เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าทางหนังสือพิมพ์เล่มดังกล่าวได้ติดต่อมาเพื่อขอโทษหรือไม่
ดาราสาวปฏิเสธว่ายังไม่มีการติดต่อกลับมาใดๆ ทั้งสิ้น ก่อนจะตัดพ้อว่า "อนาคตใครจะกล้าเข้ามาคบเป้ย คุณต้องการอะไรจากเป้ย เป้ยบอกหมด พี่ๆ ถามอะไรเป้ยไม่เคยปิด แต่สิ่งที่เป้ยได้รับกลับมาคือความไม่ยุติธรรม"
ด้านเต็ม-วุฒิสิทธิ์ สืบสุวรรณ เปิดใจว่ากว่า 8 เดือนที่คบกันมา ตนกับเป้ยก็ระหองระแหงกันมาบ้างอยู่แล้ว เพราะทัศนคติ ไลฟ์สไตล์ และพื้นฐานในการใช้ชีวิตต่างกัน จึงทำให้คุยกันไม่ค่อยเข้าใจมากนัก และบทความจากหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กัน
"ทะเลาะกันครั้งสุดท้ายก็เมื่อวันที่ 12 ก.พ. เพราะบทความที่ว่า ผมก็เครียดไม่รู้จะหาทางออกยังไงดี เรื่องนี้ผมก็ไม่กล้าถามเขาว่าเขาเป็นคนพูด หรือหนังสือเขียนขึ้นมาเอง เท่าที่คุยเชื่อว่าเขาคงไม่พูดอะไรแบบนี้ แต่เราก็มีปัญหากันมาตลอด คุยกันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ พอเจอเรื่องนี้เข้าไป จะไปตามหาตัวต้นตอว่ามาจากไหน ก็คงเป็นเรื่องใหญ่เกินไป ก็คุยกันกับน้องว่าตามหาความจริงลำบาก ทางออกที่ดีที่สุดคือเลิกกันดีกว่า ผมเองก็เสียใจมากกับข้อกล่าวหาว่าผมไม่มีอนาคตจะเกาะเป้ยดัง คนเขียนใจร้ายกับผมมากไปหรือเปล่า ที่ผ่านมาผมทำงานเบื้องหลังและเตรียมทำเพลงมา 3 ปีแล้วเพื่อจะออกอัลบั้ม ผมรู้สึกเหมือนแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำอะไร แล้วมันก็เป็นความผิดติดตัวผมไปตลอด ต่อให้ผมมีงานเบื้องหน้า เขาก็ไม่สนใจเพลงอยู่ดี เพราะสนใจแต่ว่าผมใช้ชื่อเสียงของเป้ยมาทำให้ดัง ผมกลายเป็นคนดุร้าย นิสัยไม่ดี ความผิดกลายเป็นอยู่ที่ผม เมื่อสังคมเมื่อหนังสือพิมพ์บอกว่าผมกับเป้ยเป็นแฟนกันไม่ได้ ผมก็ไม่เป็น เลิกกันน่าจะดีที่สุด"
เต็ม-วุฒิสิทธิ์ยังเผยอีกว่า แม้จะยังรักเป้ยอยู่เหมือนเดิม แต่คงยากที่จะปรับความเข้าใจหรือคืนดี เพราะปัญหาที่สะสมมาโดยตลอดทำให้ความสัมพันธ์ง่อนแง่น จนยากจะแก้ไขทั้งคู่ ทางเป้ยเองก็เครียดมากที่เข้ากันไม่ได้ ตนก็อยากให้เป้ยสบายใจและยิ้มได้
เป้ย ปานวาด - เต็ม วุฒิสิทธิ์
https://www.facebook.com/teeneedotcom