แม่แอนนี่ไม่ง้อ! หากฟิล์มไม่รับ หลานคนเดียวเลี้ยงได้

แม่แอนนี่ บรู๊คลั่น! ไม่ง้อนักร้องดัง "ฟิล์ม" ปฏิเสธไม่ใช่พ่อของลูก จะขอเลี้ยงหลานเองที่ลำปาง ภูมิใจชาวแจ้ห่มเข้าใจลูกสาว วอนสังคมส่งเสริมลูกให้มีงานเยอะๆ เพื่อจะนำเงินมาเลี้ยงลูก ...

เมื่อ เวลา 08.30 น. วันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 160 หมู่ 4 บ้านสา ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เพื่อติดต่อขอพบนางจันทร์คำ หรือน้อย มีเลข อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ แอนนี่ บรู๊ค นักแสดงเซ็กซี่ และเป็นแม่ของน้องทีฑายุ ซึ่งเกิดจากซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ นักแสดง นักร้องชื่อดัง ค่ายอาร์เอส เมื่อพบนางจันทร์คำ ซึ่งกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านที่เป็นบ้านบังกะโลชั้นเดียว อยู่ในเนื้อที่คับแคบโดยมีหลานสาวที่มาอาศัยคอยช่วย และดูแลไม่ห่าง

ต่อ มาทางนางจันทร์คำ ได้นำรูปภาพของลูกสาวแอนนี่ที่วางอยู่บนตู้เย็นนำมาอวดความน่ารักความสวยงาม ของลูกสาว

พร้อมระบายความในใจว่า แอนนี่เป็นลูกสาวคนเดียวของตนเองที่เกิดจากสามีชาวอังกฤษที่ชื่อ จอห์น เมื่อ 20 ปีก่อน ตนเองได้เดินทางไปเป็นแม่บ้านอยู่ที่กรุงเทพฯ จนกระทั่งรู้จักกับจอห์น และได้อยู่กินอย่างสามีภรรยาเมื่อตนเองตั้งท้องแอนนี่ได้ 2-3 เดือน พ่อของแอนนี่ก็เดินทางกลับไปยังประเทศอังกฤษ และขาดการติดต่อมาจนถึงปัจจุบัน

นาง จันทร์คำ กล่าวต่อว่า ตนรู้การปฏิเสธของพระเอกฟิล์มตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อครั้งที่ลูกสาวบอกว่าตั้งท้อง

อีกทั้งแนะนำว่าหากพระเอกฟิล์มอายที่จะตรวจเลือดในบ้านเราก็ให้ไปตรวจที่ ต่างประเทศ แต่ฝ่ายชายก็ยังดื้อยืนยันท่าเดียวว่าจะไม่ตรวจ แต่เมื่อเรื่องแดงขึ้นฝ่ายชายกลับไม่รับเป็นพ่อ ตนเองจะขอเลี้ยงหลานเอง แม้ครอบครัวจะยากจนแต่ก็ชินชาแล้ว เมื่อครั้งเลี้ยงลูกแอนนี่ตั้งแต่เล็กๆ ก็ยังเลี้ยงได้จนโตเป็นดารา แต่ก็ภูมิใจที่คนลำปางตลอดจนชาวแจ้ห่มเข้าใจและเห็นใจแอนนี่ไม่มีใครซ้ำเติม ลูก อีกทั้งลูกสาวมีความผูกพันกับเด็กๆ มาก กลับมาลำปางครั้งใดก็จะนำอาหารไปเลี้ยงเด็กที่โรงเรียนบ้านสาเป็นประจำ

และวอนสังคมส่งเสริมลูกด้วยให้ลูกแอนนี่มีงานเข้ามากๆ จะได้มีเงินมาเลี้ยงลูกที่ไม่มีพ่อ

แม่ของนักแสดงเซ็กซี่ กล่าวด้วยว่า ทุกวันนี้ตนเองก็มีความสุขดี อยู่กับบ้านโดยมีหลานสาวอายุ 15 ปี ชื่อครีม ซึ่งเป็นหลานสาวที่แอนนี่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กๆ มาอาศัยอยู่เพื่อดูแลตน เนื่องจากทุกวันนี้ตนป่วยเป็นโรคไทรอยด์ ต้องไปหาหมอเป็นประจำ ซึ่งลูกแอนนี่มักจะโทรมาสอบถามอาการเป็นประจำว่าไปพบแพทย์หรือยัง เนื่องจากเขาเป็นห่วงแม่มาก.