อั้มซี้ปี้กป๋อ แฉไอ้ดำติดบีบี

           พระเอกเล่นกล้าม อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวสนิทกับป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ ที่นำแสดงละครคู่เดือดด้วยกัน ถึงกับเป็นเทรนเนอร์ให้ป๋อในการเพาะกล้าม ว่า

“เรียกว่าแนะนำดีกว่าครับ ไม่ได้ไปเทรนอะไรให้พี่ป๋อ พี่ป๋อเขาถามว่าเขาอยากเพิ่มตรงนี้ต้องทำอย่างไร เราก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็ไปหาเทรนเนอร์ของผม ซึ่งเขามีฟิตเนสอยู่ไม่ไกลบ้านพี่ป๋อ ตอนนี้เขาเลยเทรนกันอยู่

 เมื่อถามถึงการเป็นเพื่อนสนิทคู่ใหม่กับป๋อ พระเอกอั้มกล่าวว่า
         “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ อย่างตอนแรกเขาไม่ใช้บีบี เขาบอกว่าบีบีมันสังคมเกินไปหน่อย ตอนนี้พี่ป๋อเพิ่งซื้อมา หลังเห็นคนในกองถ่าย ทำให้อิจฉา คนนั้นคนนี้ส่งหากัน มาตอนนี้พี่ป๋อติดบีบีมาก ตอนนี้เขาส่งหาทุกคนจนไม่เป็นอันทำงานครับ เพราะต้องส่งบีบีกลับหาพี่ป๋อ (หัวเราะ)

ตอนนี้ทุกคนก็จะต้องร่วมเห่อกับพี่ป๋อนิดนึง เพราะเขาเพิ่งมีบีบีครั้งแรก จริงๆ พี่ป๋อเป็นคนที่เข้ากับคนได้ง่ายอยู่แล้วและทีมงานก็คุ้นเคยกันอยู่แล้ว เพราะมาจากดาราวิดีโอ ซึ่งพี่ป๋อเคยร่วมงานกันมาก่อน ก็เหมือนเป็นโรงเรียนเด็กผู้ชายมาเจอกัน มีฉากแอ๊กชั่นก็สนุกกันไป ว่างๆ ก็จัดทีมแข่งฟุตบอลกัน”

 ถามว่า ตั้งฉายาในกองละครคู่เดือดหรือไม่ อั้มกล่าวว่า
          ไม่มีเลยครับ ก็จะเรียกพี่ป๋อว่า "ไอ้ดำ" เลยครับ เพราะในเรื่องเขาชื่อดำอยู่แล้ว เราเรียกตัวละครตัวนี้ก็คือดำตลอด มันก็ชัดเจนมาก พี่ป๋อไม่มีโกรธครับ เพราะไม่ได้ว่าพี่ป๋อนอกเวลางาน แต่บางทีเราเข้าฉากก็จะพูดชื่อไอ้ดำ มันได้อารมณ์ และในเรื่องผมก็ชื่อขาว เขาก็เรียก "ไอ้ขาว" ครับ พี่ป๋อถามเหมือนกันว่าทำอย่างไรให้ผิวขาว เราก็แนะนำว่าใช้ครีมกันแดดแล้วกัน จริงๆผมก็ไม่ค่อยได้ใช้แต่รู้มาว่าคนที่ใช้พวกนี้ก็จะขาว ถ้าเกิดพี่ป๋อขาวก็จะยินดีครับก็จะทำธุรกิจร่วมกันเขาจะขายพวกไวท์เทนนิ่ง หรือครีมกันแดด คุยกันไว้แล้วว่าจะมีแบบบีฟอร์ แอนด์ อาฟเตอร์”

 เมื่อถามถึงเรื่องบริษัทกุมภาพันธ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง อั้มกล่าวว่า
           “ก็โอเคครับ เรื่อยๆครับ จริงๆเป็นบริษัทที่เปิดมานานแล้วมันก็รองรับงานทั่วไปที่ผมมีอยู่แต่ว่าในเรื่องอนาคตก็ดูๆไว้อยู่ว่าจะเป็นงานในด้านบันเทิงด้านอื่น หรือาจจะจับธุรกิจด้านอื่นด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรพิเศษที่จะเปลี่ยนแปลง ณ ตอนนี้ครับ”

 ถามว่า ชวนนัท มีเรีย มาร่วมหุ้นด้วยหรือเปล่า อั้มกล่าวว่า 
         “ยังไม่ได้คุยอะไรกัน  เดี๋ยวค่อยๆดูไปดีกว่าเดี๋ยวเกิดมันพลาดพลั้งไปมันจะล้มทั้งสองคน ค่อยๆเป็นบทเรียนกันไปดีกว่ายังไม่รีบดีกว่าครับ”