แล้วคุณล้ะ เคยเข้าใจ ชีวิตเอมี่ บ้างมั้ย ??

กลายเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ชุดเจ้าปัญหา

ของ น้องเอมี่-โชติรส สุริยะวงศ์ ดาราน้องใหม่ที่สวมชุดวาบหวิวไปงานประกาศผลรางวัล สุพรรณหงส์ ที่โคราชเมื่อปลายสัปดาห์ จนเกิดมองต่างมุม ส่อเค้าว่าจะกลายเป็น ปัญหาการเมือง ไปแล้ว

จนในที่สุด น้องเอมี่ ต้องออกมาชี้แจงต่อสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่

ทางคณาจารย์พร้อมกับให้อภัยและว่ากล่าวตักเตือน ให้เธอไปบำเพ็ญประโยชน์อ่านหนังสือลงเทปให้นศ.ตาบอดฟัง 15 วัน ซึ่งต้องขอชมอาจารย์ที่ห่วงใยต่อลูกศิษย์ โดยที่ไม่ได้ลงโทษขั้นรุนแรงเกินขอบเขตแต่อย่างใด และไม่หลงกระแสสังคม

นี่คือหัวอกของอาจารย์

เสมือน คุณแม่คนที่สอง ที่ห่วงใยต่อ ศิษย์ ทุกคน เพราะรู้ว่าบางครั้ง ความเจ็บปวดนั้น ที่โดนสังคมจนบอบซ้ำมามากพอแล้ว ทั้งที่ เป็นเรื่องที่ไม่น่าหนักใจอะไรมากนัก เกิดจากความ อ่อนหัด ประสบการณ์บนถนนสายมายาของเธอเท่านั้น

หากรู้ไม่ว่าชีวิตในยามที่ตกทุกข์นั้น

มันปวดร้าว ว้าเหว่และเงียบเหงา เพื่อนๆและผู้ใหญ่ที่เคยช่วยเหลือ น้องเอมมี่ เหมือนในอดีตนั้นกลับเงียบเหงา มีแต่คนที่คอยรุ่มโจมตี วิพากษ์ วิจารณ์ไปตามกระแสสังคม

สิ่งที่อยากฝากข้อคิด น้องเอมี่ คือ

เราต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งหน้า ตั้งตาใหม่ เพื่อที่กลับมาสร้างชื่อในวงการใหม่ เชื่อว่าผู้ใหญ่บางคนสังคมไทยนั้น เขายังรักและให้อภัย เพราะ น้องเอมี่ ไม่ได้เป็นผู้ร้ายไปทำลายใครแต่อย่าใด เพียงแค่ ชุดเจ้าปัญหา เท่านั้น

ถ้าย้อนดูประวัติการเรียน เอมี่ ถือว่าเป็นเด็กเรียนดีคนหนึ่ง

มีความตั้งใจสูงทั้งเรื่องการงานและการเรียน เธอมีความสนใจงานบันเทิงมานาน จนได้โอกาสแสดงหนังวีซีดีมาแล้ว ถ่ายแบบ และได้โอกาสมาร่วมสร้างผลงาน ภาพยนตร์สวยซามูไร

ยางว่างจากการทำงานบันเทิง

จะเห็น ตำรา อยู่ในมือเธออยู่เสมอ ซึ่งแสดงให้เห็น ความขยัน วันนี้น้ำตาที่เคยเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ย่อมเป็นบทเรียนราคา เจ็บแล้วต้องจำ ชีวิตคนเราไม่มีใครที่ไม่มีปัญหา เมื่อเรากลับมาตั้งตัวใหม่ ตั้งหน้า ตั้งตาในสิ่งที่ มุ่งหวังในชีวิต อาจดังกว่าเก่าก็เป็นได้

ถนนสายบันเทิงเมืองไทยนั้น

การเดินบนถนนเส้นนี้ เชื่อว่า เสี้ยวหนึ่งของชีวิต เท่านั้น คงเห็นอะไรที่มากมาย ทั้งแง่ลบ แง่ดีคละปนกันไปมีผู้ใหญ่ที่น่ารัก และมีคนที่จ้องมองเราในแง่ไม่ดี แต่นั้นคือ สังคม

ทุกสิ่ง ทุกอย่าง เป็นสิ่งที่เราเลือกเส้นทางเดินเอง

วันแห่งความเจ็บปวดนั้น คนที่ให้กำลังใจและห่วงเราที่ดี

คงไม่มีใครที่เท่ากับ ครอบครัวและอาจารย์ เราเคยเห็นใครบ้างจะมาให้กำลังใจในวันที่ บอบซ้ำ เพื่อนบางคนที่เคยสนิทสนม จนกลายเป็น เพื่อนตาย เขาเงียบหายไปใจ

เขาว่า ชีวิตคนล้ม อย่าข้าม เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่ระดับชาติ เกิดจากความ ผิดพลาด รู้เท่าไม่ถึงการเท่านั้น ต่อไปอย่าไปทำ อย่าไปสวมชุด อะไรที่แหลมตาสังคม

เพราะเวลานี้ใครๆก็จ้องมอง เอมมี่ อยู่ ระดับมันสมองของเธอนั้น กำลังเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดัง หากไม่ได้เป็น ดารา เรียนจบแล้วไปทำงานที่ไหนใครก็รับมากมาย

สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ อย่างน้อยกระจกสะท้อนให้เห็น

บางเรื่องที่ขัดตา สังคม อย่าไปทำ วันนี้ เอมี่ กลับบ้านอยู่กับครอบครัว อ่านหนังสือเรียนรู้ชีวิตให้มากกว่านี้ รับประทานวิตามิน หาซื้อสาหร่ายเกลียวทองบำรุงร่างกายและจิตใจจะดีขึ้น

อย่างน้อยครอบครัวกำลังรอคอยความสำเร็จอยู่ข้างหน้า ชีวิตไม่สิ้นต้องดิ้นกันไป อย่าไปหมดหวังกับอดีต

อให้เดินมองไปข้างหน้า อนาคตจะสดใส่....นะจ๊ะ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์ดาราเดลี่