เพื่อหวังว่าจะดูแลรักษาคนในครอบครัวและคนอื่นในยามที่พวกเขาไม่สบาย แต่ด้วยกาลเวลาและเหตุการณ์ที่เขาได้เห็นแฟน ๆ ที่ชื่นชอบดาราชื่อดัง ต่างก็วิ่งเข้าไปห้อมล้อม พร้อมกับส่งเสียงกรี๊ดหลายต่อหลายครั้ง จึงเป็นจุดที่ทำให้เขาพลิกความฝันพร้อมตั้งคำถามในวัยเด็กกับคุณแม่ “อย่างฟิล์มเนี่ยจะเป็นดาราได้หรือเปล่า” ซึ่งเสียงตอบจากคุณแม่ “ได้ซิ ...ใคร ๆ ก็เป็นดาราได้ทั้งนั้น” นั่นคือกำลังใจอันยิ่งใหญ่ ที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็นไปได้ ว่าฝันนั้นคงจะไม่ไกลเกินเอื้อม หากเขาตั้งใจจริง “ฟิล์ม” พยายาม ฝึกฝนด้านการแสดง ด้วยการดูรายการบันเทิงต่าง ๆ ในทีวี เห็นนักร้องคนไหนออกมาหน้าจอ เขาก็พร้อมลอกเลียนแบบร้องเพลง ทำท่าทางฝึกแอ๊คติ้งตามแม้แต่ในโฆษณา โดยมีพี่ชายคอยกำกับอยู่เบื้องหลัง และให้การแนะนำ
แต่แล้วความฝันของเด็กหนุ่มคนนี้ ในช่วงที่เรียนมัธยมปลาย ก็ได้เริ่มต้นด้วยการเป็นตัวประกอบหลังฉาก
ซึ่งบทบาททางหน้าจอแทบจะมองไม่เห็น เรียกได้ว่าเฉียดเห็นแค่ติ่งหู “ฟิล์ม” ย้อนเล่าเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า “แต่ผมก็ได้เรียนรู้ก่อนที่จะเข้ามาในวงการบันเทิง ว่ามันไม่ใช่อย่างที่เราเห็น บางคนอาจจะโชคดีที่เข้ามาก็เริ่มทำงานแบบราบรื่น โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่สำหรับผมถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ช่วยสอนให้ผมค่อย ๆ เรียนรู้การทำงานจริง สำหรับเด็กหนุ่มในวัยมัธยมปลาย ที่ฝันอยากเป็นดาราเป็นศิลปิน ที่พอเริ่มต้นก็เจอคนหลายรูปแบบ บางครั้งทำงานแล้วไม่ได้เงิน ถูกหลอกสารพัด ตอนนั้นเสียใจมาก แต่ก็ได้กำลังใจจากคุณแม่ แต่ผมเองก็ไม่เคยท้อยังคงมุ่งตามหาฝัน แม้เส้นทางจะไม่ราบรื่น แต่ก็ทำให้ผมเริ่มเข้าใจคำว่าโลกมายา”
https://www.facebook.com/teeneedotcom