แอนนี่ทำอนาคตโกอินเตอร์ฟิล์มสะดุด

 ซึ่งงานที่หลายคนจับตามองและลุ้นว่าจะเป็นอย่างไร นั่นคือ เขากำลังจะมีอัลบั้มเดี่ยว "ฟิล์ม ไคลแม็กซ์" ที่จะปล่อยซิงเกิ้ล เฟซ ทู เฟซ โดยร่วมร้องเพลงกับ เจอา บราวน์อายด์เกิร์ล ศิลปินชื่อดังจากเกาหลีในสัปดาห์นี้ ซึ่งเฮียฮ้อก็พูดเสียงดังฟังชัดว่าต้องเลื่อนไปก่อน ครั้งหนึ่งฟิล์มเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับงานชิ้นโบแดงนี้ว่า

 "ต้องบอกว่าอาร์เอสมีนโยบายการบุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเอเชียบ้านเรา ก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส ทำให้ผมมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น ถ้าวันหนึ่งโอกาสนั้นมาถึง ผมก็คงต้องเตรียมความพร้อมรับกับงานหนักที่จะเข้ามา และผมจะลบคำสบประมาทของชาวต่างชาติที่บางครั้งอาจจะดูถูกเพลงไทย ก็หวังว่าจะมีโอกาสและเป็นอีกหนึ่งคนที่ทำให้เพลงไทยเป็นที่ชื่นชอบของชาติอื่นๆ บ้าง กับอัลบั้มชุดนี้ ผมต้องซ้อมเต้นหนักหน่อย เพราะอัลบั้ม ฟิล์ม ไคลแม็กซ์ นั้นเป็นอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 ของผม อยากให้คนที่ติดตามงานของผม เห็นว่าเราพัฒนา แตกต่างจากเดิมจริงๆ" ฟิล์มกล่าวถึงงานอันเลิศหรูที่ดูเหมือนจะส่อแววริบหรี่ซะแล้ว

 ถัดมาคืองานภาพยนตร์เรื่อง บางกอกกังฟู ของ ฟิล์ม อาอัส บริษัทในเครือของอาร์เอส ที่มี องอาจ สิงห์ลำพอง นั่งแท่นเป็นผู้บริหาร โดยมี ยุทธเลิศ สิปปภาค เป็นผู้กำกับ ร่วมด้วยนักแสดงชื่อดัง อารักษ์ อมรศุภศิริ มาริโอ เมาเร่อ ตอนนี้ต้องระงับการถ่ายทำในส่วนของฟิล์มออกไป

“ตอนนี้เรียนเยอะมาก นอกจากเรียนกังฟูและยิมนาสติกแล้ว ยังเรียนกับทีมสตันต์ คิวแอ็กชั่น ส่วนท่าตีลังกาก็เรียนเบสิกแทบทั้งหมด เพราะกันความผิดพลาด ทำเอาตอนนี้ลดไป 10 กิโล เรื่องนี้ยังไม่เริ่มถ่ายจริง เพราะผมจะเริ่มถ่าย 24 กันยายนนี้ ตอนนี้ก็ซ้อมเต็มที่" ฟิล์มเคยกล่าวถึงบทบาทในหนัง บางกอกกังฟู ที่ดูเหมือนเขาอาจจะไม่ได้เล่นซะแล้ว

 นอกจากนี้ยังมีงานคอนเสิร์ต เอเชี่ยน ซอง เฟสติวัล 2010 ที่จะมีขึ้นใน 23-27 ตุลาคม ที่ประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นการได้โกอินเตอร์ของเขาครั้งแรกต้องสะดุด ก็ต้องยกเลิกไปเช่นกัน โดยฟิล์มเคยกล่าวเอาไว้อย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับงานครั้งนี้ว่า

 "เร็วๆ นี้ ผมก็จะเป็นตัวแทนศิลปินไทยไปร่วมโชว์ในงาน เอเชี่ยน ซอง เฟสติวัล 2010 และทำหน้าที่ทูตฮาบิแทตต่อด้วยที่เกาหลี ซึ่งก็เป็นแนวทางการทำงานที่เป็นสากล เพราะคนดังทั่วโลกเขาก็ทำงานควบคู่ไปกับกิจกรรมเพื่อสังคม" ฟิล์ม กล่าว

  ส่วนงานเป็นทูตมูลนิธิ ที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ ประเทศไทย (Habitat for Humanity Thailand) ที่เขาพูดถึง รวมไปถึงทูตส่งเสริมวัฒธรรมไทย-เกาหลี นั้นทางอาร์เอส ไม่มีอำนาจในการสั่งถอดถอน ต้องขึ้นอยู่กับทางมูลนิธิ ซึ่งเชื่อว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว น่าจะส่งผลกระทบให้ฟิล์มไม่มากก็น้อย เนื่องจากภาพลักษณ์และพฤติกรรมของศิลปิน ย่อมมีส่วนสำคัญอย่างมากกับตำแหน่งนี้

 หากไม่เหลืองานในวงการบันเทิงอีก ทว่าอย่างน้อยเขาก็ยังมีบริษัททัวร์ ชิวเอาท์ เลเชร์ ซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัวที่เขาทำอยู่ในขณะนี้ หากแต่ว่ากระสังคมแรงขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะยังมีคนซื้อทัวร์ของเขาอยู่หรือเปล่า

  แถมทั้งหลายทั้งปวง การระงับงานของเฮียฮ้อครั้งนี้ เป็นการระงับอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าเรื่องราวจะคลี่คลาย ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่

 ทั้งนี้ภายหลังจากที่ศิลปินค่ายอาร์เอสทยอยกันหมดสัญญา และไม่เซ็นสัญญาต่อ ส่งผลให้ฟิล์มกลายเป็นศิลปินเบอร์ 1 ของค่ายไปโดยปริยาย หลายคนมองว่าอาร์เอสแทบไม่เหลือใครที่พอจะขายได้ ทางเฮียฮ้อจึงผลักดันอย่างสุดตัว ป้อนงานที่ดีให้เป็นจำนวนมาก และได้ลงทุนกับฟิล์มไปแล้วเป็นเงินไม่น้อย หากต้องมาสะดุดเพราะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำให้บริษัทสูญเงินไปอย่างมหาศาล

  การออกมาแถลงในครั้งนี้ อาจเป็นการยืดอกแสดงความรับผิดชอบของต้นสังกัด หรือเป็นเพียงแค่ต้องการจัดฉาก ลดความกดดันจากกระแสสังคม เพื่อรอให้เรื่องราวเบาบางลง และตัวแปรสำคัญอยู่ที่ตัวแอนนี่ ว่าจะเปลี่ยนใจตรวจดีเอ็นเอหรือไม่ และสุดท้ายเป็นลูกใครกันแน่ นับว่าเป็นหนังม้วนยาวที่รอการพิสูจน์ เรียกว่าห้ามกะพริบตากันเลยทีเดียว