“ฟิล์ม”กังขาลูกใคร? วอน“แอนนี่”ตรวจดีเอ็นเอ


“ฟิล์ม-รัฐภูมิ” แถลงข่าวเปิดใจด้วยน้ำตา ลั่นขอโทษ วอน “เฮียฮ้อ” ให้โอกาสกลับมาทำงาน ขอ “แอนนี่” ตรวจดีเอ็นเอ


เเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 ก.ย. อาคารเชษฐโชติศักดิ์ 3 ชั้น 7 บริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม ดารานักร้องวัยรุ่นชื่อดัง ได้แถลงข่าวเปิดใจเป็นครั้งที่ 2 ถึงกรณีที่ตกป็นข่าวความสัมพันธ์กับดาราสาว “แอนนี่ บรู๊ค” จนกระทั่งแอนนี่คลอดลูกชายวันสามเดือนชื่อ “น้องฑีฆายุ” ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่แห่ไปทำข่าวอย่างแน่นขนัด โดยฟิล์มมีสีหน้าอิดโรย หน้าตาซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด

จากนั้นพระเอกหนุ่มชื่อดัง กล่าวว่า ตนขอขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนทุกท่าน สำหรับโอกาสที่ให้ตนได้มาพูดในครั้งนี้ ตนต้องพูดตามตรงว่าไม่ได้อยากออกมาพูดเลย แต่ว่าทนรับแรงกดดันจากสังคมไม่ไหวจริงๆ ตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ตนได้มีเวลาคิด และทบทวนกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ถ้าตนโดนคนเดียวตนยอมรับได้ และจะไม่เสียใจเลย แต่ว่าวันนี้คนรอบข้าง คนที่ตนรักทุกคนโดนหมด โดยเฉพาะคุณแม่ของตนที่ถึงกับต้องเข้า รพ. รวมทั้งยังทำให้เฮียฮ้อ และอาซ้อ ที่เปรียบเสมือนพ่อและแม่ของตนผิดหวัง แฟนเพลงตนก็ต้องร้องไห้กับเหตุการณ์ที่ตนทำขึ้นมา และพี่ๆ ทุกๆ คนที่คอยสนับสนุนและให้โอกาสตนมาตลอด
ตนไม่ไหวจริงๆ จึงต้องออกมา อย่างแรกคือกราบขอโทษทุกท่านที่ทำให้เสียใจและเสียน้ำตา รวมถึงความฝันของตนที่อยากเป็นดาราเป็นนักแสดงต้องพังทลายลงไป เพราะความประมาทในชีวิตที่ตนได้ก่อขึ้นมา นอกจากนี้ตนขอโทษแอนนี่ด้วยที่ทำให้เสียใจ ตนคิดว่าเขาน่าสงสารกว่าตนเยอะ ตนยอมรับกับสิ่งที่ตนทำผิดพลาดไปทั้งหมด และยินดีที่จะแก้ไขให้มันดีขึ้น

"ผมยอมแล้วจริงๆ ยอมทุกๆ อย่าง จะทำอะไรก็ได้ ขอให้มันดีขึ้น จะให้ผมไปพูดจากับเขา ผมยอมทุกอย่าง ถ้าจะคุยกันครั้งนี้อยากให้มันเป็นครั้งสุดท้ายและจบลงด้วยดี เพราะผมสงสารเด็กมาก เด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย อยู่ดีๆ ต้องมารับรู้ปัญหาต่างๆ พร้อมกันนี้ผมขอโอกาสพี่ๆ สื่อมวลชนทุกท่าน แฟนๆ ของฟิล์มทุกคน สำหรับความรักที่มีให้ตน ขอขอบคุณเฮียฮ้อกับซ้อและบริษัท พี่ๆ ทีมงานทุกคน พี่พจน์-อานนท์ และทุกๆ คน ผมยอมรับกับสิ่งที่ผมทำไป ผมอยากขอโอกาสกับทุกคน และจะกลับไปขอโอกาสกับเฮียฮ้อให้ผมได้ทำในสิ่งที่ผมรักต่อไป เพราะว่าผมเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องเลี้ยงดูทุกๆ คน และต่อไปผมจะไม่ทำให้ใครผิดหวังอีก”




ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าทางแอนนี่ยืนยันว่าจะไม่ตรวจดีเอ็นเอจะทำอย่างไร
 ฟิล์มกล่าวว่า ตนคงไปบังคับใครไม่ได้ แต่สิ่งที่ตนพูดไปตั้งแต่รู้ว่าเขาท้อง “ผมบอกว่าใช่ลูกของผมหรือเปล่า ผมอยากให้ตรวจ แต่พอผมพูดไป เขาก็ร้องไห้เสียใจ บอกมาว่าไม่เชื่อใจเหรอ ผมก็ปลอบเขาว่าใจเย็นๆ นะ ที่พูดไปไม่ได้ต้องการทำร้ายความรู้สึก แต่ใจผมอยากรู้จริงๆ แต่ไม่รู้จะพูดยังไง ผมพูดเขาก็ร้องออกมา ก็ได้แต่บอกว่าตอนนี้เลี้ยงลูกให้ดีที่สุดก่อน อย่าคิดมาก อย่าทำร้ายเด็ก พยายามปลอบเขาตลอด คือผมก็ไม่อยากทำลายน้ำใจเขาต่อไปอีกแล้ว ผมก็ได้แต่ให้ความช่วยเหลือเขามาตลอด”

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดจะยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งตรวจดีเอ็นเอหรือไม่
 ดาราหนุ่มกล่าวว่า ตนยังไม่รู้ คงต้องรอปรึกษาผู้ใหญ่ แต่ตอนนี้ตนรู้สึกแย่มาก ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ไม่คิดว่าชีวิตตนจะเป็นแบบนี้ วันนี้มันเกินที่ตนจะรับไว้ ตอกแรกคิดว่าอยู่คนเดียวแล้วจะหาย ไปทำวิปัสสนากรรมฐาน แต่ว่าทุกคนกลับไปบีบพ่อแม่ของผม รวมไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตนรัก ทำให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจเพราะสิ่งที่ตนทำเพียงคนเดียว โดยเฉพาะแม่ที่ดูข่าวแล้วร้องไห้เสียใจ สงสารที่ตนไม่มีงานทำ "ความรู้สึกลึก ๆ ผมตายทั้งเป็น ความรู้สึกมันแย่มาก แต่ผมไม่เคยคิดฆ่าตัวตายนะ จริง ๆ แล้วผมอยากบวชมาก เพราะเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พูดมาถึงช่วงนี้ฟิล์มเริ่มมีเสียงสะอื้อและน้ำตาคลอ จนต้องหญิบกระดาษมาเช็ดน้ำตา

ฟิล์มกล่าวอีกว่า ถ้าได้ตรวจดีเอ็นเอแล้วผลออกมาว่าเป็นลูกตนจริง ตนจะดีใจ เพราะได้ทำหน้าที่พ่อคนหนึ่งที่ดี และทำให้สังคมเห็นว่าตนไม่ใช่คนแบบนั้น เพราะตั้งแต่วันแรกตนก็ไม่เคยทอดทิ้ง มีแต่ความจริงใจที่จะมอบให้ จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามเรื่องการตรวจดีเอ็นเอ มันไม่ใช่เรื่องของตนและเขาอีกต่อไปแล้ว เป็นเรื่องครอบครัวของตนและครอบครัวเขา รวมทั้งคนทั้งหมดที่อยากรับรู้

ฟิล์มกล่าวในช่วงท้ายว่า "อย่างที่ผมพูดไปแล้ว ถ้าไปคุยกันสองคนมันคงไม่จบ ผมว่าน่าจะมีคนที่เข้าไปฟังด้วย เช่น พ่อแม่ของเขาและพ่อแม่ของผม เรื่องจะได้จบสักที เพราะตัวผมไม่มีอะไรจริง ๆ ผมอยากให้มีคนกลาง อยากให้เรื่องจบเร็วที่สุด" 
            




ทางด้านนายเสริมศักดิ์ โตคงทรัพย์ หรือพ่อตุ๊ พ่อฟิล์ม ได้เปิดบ้านสวนริมน้ำป่าสักที่ อ.สาไห้ จ.สระบุรี เปิดใจหลังลูกชายแถลงข่าวขอโทษ โดยระบุว่า ฟิล์มได้ทำดีที่สุดแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกผู้ชายควรทำ คือการออกมาขอโทษแฟนคลับและขอโทษทุกฝ่าย ซึ่งฟิล์มก็ถือเป็นตัวอย่างที่วัยรุ่นคาดหวังและเป็นต้นแบบ ซึ่งการใช้ชีวิตผิดพลาดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ฟิล์มก็ได้ทำได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามยังอยากจะให้แอนนี่เห็นแก่เด็กตรวจพิสูจน์เช่นเดิม เพราะทุกอย่างจะได้จบ ตอนนี้สงสารลูกมากเพราะเขาคาดหวังกับชีวิตไว้มาก
           
"สิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกถือว่าเป็นช่วงหนึ่งของชีวิต เพราะมีคนทักเหมือนกันว่าอาจจะมีเคราะห์ช่วงอายุ 25 ปี หรือที่เรียกว่าเบญจเพส แต่ก็ได้ทำบุญมาโดยตลอด ล่าสุดสิ่งที่หมอกฤษ-คอนเฟิร์ม กล่าวไว้หากฟิล์มไม่เกิดเรื่องนี้ก็อาจจะมีชะตาชีวิตเช่นเดียวกับบิ๊ก-ดีทูบี ทำให้ผมและครอบครัวก็เป็นห่วงเหมือนกัน" พ่อฟิล์ม กล่าว
      
ส่วนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม เกี่ยวกับแง่มุมของกฎหมาย ถึงข่าวฉาวของฟิล์ม-รัฐภูมิ ว่าทางออกที่ดีที่สุด หากฝ่ายชายต้องการให้ตรวจดีเอ็นเอเด็ก เพื่อให้เกิดความโปร่งใสชัดเจน แต่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอม ก็สามารถใช้กระบวนการยุติธรรมทางศาล เพื่อให้ศาลสั่งให้มีการตรวจดีเอ็นเอ แต่หลักการสำคัญฝ่ายชายจะต้องร้องขอต่อศาล โดยแสดงเจตนาชัดเจนว่าประสงค์จะรับรองเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่จะขอตรวจดีเอ็นเอก่อนแล้วจึงค่อยรับผิดชอบ ซึ่งหากศาลสั่งให้ตรวจดีเอ็นเอเด็ก แม่ของเด็กก็คัดค้านไม่ได้ และถือเป็นการคุ้มครองสิทธิเด็กที่มีสิทธิจะรู้ว่าใครเป็นพ่อ หากผลตรวจปรากฏว่าไม่ใช่พ่อเด็กก็จะไม่สั่งให้รับรองบุตร อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน หากฝ่ายหญิงต้องการตรวจดีเอ็นเอเด็ก เพื่อให้มีการรับรองบุตร ก็สามารถใช้กระบวนการยุติธรรมทางศาลบังคับได้เช่นกัน
                  
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่อาคารดี 1 บ้านสวนธน รัชดาภิเษก คอนโดมิเนียม ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9 ซึ่งเป็นห้องพักของแอนนี่ บรู๊ค ปรากฏว่าตั้งแต่ช่วงเช้าดาราสาวไม่ได้เดินออกไปไหน ยังคงเก็บตัวอยู่ภายในห้องพัก รวมทั้งรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นโฟกัส หมายเลขทะเบียน สต 9854 กทม. ซึ่งเป็นรถของดาราสาวก็จอดอยู่ที่ลานจอดรถภายในคอนโดที่เดิม ไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายไปไหน จนเมื่อช่วงสายของวันนี้คนสนิทของแอนนี่ได้ขึ้นไปเยี่ยมดาราสาวที่ห้องพัก  ซึ่งดาราสาวและน้องฑีฆายุมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ทั้งนี้ทางแหล่งข่าวคนสนิทของแอนนี่เล่าว่า ภายในห้องพักของแอนนี่มีอาหารที่เตรียมเก็บไว้เป็นเสบียงอยู่มากพอสมควร ทั้งนี้ หลังจากที่ทางฟิล์มได้ออกมาแถลงข่าวเปิดใจขอโทษกับทุกๆ คน รวมทั้งแอนนี่ เมื่อช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ ทางด้านแอนนี่ก็ยังไม่มีท่าทีที่จะแสดงตัวออกมา หรือให้ความเห็นใด ๆ ยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ภายในห้องพัก.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์