ชีวิตสีชมพู ของ ชมพู่ อารยา

นางเอกเจ้าบทบาท

บท "เรยา" ในละครเรื่อง "ดอกส้มสีทอง" ค่อนข้างแรงมาก ทำไมถึงตัดสินใจเล่นเรื่องนี้

 ในเรื่องนี้รับบทเรยา ซึ่งในบทไม่ใช่นางเอกที่ดีตามแบบฉบับของนางเอกทั่วไป แต่เหมือนเป็นบทที่หลายคนอยากเห็นเรากลับมาเล่นบททำนองนี้ หลังจากเรื่อง ดาวเปื้อนดิน ทางช่อง 7  ก่อนที่จะรับเล่นเรื่องคิดเยอะมาก ตอนแรกชมปฏิเสธกับทางพี่หน่อง (อรุโณชา ภาณุพันธ์) เพราะเรื่องนี้คุยกันไว้เกือบ 2 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ย้ายมาช่อง 3 ใหม่ๆ และตอนนั้นชมรู้สึกว่ายังไม่พร้อมสำหรับบทแบบนี้ พูดตรงๆ ว่าเราย้ายมาคนค่อนข้างจะจับตาว่า ดูซิจะไปได้กี่น้ำ เดี๋ยวพอมาเจอบทแบบนี้ ก็ยิ่งโหมกระแสเข้าไปอีก แต่ยอมรับว่าตอนที่อ่านบท ชมรู้สึกว่าเป็นบทที่ดีมาก แต่มีอะไรให้คิดเยอะ

ตอนแรกติดปัญหาเรื่องอะไร ทำไมถึงไม่รับเล่น
 ในตอนแรกที่เรามาที่ช่อง 3 เราค่อนข้างใหม่ และค่อนข้างจะเคว้งคว้างไม่รู้ว่าใครจะดูแลเราดียังไง จะช่วยปกป้องเราแค่ไหน ถ้าเรามารับบทแบบนี้ เหมือนมาตัวคนเดียว เพราะเราเพิ่งย้ายมา ชมไม่ได้สนิทกับผู้จัดคนไหนเป็นพิเศษ ทำให้ค่อนข้างคิดเยอะ พอพี่หน่องส่งบทนี้มาให้ ชมขับรถไปหาพี่หน่องที่บริษัทเลย แล้วอธิบายให้เขาฟังว่าเรารู้สึกแบบนี้ แต่ด้วยความเคารพเลย ชมอยากที่จะร่วมงานกับบอรดคาซท์จริงๆ ยิ่งผู้กำกับเป็นอาหมี (โชติรัตน์ รักเริ่มวงษ์) ใจจริงอยากทำงานกับพี่เขา ซึ่งพี่หน่องก็เข้าใจ แต่แล้วทางช่อง 3 ก็เรียกไปคุยอีกที บอกชมว่าบทนี้เขามองไม่ออกเลยว่าจะเป็นใคร เพราะบทเรยาตามบทประพันธ์ หน้าจะต้องเป็นแขกนิดหนึ่ง ความสวยก็ประมาณหนึ่ง ต้องเล่นบทประมาณนี้ได้ ตัวพี่หน่องบอกกับชมว่าตอนที่เขาอ่านเรื่องนี้ เขาก็คิดถึงชม ชมอ่านก็เห็นภาพตัวเองเล่น (หัวเราะ) สุดท้ายก็ยอมตัดสินใจเล่น พอได้มาเล่นจริงๆ ปรากฏว่าเรื่องที่เรากังวล เรากังวลเว่อร์ไป เพราะชมห่างจากบทร้ายที่เคยเล่นมานานเหมือนกัน ชมไม่อยากที่จะเล่นบทแบบนี้ติดๆ กันมาก ไม่ได้รังเกียจบทแบบนี้ เพราะบทแบบนี้เป็นบทที่ทำให้ชมเกิดใหม่อีกครั้งด้วยซ้ำไป พอสุดท้ายก็เล่น และมันไม่ทำให้เราผิดหวัง ทุกอย่างในละครเรื่องนี้เพอร์เฟกท์จริงๆ

ในเรื่อง "ดอกส้มสีทอง" บทเลิฟซีนเยอะมากเป็นอย่างไรบ้าง
 เรื่อง ดอกส้มสีทอง เลิฟซีนเยอะ วันที่ถ่ายบางวันอยู่แต่บนเตียง อยู่กับผู้ชายที่เราต้องเข้าฉากด้วย ยอมรับว่าบางทีเราก็ถามตัวเองว่าเราทำอะไรอยู่ แต่ชมยืนยันว่าละครเรื่องนี้มันไม่ได้จงใจขายเลิฟซีน หรือขายฉากบนเตียง แต่ฉากเลิฟซีนในเรื่องนี้เป็นเหมือนตัวเล่าเรื่องจริงๆ ให้เห็นว่าผู้หญิงเรื่องนี้ทำอะไรบ้างเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ ไม่ได้ทำฉากเลิฟซีนขึ้นมาเพื่อเอ็นเตอร์เทนคนดู แต่ทำมาเพื่อเล่าเรื่อง และหลีกเลี่ยงไม่ได้
กังวล เรากังวลเว่อร์ไป เพราะชมเองก็ห่างจากบทร้ายที่เคยเล่นมานานเหมือนกัน เพราะชมเองไม่อยากที่จะเล่นบทแบบนี้ติดๆ กันมาก ชมไม่ได้ที่จะรังเกียจบทแบบนี้ เพราะบทแบบนี้เป็นบทที่ทำให้ชมเกิดใหม่อีกครั้งด้วยซ้ำไป พอสุดท้ายก็เล่น และมันไม่ทำให้เราผิดหวัง ทุกอย่างในละครเรื่องนี้เพอร์เฟกท์จริงๆ"

จากเรื่อง "รหัสทรชน" กับ "เคน" ธีรเดช ก็จูบจริง พอมาเรื่อง "ดอกส้มสีทอง" เข้าฉากกับนักแสดงหนุ่มๆ ในเรื่องก็จูบจริง คิดว่าเป็นการจูบที่เยอะไปหรือเปล่า 

 ตอนแรกที่แสดงชมไม่ได้คิดอะไรในตรงนั้นเลย แต่กระแสที่กลับมาเยอะเหมือนกัน ชมรู้สึกเหมือนกันว่าชมไม่ใช่คนที่แสดงจริงแบบนี้คนแรก และไม่ใช่เรื่องแรกของชมด้วย และไม่ได้หมายความว่าจะยอมเล่นจริงทุกฉากทุกตอน อย่างในเรื่อง รหัสทรชน ถ้าผู้กำกับขอ เราก็เล่นเท่าที่จำเป็น อีกอย่างคือเป็นการเล่นกับคนที่เราสบายใจด้วย อย่างพี่เคนเล่นด้วยกัน เราก็รู้ว่าเขาไม่เอาเปรียบเรา แล้วอยู่ในทีมที่เราแฮปปี้ ชมมีลิมิต เพราะเราเป็นผู้หญิง เวลาที่จะเล่นฉากแบบนี้ ชมจะให้ผู้กำกับบอกในทุกๆ สเต็ป

 ชมโชคดีที่นักแสดงทุกคนให้เกียรติทั้งพี่โอ๊ต (วรวุฒิ นิยมทรัพย์) คุณอั๋น (วิทยา วสุไกรไพศาล) หรือ หลุยส์ (หลุยส์ สก็อตต์) จะให้เกียรติ และเกรงใจ จนบางทีเราจะบอกเลยว่าอย่าเกรงใจมาก เพราะเราไม่อยากที่จะเล่นแบบนี้หลายเทก อยากให้มันผ่านไป แต่ถ้าฉากไหนที่มันมากไปจะบอกเลยว่าเราไม่สบายใจ ทางผู้กำกับก็เข้าใจ

ต้องเล่นฉากเลิฟซีนเยอะ กลัวส่งผลกับภาพลักษณ์นางเอกไหม
 ชมว่าวงการและคนดูค่อยๆ พัฒนา มันไม่ได้เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ คนดูเขาค่อยๆ รับได้กับการที่นางเอกจะต้องมีฉากเลิฟซีนจูบจริงบ้าง เดี๋ยวนี้คนค่อนข้างแยกแยะได้ว่าบทบาทก็คือการแสดง คนเขาแยกออกระหว่างเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน เพราะเดี๋ยวคนเสพอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวของดาราจริงๆ เยอะ อีกแง่มุมเขาติดตามผลงานของเรา และอีกแง่หนึ่งเขาสนใจในชีวิตส่วนตัวของเราด้วย มันไม่เกี่ยวกัน บางคนอาจจะรับบทการแสดงเป็นคนเรียบร้อย แต่ในข่าวคราวเรื่องชีวิตส่วนตัวอาจจะแรงกว่าก็ได้ คนดูน่าจะเปิดรับมากขึ้น
 

ฮอตต่อเนื่อง

ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 กับการอยู่ภายใต้ชายคาช่อง 3 เป็นอย่างไงบ้าง
 ชมพอใจและดีใจกับผลงานในทุกๆ เรื่อง และทุกๆ โอกาส มาอยู่ที่นี่ชมรู้สึกว่าได้รับโอกาสที่หลากหลายมากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือมันเป็นสิ่งที่เราได้เลือก อย่างตอนนี้คนอาจเห็นชมมีละครต่อเนื่องมากกว่าคนอื่นๆ ชมว่าเป็นเพราะความบังเอิญมากกว่า พอชมมาอยู่ช่อง 3 ได้เลือกว่าละครเรื่องไหนเราอยากเล่น หรือเรื่องไหนเราไม่เหมาะกับเรา ทำให้เรื่องของเวลาที่ละครจะออกไม่สม่ำเสมอ ช่วงนี้ชมอาจมีละครติดๆกัน แต่ก่อนหน้านี้หายไปเหมือนกัน และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ คือตอนนี้ชมได้รับการยอมรับจากแฟนๆ ช่อง 3 ในฐานะนางเอกคนหนึ่ง เพราะเรามีผลงานกับทางช่องอย่างต่อเนื่อง ความผูกพันธ์อะไรต่างๆ ที่ชมมีต่อช่อง 3 ทำให้เขาน่าจะยอมรับเรามากขึ้น
  

หัวใจสีชมพู

ความรักกับ "น็อต" วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์  เป็นอย่างไรบ้าง
 ความรักตอนนี้ก็โอเค ชมปล่อยไปตามครรลองของมัน  ณ วันที่เปิดตัวออกมา ชมว่าคงถึงเวลาแล้ว เพราะตอนนั้นมีเรื่องอะไรหลายๆ อย่างที่เรารู้สึกว่าออกมาพูดบ้างก็ดีเหมือนกัน ซึ่งพอออกมาแล้วผลที่กลับมาก็ค่อนข้างใช้ได้ (หัวเราะ)

ตั้งความหวังยังไงกับความรักครั้งนี้
 ชมเป็นคนที่รักคนยาก คิดหน้าคิดหลังค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ใช่ผู้หญิงพารานอยด์ จุกจิก  ชมเป็นคนที่ถ้าจะเลือกคบกับใคร เราก็มีเขาคนเดียว และจากความรักครั้งเก่าจนถึงครั้งนี้ชมบอกตัวเองเลยว่าจะไม่เสียเวลากับอะไรที่มันไม่น่าจะใช่ ซึ่งกับเขาก็คบกันมา 2 ปีกว่าแล้ว ชมไม่รู้อนาคต แต่ ณ ตอนนี้ถามว่าเขาใช่ไหม ชมก็ว่าเขาใช่ วันนี้ พรุ่งนี้ก็ยังใช่ ให้ลองนึกภาพอีกสักปีหนึ่งว่ายังมองเห็นเขาอยู่ข้างๆ เราไหม ชมยังมองเห็นอยู่ แต่ก็เผื่อพื้นที่ไว้สำหรับความไม่แน่นอน คิดไว้เหมือนกันว่าชีวิตนี้เราอาจจะอยู่คนเดียวก็ได้ เราใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท แต่คงไม่มีใครอยากที่จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวอยู่แล้ว ยิ่งเราเป็นผู้หญิงด้วย แต่ถ้าถามว่ามองเรื่องแต่งตอนนี้หรือเร็วๆ นี้ไหม ตอนนี้คงยัง และไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้เลย ชมมองภาพตัวเองเป็นแม่บ้านไม่ออกเลย (หัวเราะ) คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก

 นี่แหละตัวตนของเธอ ชมพู่" อารยา  

อารยา เอ ฮาร์เก็ต
ชื่อเล่น ชมพู่
วันเกิด 28 มิถุนายน 2524
การศึกษา ปริญญาตรี ศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรังสิต
ผลงานที่ผ่านมา  แสงดาวแห่งหัวใจ, ดาวเปื้อนดิน, เพลิงพราย, ไฟโชนแสง, วิวาห์ว้าวุ่น, รหัสทรชน ฯลฯ
ผลงานล่าสุด "ดอกส้มสีทอง" 
เรื่อง : ณัฏฐิรา หลอดแก้ว
ภาพ : วริศรา วุฒิกุล