คู่ซี้เซเลบฯสาว “ครี-พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัครภา” กับดาราสาวอกภูเขาไฟ “อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ” เริ่มเกิดอาการหมั่นไส้ไม่กินเส้นกันเสียแล้ว เหตุอันเนื่องมาจากแข่งกันแย่งซีนความดัง ในการโปรโมทหนังเรื่อง “น้ำตาลแดง”ที่ทั้งคู่ต่างคนต่างชิงดีชิงเด่น โดยเฉพาะในช่วงการเดินสายโปรโมทหนังเรื่องดังกล่าว แม้จะมีข่าวเกาเหลาแต่เบื้องหน้าทั้งสองยังใส่หน้ากากยิ้มให้กัน แต่เบื้องหลังเมื่อเจอกันในงานต่างๆกลับไม่แม้แต่จะหน้ากันเลย
ครียันอัพไซส์!แซงจุกอุ้ม-ลัคขณา
สาวลีโอเกิร์ลไฮโซคนดัง“ครี”โต้อัพไซด์ฟืตอึ๋มลือเหตุหมั่นไส้ “อุ้ม” เม้าท์กันสนั่นเน็ต
คู่ซี้เซเลบฯสาว “ครี-พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัครภา” กับดาราสาวอกภูเขาไฟ “อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ” เริ่มเกิดอาการหมั่นไส้ไม่กินเส้นกันเสียแล้ว เหตุอันเนื่องมาจากแข่งกันแย่งซีนความดัง ในการโปรโมทหนังเรื่อง “น้ำตาลแดง”ที่ทั้งคู่ต่างคนต่างชิงดีชิงเด่น โดยเฉพาะในช่วงการเดินสายโปรโมทหนังเรื่องดังกล่าว แม้จะมีข่าวเกาเหลาแต่เบื้องหน้าทั้งสองยังใส่หน้ากากยิ้มให้กัน แต่เบื้องหลังเมื่อเจอกันในงานต่างๆกลับไม่แม้แต่จะหน้ากันเลย
คู่ซี้เซเลบฯสาว “ครี-พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัครภา” กับดาราสาวอกภูเขาไฟ “อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ” เริ่มเกิดอาการหมั่นไส้ไม่กินเส้นกันเสียแล้ว เหตุอันเนื่องมาจากแข่งกันแย่งซีนความดัง ในการโปรโมทหนังเรื่อง “น้ำตาลแดง”ที่ทั้งคู่ต่างคนต่างชิงดีชิงเด่น โดยเฉพาะในช่วงการเดินสายโปรโมทหนังเรื่องดังกล่าว แม้จะมีข่าวเกาเหลาแต่เบื้องหน้าทั้งสองยังใส่หน้ากากยิ้มให้กัน แต่เบื้องหลังเมื่อเจอกันในงานต่างๆกลับไม่แม้แต่จะหน้ากันเลย
เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้เจาะจนรู้ว่า สาเหตุมาจากเต้าที่มีอยู่น้อยนิดของสาวครีนั่นเอง จึงทำให้เธอเกิดอาการหมั่นไส้สาวอุ้ม
ที่ใช้หน้าอกอันมหึมาแย่งซีนความดังไปหมด ทำให้ผู้สื่อข่าวและช่างภาพต่างให้ความสนใจในตัวเธอน้อยลง ทำให้สาวครีตัดสินใจไปอัพไซด์ของตนเองให้บึ้ม เพื่อสู้ศึกประชันเต้ากับเพื่อนรัก โดยเธอไม่แคร์ต่อเสียงคัดค้านจากคนรอบข้างแม้แต่น้อย เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเปิดใจ สาวครี
ซึ่งเธอก็ปฏิเสธถึงข่าวลือดังกว่าว่า
“ไม่จริง..เลยพี่ หนูยืนยันว่าไม่ได้เกาเหลากันอย่างที่ได้ยินมา เรายังสนิทกันดี ไม่ได้หมั่นไส้กันเลยแต่ถ้าถามว่าเรื่องนี้เคยได้ยินไหม..ได้ยิน..ก็ตั้งแต่หนูเริ่มทำหน้าอกมานี่แหละ ซึ่งมันก็เพิ่งจะ2 อาทิตย์กว่าๆเอง ส่วนตัวหนูไม่อะไรอยู่แล้ว เวลาเจอะอุ้มตามงานต่างๆ หนูก็ทักกันนะ เพียงแต่ว่าบางจะหวะมันอาจจะ กำลังยุ่งๆด้วยกันก็เลยทำให้หลายคนมองว่าเราไม่พูดกันไม่ถูกกัน แต่หนูรับรองว่าไม่ได้มีการหมั่นไส้อุ้มเพราะหน้าอกใหญ่แล้วแย่งซีนไปหมด จนต้องไปทำนมมาเพื่อแข่งกันดัง ถ้าพี่ไม่เชื่อก็ลองไปถามอุ้มดูก็ได้หรือไม่ก็เรียกมาสัมภาษณ์คู่กันลองมาจับผิดกันเลยก็ได้ แต่ถ้าถามกันจริงๆเรื่องอิจฉามีไหม มันก็มีบ้างเล็กๆตามประสาผู้หญิง
ที่ใช้หน้าอกอันมหึมาแย่งซีนความดังไปหมด ทำให้ผู้สื่อข่าวและช่างภาพต่างให้ความสนใจในตัวเธอน้อยลง ทำให้สาวครีตัดสินใจไปอัพไซด์ของตนเองให้บึ้ม เพื่อสู้ศึกประชันเต้ากับเพื่อนรัก โดยเธอไม่แคร์ต่อเสียงคัดค้านจากคนรอบข้างแม้แต่น้อย เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเปิดใจ สาวครี
ซึ่งเธอก็ปฏิเสธถึงข่าวลือดังกว่าว่า
“ไม่จริง..เลยพี่ หนูยืนยันว่าไม่ได้เกาเหลากันอย่างที่ได้ยินมา เรายังสนิทกันดี ไม่ได้หมั่นไส้กันเลยแต่ถ้าถามว่าเรื่องนี้เคยได้ยินไหม..ได้ยิน..ก็ตั้งแต่หนูเริ่มทำหน้าอกมานี่แหละ ซึ่งมันก็เพิ่งจะ2 อาทิตย์กว่าๆเอง ส่วนตัวหนูไม่อะไรอยู่แล้ว เวลาเจอะอุ้มตามงานต่างๆ หนูก็ทักกันนะ เพียงแต่ว่าบางจะหวะมันอาจจะ กำลังยุ่งๆด้วยกันก็เลยทำให้หลายคนมองว่าเราไม่พูดกันไม่ถูกกัน แต่หนูรับรองว่าไม่ได้มีการหมั่นไส้อุ้มเพราะหน้าอกใหญ่แล้วแย่งซีนไปหมด จนต้องไปทำนมมาเพื่อแข่งกันดัง ถ้าพี่ไม่เชื่อก็ลองไปถามอุ้มดูก็ได้หรือไม่ก็เรียกมาสัมภาษณ์คู่กันลองมาจับผิดกันเลยก็ได้ แต่ถ้าถามกันจริงๆเรื่องอิจฉามีไหม มันก็มีบ้างเล็กๆตามประสาผู้หญิง
เห็นเขาหน้าอกฟูๆ กัน เราก็อยากจะมีบ้าง ใส่เสื้อผ้าแล้วมันดูดีถ่ายแบบก็สวย และอีกอย่างงานของหนูพักหลังๆเริ่มที่จะออกแนวเซ็กซี่มากขึ้น
เรื่องชุดว่ายน้ำมันก็เลยเป็นเรื่องที่หนีไม่พ้น หนูไม่อยากที่จะต้องมาใส่ดันทรงถ่ายแบบให้มันแลบไปแลบมาสร้างความลำบากให้ช่างภาพแล้วก็ตัวเองต้องมานั่งระแวงอีก และหลักๆที่ตัดสินใจทำหน้าอก ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหนูมาก ก็คือว่ามันเก็บกดมานานก็ว่าได้ เพราะหนูโดนทักมาตั้งแต่ประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สจนเสียความมั่นใจไปทีนึงแล้ว แล้วที่หนักๆเลย
ก็ตอนที่ไปงาน FHM ล่าสุดที่ผ่านมา คนอื่นเขาอกฟูๆกันหมด มีเรานี่ต้องใส่ดันทรงโกยขึ้นมาให้มันมีจะได้ไม่อายเขา
ซึ่งหนูต้องทำทุกครั้งที่ต้องออกงานซึ่งมันก็ต้องเจ็บทุกครั้ง และที่สำคัญวันนั้นหนูอายมากเพราะดันหน้าอกเสียจนมันเสียรูปจนน่าเกลียด หัวนนเกือบโผล่จนเพื่อนมาทัก ช่างภาพบางคนเห็นก็มาบอกด้วยความหวังดี นับจากวันนั้นหนูก็เลยตัดสินใจปรึกษาหมอจนได้ทำ ซึ่งมันก็ไม่ได้ใหญ่มากอะไร หมอเขาก็ทำให้ก็ได้ประมาณคัพ c ก็หมดไปแสนกว่าๆ ก่อนทำก็กลัวเสียจนนอนไม่หลับ กลัวเรื่องการดมยา กลัวไปสารพัด พอฟื้นขึ้นมาได้ก็รู้เลยว่าที่เขาพูดๆกันว่ารถสิบล้อวิ่งทับอกมันเป็นอย่างไร หนูรู้สึกเลยว่ามันเหมือนก้อนหินก้อนใหญ่ๆมันทับอยู่บนหน้าอกเรา จนมาถึงวันนี้ก็โอเคแล้ว ค่ะ”
เรื่องชุดว่ายน้ำมันก็เลยเป็นเรื่องที่หนีไม่พ้น หนูไม่อยากที่จะต้องมาใส่ดันทรงถ่ายแบบให้มันแลบไปแลบมาสร้างความลำบากให้ช่างภาพแล้วก็ตัวเองต้องมานั่งระแวงอีก และหลักๆที่ตัดสินใจทำหน้าอก ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหนูมาก ก็คือว่ามันเก็บกดมานานก็ว่าได้ เพราะหนูโดนทักมาตั้งแต่ประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สจนเสียความมั่นใจไปทีนึงแล้ว แล้วที่หนักๆเลย
ก็ตอนที่ไปงาน FHM ล่าสุดที่ผ่านมา คนอื่นเขาอกฟูๆกันหมด มีเรานี่ต้องใส่ดันทรงโกยขึ้นมาให้มันมีจะได้ไม่อายเขา
ซึ่งหนูต้องทำทุกครั้งที่ต้องออกงานซึ่งมันก็ต้องเจ็บทุกครั้ง และที่สำคัญวันนั้นหนูอายมากเพราะดันหน้าอกเสียจนมันเสียรูปจนน่าเกลียด หัวนนเกือบโผล่จนเพื่อนมาทัก ช่างภาพบางคนเห็นก็มาบอกด้วยความหวังดี นับจากวันนั้นหนูก็เลยตัดสินใจปรึกษาหมอจนได้ทำ ซึ่งมันก็ไม่ได้ใหญ่มากอะไร หมอเขาก็ทำให้ก็ได้ประมาณคัพ c ก็หมดไปแสนกว่าๆ ก่อนทำก็กลัวเสียจนนอนไม่หลับ กลัวเรื่องการดมยา กลัวไปสารพัด พอฟื้นขึ้นมาได้ก็รู้เลยว่าที่เขาพูดๆกันว่ารถสิบล้อวิ่งทับอกมันเป็นอย่างไร หนูรู้สึกเลยว่ามันเหมือนก้อนหินก้อนใหญ่ๆมันทับอยู่บนหน้าอกเรา จนมาถึงวันนี้ก็โอเคแล้ว ค่ะ”
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
https://www.facebook.com/teeneedotcom