รับบท “ไอ้ขาม” ในภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาค 3 – 4 ต๊อก-ศุภกร กิจสุวรรณ บอกว่ารู้สึกดีใจที่ได้กลับมาร่วมงานกับท่านมุ้ยอีกครั้ง หลังจากเรื่องสุริโยไท โดยในครั้งนี้ได้แสดงในบทที่แปลกเป็นพิเศษแบบไม่ต้องห่วงหล่อ เพราะ “ไอ้ขาม” เป็นทาสบ้าใบ้ของขุนพลอย-เจ้าของคณะละครสัตว์ ซึ่งเลี้ยงแบบกึ่งคนกึ่งสัตว์ มีชีวิตลำบากลำบนถูกทรมานต่างๆ นานา ฟังรู้เรื่อง พูดไม่ได้ แต่มีความสามารถพิเศษสามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ ภายหลังมีโอกาสช่วยพระราชมนูแล้วขอเป็นทหารจนได้ด้วยความมุ่งมั่น จึงได้รับแต่งตั้งเป็น “นายมหินทรา” และมีความสำคัญในฉากยุทธหัตถีที่อยู่เคียงข้าง พระนเรศวรตลอด เป็นคนที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว จึงพร้อมที่จะไปตายเพื่อชาติ
ท่านมุ้ยยกนิ้วให้ต๊อก “อึดได้ใจ” กับสารพัดบทโหด
หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย ท่านมุ้ยยกนิ้วให้ต๊อก “อึดได้ใจ” กับสารพัดบทโหด
ท่านมุ้ยยกนิ้วให้ต๊อก “อึดได้ใจ” กับสารพัดบทโหด
รับบท “ไอ้ขาม” ในภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาค 3 – 4 ต๊อก-ศุภกร กิจสุวรรณ บอกว่ารู้สึกดีใจที่ได้กลับมาร่วมงานกับท่านมุ้ยอีกครั้ง หลังจากเรื่องสุริโยไท โดยในครั้งนี้ได้แสดงในบทที่แปลกเป็นพิเศษแบบไม่ต้องห่วงหล่อ เพราะ “ไอ้ขาม” เป็นทาสบ้าใบ้ของขุนพลอย-เจ้าของคณะละครสัตว์ ซึ่งเลี้ยงแบบกึ่งคนกึ่งสัตว์ มีชีวิตลำบากลำบนถูกทรมานต่างๆ นานา ฟังรู้เรื่อง พูดไม่ได้ แต่มีความสามารถพิเศษสามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ ภายหลังมีโอกาสช่วยพระราชมนูแล้วขอเป็นทหารจนได้ด้วยความมุ่งมั่น จึงได้รับแต่งตั้งเป็น “นายมหินทรา” และมีความสำคัญในฉากยุทธหัตถีที่อยู่เคียงข้าง พระนเรศวรตลอด เป็นคนที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว จึงพร้อมที่จะไปตายเพื่อชาติ
รับบท “ไอ้ขาม” ในภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาค 3 – 4 ต๊อก-ศุภกร กิจสุวรรณ บอกว่ารู้สึกดีใจที่ได้กลับมาร่วมงานกับท่านมุ้ยอีกครั้ง หลังจากเรื่องสุริโยไท โดยในครั้งนี้ได้แสดงในบทที่แปลกเป็นพิเศษแบบไม่ต้องห่วงหล่อ เพราะ “ไอ้ขาม” เป็นทาสบ้าใบ้ของขุนพลอย-เจ้าของคณะละครสัตว์ ซึ่งเลี้ยงแบบกึ่งคนกึ่งสัตว์ มีชีวิตลำบากลำบนถูกทรมานต่างๆ นานา ฟังรู้เรื่อง พูดไม่ได้ แต่มีความสามารถพิเศษสามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ ภายหลังมีโอกาสช่วยพระราชมนูแล้วขอเป็นทหารจนได้ด้วยความมุ่งมั่น จึงได้รับแต่งตั้งเป็น “นายมหินทรา” และมีความสำคัญในฉากยุทธหัตถีที่อยู่เคียงข้าง พระนเรศวรตลอด เป็นคนที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว จึงพร้อมที่จะไปตายเพื่อชาติ
คาแรกเตอร์แบบนี้ท้าทายดีครับ น่าเล่น เป็นอีกสีสันหนึ่งของเรื่อง แต่ก็เป็นบทที่สมบุกสมบันน่าดูเหมือนกัน โดยที่อายุและน้ำหนักก็เริ่มเยอะขึ้น ต้องกระโดดโลดเต้น มีฉากโลดโผนมากมาย บางครั้งก็ต้องฉีดยาระงับปวดพวกน้องๆ มอร์ฟีนช่วยบ้าง แต่ก็พร้อมลุยเต็มที่ครับ อยากให้ทุกอย่างออกมาดี อยากให้มีคนมาดูกันเยอะๆ ครับ” ต๊อกกล่าว
ด้าน “ท่านมุ้ย”– ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับ ก็แสดงความชื่นชมถึงกับยกนิ้วให้ต๊อก
“เขาอึดได้ใจเลย...มีความพยายามมาก ทุ่มเทเต็มร้อย แล้วก็ทรหดเหนือความคาดหมาย การแสดงร่วมกับสัตว์ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ่ายทำก็ยาก แต่เขาทำเต็มที่...นี่ยังอยากให้เขาตีลังกาด้วยเลย...ไม่รู้จะยอมมั้ย” ท่านมุ้ย กล่าวยิ้มๆ
ด้าน “ท่านมุ้ย”– ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับ ก็แสดงความชื่นชมถึงกับยกนิ้วให้ต๊อก
“เขาอึดได้ใจเลย...มีความพยายามมาก ทุ่มเทเต็มร้อย แล้วก็ทรหดเหนือความคาดหมาย การแสดงร่วมกับสัตว์ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ่ายทำก็ยาก แต่เขาทำเต็มที่...นี่ยังอยากให้เขาตีลังกาด้วยเลย...ไม่รู้จะยอมมั้ย” ท่านมุ้ย กล่าวยิ้มๆ
ในขณะที่ ปีเตอร์ – นพชัย ชัยนาม หรือ พระราชมนู ซึ่งรับ “ไอ้ขาม” มาเป็นผู้ช่วย กล่าวว่า
“พี่ต๊อกรับบทโหดครับ...แต่ละฉากเหนื่อยทั้งนั้น แถมเจ็บตัวเรื่อยๆ ด้วย อย่างฉากแรกที่เจอผม เขาอยากขอมาเป็นทหาร ต้องวิ่งตัดทุ่งมาอย่างไกลเลย ในขณะที่ผมขี่ม้าสบาย..แล้วก็มีฉากหนึ่งที่พี่ต๊อกต้องลอดใต้ท้องม้าของผมซึ่งปกติใครเข้าใกล้มันจะเตะ แถมยังโดนตั้งหลายเทค ถ้าพี่เขารู้กิตติศัพท์จอมเตะของมัน คงหนาว แต่ก็ผ่านไปด้วยดี บางฉากก็ถูกขุนพลอยกระตุกเชือกที่ผูกคอให้ล้ม เพราะเขาถูกเลี้ยงแบบสัตว์ พูดก็ไม่ได้ ต้องใช้ภาษาท่าทางกับน้ำเสียงเท่านั้น ฉากโลดโผนก็เยอะ ประเภทกระโดดลงจากเกวียนแล้วปีนขึ้นต้นไม้ ซึ่งพี่ต๊อกปรับเปลี่ยนวิธีการและสร้างสรรค์ท่าทางไปเรื่อยๆ แบบที่พวกเราเรียกว่า ‘มีของ มาขาย’ เยอะมากเลย เหมือนคนไฮเปอร์ แต่ก็สร้างสีสันได้น่าทึ่งจริงๆ ครับ”
“พี่ต๊อกรับบทโหดครับ...แต่ละฉากเหนื่อยทั้งนั้น แถมเจ็บตัวเรื่อยๆ ด้วย อย่างฉากแรกที่เจอผม เขาอยากขอมาเป็นทหาร ต้องวิ่งตัดทุ่งมาอย่างไกลเลย ในขณะที่ผมขี่ม้าสบาย..แล้วก็มีฉากหนึ่งที่พี่ต๊อกต้องลอดใต้ท้องม้าของผมซึ่งปกติใครเข้าใกล้มันจะเตะ แถมยังโดนตั้งหลายเทค ถ้าพี่เขารู้กิตติศัพท์จอมเตะของมัน คงหนาว แต่ก็ผ่านไปด้วยดี บางฉากก็ถูกขุนพลอยกระตุกเชือกที่ผูกคอให้ล้ม เพราะเขาถูกเลี้ยงแบบสัตว์ พูดก็ไม่ได้ ต้องใช้ภาษาท่าทางกับน้ำเสียงเท่านั้น ฉากโลดโผนก็เยอะ ประเภทกระโดดลงจากเกวียนแล้วปีนขึ้นต้นไม้ ซึ่งพี่ต๊อกปรับเปลี่ยนวิธีการและสร้างสรรค์ท่าทางไปเรื่อยๆ แบบที่พวกเราเรียกว่า ‘มีของ มาขาย’ เยอะมากเลย เหมือนคนไฮเปอร์ แต่ก็สร้างสีสันได้น่าทึ่งจริงๆ ครับ”
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom