ใบเฟิร์นโอดเล่นบู๊เหนื่อยปลื้มผู้ใหญ่ให้โอกาส

งานนี้ทำเอาใบเฟิร์นถึงกับพ้อว่าเหนื่อยสุดๆ เพราะต้องฝึกศิลปะป้องกันตัว 4 เดือนกว่า

"โคตรสู้โคตรโสเปลี่ยนแนวกันเลย เป็นหนังบู๊ แล้วก็มีดราม่าด้วย ต้องฝึกเยอะแต่ก็สนุก เหมือนกับเราได้ลองอะไรใหม่ๆ แม้จะบู๊ไม่มากเท่าที่สตั๊นท์บู๊ แต่ก็ต้องไปฝึก ในเรื่องก็จะเน้นเตะต่อย ออกแนวเทควันโด จระเข้ฟาดหาง ต้องเล่นเอง เพราะอย่างก่อนถ่าย เราก็ต้องไปฝึกที่บาแรมยู ก็จะมีพี่ๆ สตั๊นท์ฝึกให้ ซึ่งครูแต่ละคน ก็จะฝึกท่าให้เราไม่เหมือนกัน ต้องฝึกประมาณ 4 เดือน กว่าจะได้ถ่าย แต่ว่าไม่ได้ฝึกทุกวันนะ เอาเป็นวันไหนว่างเราก็ไป" ใบเฟิร์นกล่าว

นักแสดงสาวยังกล่าวต่ออย่างอารมณ์ดี ว่าช่วงนั้นยุ่งมาก เพราะต้องถ่ายภาพยนตร์เรื่อง "สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก" พร้อมๆ กันไปด้วย

แต่ไม่สับสน เพราะกองภาพยนตร์แต่ละเรื่อง มันต่างกันมากอยู่แล้ว ทั้งสถานที่ที่ไป หรือคนที่แสดงร่วม มันก็คนละบรรยากาศมากอยู่แล้ว "เล่นที 2 เรื่องเหนื่อยมาก เพราะเราต้องปรับตัวเยอะมาก พวกสตั๊นท์เขาบู๊ได้ทั้งวัน เพราะเขาเป็นนักกีฬา แต่เราบู๊แค่ครึ่งวันก็จะตายแล้ว ไม่มีแรงจะเดินเพราะมันเหนื่อยมาก ทั้งเจ็บ ทั้งช้ำ แค่บู๊เล็กๆ น้อยๆ ก็ได้แผลถลอกกลับบ้าน เพลียจนไม่อยากอาบน้ำ เพราะมันมีแต่แผลทั้งตัว

พอวันนี้เป็นหนังแล้วรู้สึกดีใจนะ อยากให้ประสบความสำเร็จ

เพราะเฟิร์นเจ็บแค่นี้ แต่พวกพี่ๆ เขาเจ็บเยอะกว่า มากองแต่ละที เขาก็ได้แผลเพิ่มทุกที จริงๆ ก็ไม่คาดหวังนะ ตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก ก็ไม่กล้าคาดหวังเหมือนกัน แต่เฟิร์นก็ตั้งใจกับหนังทุกเรื่อง ที่ได้รับโอกาสมาอยู่แล้ว อย่างเรื่องนี้ก็พยายามฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดเหมือนกัน อยากขอโอกาสให้ภาพยนตร์เรื่องนี้หน่อย ให้เข้ามาดูกันเพราะน่าดูมากๆ "

ใบเฟิร์นยังกล่าวต่อ ว่าตอนนี้เธอได้เซ็นสัญญากับทางช่อง 7 ไว้ 7 ปี

และเหลือถ่ายละครเรื่องมนต์รักแม่น้ำมูลเพียงเรื่องเดียว นอกจากนี้อาจจะได้เล่นละครคอมเมดี้ รู้สึกดีใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส โดยเฉพาะ ธงชัย ประสงค์สันติ ให้โอกาสได้เล่นละครตลอด ขอทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีก่อน