เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์รายงานว่า เมื่อ 19 ส.ค. ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ทรงเปิดกล้องภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง "พันท้ายนรสิงห์" ที่ โรงถ่ายภาพยนตร์บริษัท พร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอ จากนั้นประทานสัมภาษณ์ว่า
“เรื่องนี้ถ่ายทำด้วยระบบดิจิตอลใช้เป็น 440 เค หมายถึงว่าความละเอียดจะสูงมากเลย เอามาเป็นหนังได้เลย ตอนนี้ผมคุยกับคุณประวิทย์ (มาลีนนท์) ว่า อยากจะทำเอาภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องนี้ไปฉายที่เกาหลี เพราะที่ผ่านมาหนังเกาหลีแนวนี้มาฉายในบ้านเราเยอะแล้ว อยากแสดงแสนยานุภาพของเราเลยจำเป็นต้องใช้กล้องดีๆ ในการถ่ายทำ ซึ่งกล้องตัวนี้ผมก็ใช้ถ่ายหนังเพชรพระอุมา ด้วย”
สำหรับเนื้อหา เรื่องนี้จะเกิดขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าเสือ แต่ของเราย้อนกลับไปถึงสมัยของพระเพทราชา เพราะฉะนั้นเราจะมีเรื่องราวมากกว่าจากพันท้ายฯ ทั่วไป คนดูจะได้รู้ประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยพระนารายณ์ฯ มาจนถึงปลายสมัยของสมเด็จพระเจ้าเสือ
เมื่อถามถึงนักแสดงแต่ละคนที่มาร่วมงาน ท่านมุ้ยตรัสว่า “ยากมาก โจทย์แรกคือเราต้องหานางเอก (มัดหมี่ พิมพ์ดาว พานิชสมัย) และเพื่อนๆ นางเอกพระเอกก่อน เพราะพวกนี้ต้องใช้เวลานานมากกว่าที่จะปรับตัวให้มาเป็นชาวนาชาวทุ่ง จะต้องไถนาเป็นเราก็ต้องเอาครูมาสอนกันเลย นางเอกผมจะต้องขี่ควายได้ อีกอย่างคือเราต้องการลบภาพของปาร์ตี้เกิร์ลอย่างแคล(แคลอรีน) หรือสาวไฮโซอย่างมัดหมี่ ให้กลายเป็นสาวชาวนาให้ได้
นอกจากนี้เราพยายามเอาขนบธรรมเนียมไทยมาใส่ในภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องนี้มาก เช่น การต่อยมวยไทย เพลงเกี่ยวข้าว เพลงเรือ การทำไร่ไถนา คือทุกอย่างเราต้องฝึกให้นักแสดงทำให้ได้จริงๆ เรื่องนี้เลยใช้เวลาในการคัดเลือกนักแสดงนานมาก
สำหรับ ป๋อ ณัฐวุฒิ ทีแรกไม่ได้คัดไว้ เพราะตอนนั้นป๋อยังอยู่ช่อง 7 แต่พอป๋อเขามาที่ช่อง 3 เราก็ปรึกษาทางผู้ใหญ่ทางช่องว่าถ้าเอาป๋อมาเล่นจะได้มั้ย เพราะป๋อนี่เขาคิวเยอะมาก แต่สุดท้ายก็ได้คิวป๋อจนได้ ในเรื่องของความเหมาะสมป๋อนี่เขามีความตั้งใจและความพยายามสูงมาก เราเจอครั้งแรกตอนที่เขาเข้ามาคือผมเขาสั้น เราก็มองว่าใช้ได้นะเพราะถ้าผมยาวก็คงไม่ได้ แต่ติดอย่างหนึ่งคือรูปร่างป๋อจริงๆ เขาค่อนข้างบึกบึนก็ต้องเอายางออกจากพุงก่อน เพราะยังมีอยู่นิดหน่อย
https://www.facebook.com/teeneedotcom