สงสารลูกกับหลาน แม่แอนนี่ทรุด

นางระเบียบรัตน์กล่าวต่อว่า ที่พูดไม่ใช่จะเข้าไปยุ่ง ส่วนตัวไม่เคยคิดว่าจะมาสร้าง ข่าวโด่งดังให้คนเขาเกลียดหรือหมั่นไส้ แต่พี่น้องสื่อมวลชนคงมองเห็นว่าอดีตตนเป็น ส.ว. เป็นนายกสมาคมฯ ก็คงอยากจะถามความคิดเห็นถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วบังเอิญว่าตนเป็นคนที่ให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีอคติต่อตัวน้องฟิล์ม หรือใครทั้งสิ้น และไม่ได้บอกว่าใครผิดใครถูก เพราะเรื่องนี้ถ้าจะมองว่าใครผิดก็จะผิดด้วยกันทั้ง 2 คน เพราะเป็นเรื่องของเพศเสรีที่เป็นสังคมไทย จะมาบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว คนอื่นไม่เกี่ยว แต่พอเรื่องมันแดงขึ้นมา ถามว่ามันเกี่ยวคนอื่นหรือไม่ มันก็เกี่ยวหมดเลย ทั้งหน้าที่การงาน คุณพ่อคุณแม่เสียใจจากการกระทำของลูก
   
“พี่เป็นคนพูดอะไรจะยึดหลักการ พี่ไม่ได้ไปนอนกับเขาทั้งคู่ คนที่ออกมาพูดก็ล้วนเป็นบุคคลที่สามทั้งนั้นที่ทำให้ป่วน ก็ขอให้พอได้แล้ว เรื่องนี้คนที่จะสนุกที่สุดคือกลุ่มที่อยากรู้อยากเห็น แล้วสื่อก็มีหน้าที่ มีความจำเป็นในการหาความจริงเพื่อสะท้อนสังคม ส่วนตัวพี่เป็นคนตรงไปตรงมา ถ้าน้อง 2 คนทำไม่ดี พี่ก็ต้องออกมาพูดไม่ได้เห็นแก่หน้าใคร จะถามอีกกี่ครั้งพี่ก็จะพูดอย่างนี้” 
   
อดีต ส.ว.นักรณรงค์ด้านสถาบันครอบครัว กล่าวด้วยว่าคำให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นการกล่าวหาใคร แค่พูดให้เข้าใจ ถ้าจะไปตรวจดีเอ็นเอ หากเกิดกับครอบครัวตน หรือคนที่ตนรู้จักก็จะแนะนำว่าไม่ให้ตรวจอยู่แล้ว เพราะมันยิ่งกว่าการตบหน้าผู้หญิง คือถ้ารู้ว่าเขารักสนุกแล้วคุณไปหลับนอนกับเขา คุณไม่ยิ่งเลวกว่าหรือ นี่คือสิ่งที่เป็นแนวคิดของตน ซึ่งถ้าเป็นครอบครัวตนก็จะไม่ขอรับความช่วยเหลือจากผู้ชายคนนี้ แต่สิ่งที่ฟิล์มออกมาแถลงบอกว่าช่วยเหลือในฐานะเพื่อนร่วมโลก คุณก็ช่วยเหลือกันไป ตนก็ให้สัมภาษณ์ไปในลักษณะนี้ จะมาบอกว่าตนให้สัมภาษณ์แรง ไม่รู้เหมือนกัน แค่พูดตรงไปตรงมาเท่านั้น
   
ด้านความเคลื่อนไหวของฟิล์ม และแอนนี่ บรู๊ค ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้ต่างคนต่างเก็บตัวเงียบ โดยคาดว่าฟิล์มจะอยู่ที่บ้านพักย่านห้วยขวางกับครอบครัว เพื่อดูแลมารดาที่ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลหลังเกิดอาการเครียดจัดจนถูกหามส่ง รพ. เมื่อหลายวันก่อน ขณะที่บรรยากาศที่อาคารดี 1 บ้านสวนธนคอนโดมิเนียม ซอยรัชดาภิเษก 36 ที่พักของแอนนี่ บรู๊ค และ ด.ช.ฑีฆายุ บุตรชายวัย 3 เดือน ก็ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวมากนัก คาดว่านักแสดงสาวกับลูกชายคงเก็บตัวอยู่ในห้องพักตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าทั้งคู่จะปรากฏตัวอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 27 ก.ย.นี้ เนื่องจากฟิล์มอาจจะเข้าพบนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือ “เฮียฮ้อ” เจ้าของบริษัทอาร์เอสฯ อีกครั้ง ขณะที่แอนนี่ก็มีคิวให้สัมภาษณ์รายการตีสิบ เช่นกัน 
   
ขณะที่กระแสของแฟนละครและแฟนเพลง ของทั้งฟิล์มและแอนนี่ที่โทรศัพท์ เข้ามาแสดงความคิดเห็นทั้งที่กอง บก.หนัง สือพิมพ์เดลินิวส์ และในเครือข่ายสังคมออน ไลน์ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ส่วนใหญ่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คืออยากให้ทั้งคู่ออกมาพูดคุยตกลงทำความเข้าใจกัน โดยมีบุคคลที่ทั้งสองเคารพรักเป็นคนกลาง และท้ายที่สุดควรจะต้องมีการตรวจดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์หาความจริง ทั้งนี้เพื่อความบริสุทธิ์ใจของทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งเพื่อเห็นแก่เด็กที่ต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต         
   

ส่วนบรรยากาศที่บ้านพักของนางจันทร์คำ มีเลข อายุ 45 ปี มารดาของ แอนนี่ บรู๊ค ตั้งอยู่ในหมู่ 4 ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามความเป็นอยู่ พร้อมกับนายเชิดโช ตั้งตัว นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.บ้านสา พบว่าแม่ของดาราสาวอยู่บ้านตามปกติกับหลานสาวอายุ 15 ปี นางจันทร์คำเปิดเผยว่า ขณะนี้มีอาการโรคเก่ากำเริบ และอาเจียน ซึ่งเป็นอาการของโรคไทรอยด์ แต่ยังไม่อยากไปพบแพทย์ที่ รพ.ในเมืองลำปาง ทั้งที่แอนนี่ได้โทรฯ สอบถามอาการว่าหากไม่สบายให้ไปพบแพทย์ แต่เนื่องจากตนไม่อยากให้บุตรสาวเป็นห่วง และไม่อยากเป็นข่าวทำให้เกิดความวุ่นวาย 
   
มารดาของแอนนี่ กล่าวต่อว่าในฐานะหัวอกคนเป็นแม่ รู้สึกสงสารลูกสาวกับหลานที่ต้องตกอยู่ในสภาพคล้ายเป็นจำเลยของสังคม ถึงแม้ในส่วนของคนลำปาง และคนอีกจำนวนมากจะเห็นใจแอนนี่ก็ตาม ทุกวันนี้มีคนติดต่อขอพบเพื่อสอบถามกับตนที่บ้าน แต่ตนปฏิเสธไม่อยากให้วุ่นวาย แต่ก็ต้องขอขอบคุณที่หลายฝ่ายเป็นห่วง และอยากมาพบ เพราะทุกวันนี้ตนไม่มีสิทธิจะไปตัดสินหรือชี้ชะตาเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขอให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ทางต้นสังกัดของฟิล์มจะดำเนินการ ส่วนเรื่องราวที่ออกมาเปิดเผยเมื่อครั้งแถลงข่าวที่ผ่านมา ตนไม่คิดอะไร เข้าใจความรู้สึกของเขาดี ที่อาจมีความจำเป็น ต้องกระทำเช่นนี้ ส่วนที่ตนไม่สบายไม่เกี่ยวกับความเครียด หรือคิดมาก แต่เป็นอาการของโรคประจำตัวกำเริบเท่านั้น
   
ด้านนายเชิดโช ตั้งตัว นายกเทศ มนตรีเทศบาล ต.บ้านสา กล่าวว่า ตนได้เข้าไปเยี่ยมเยียนนางจันทร์คำ พบว่าอยู่กับญาติ ๆ และเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่ง ก็รู้สึกดีที่เห็นเพื่อนบ้านออกมาปลอบใจ และให้กำลังใจกัน แต่ก็รู้ว่าเขายังเศร้าหมองอยู่ นางจันทร์คำเล่าให้ฟังว่า เมื่อเย็นวันที่ 24 ก.ย. ลูกสาวโทรฯ มาหาบอกว่าแม่ไม่ต้องคิดมาก เพราะสังคมรับรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ตนจึงถามว่าแล้วตอนนี้ลูกสาวอยู่ที่ไหน นางจันทร์คำบอกว่าไม่รู้ และยังไม่มีกำหนดกลับมาบ้านเกิด จ.ลำปาง.