เนี่ยเขาบอกเขา ไม่ได้ดิ่งลง แม่พูดลึกสิ่งเหล่านี้มันพอเพียงมั้ยที่จะไปปลื้มเขา เขาทำให้ลูกเราออกจากชีวิตเราไปได้ เขาทำให้ลูกเราเดินในทางที่ผิด ถ้าย้อนถามคุณเป็นแม่ บ้างคุณจะทำยังไง”

    ได้รับฟังความในใจหัวอกคนเป็นแม่แบบนี้แล้วก็ได้แต่สะท้อนใจ ถ้าทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง ได้ดีที่สุด “ลูก” คงรู้ว่าหน้าที่ของลูกคืออะไร