บทเรียน มาร์ค V11 เอเอฟสกรีนเด็กระวังสื่อออนไลน์

"ทรูฯ" มีบทเรียนจาก "มาร์ค วี11" เอเอฟซีซั่นหน้า ลงลึกรายละเอียดผู้สมัคร ทั้งนี้ ศุภชัย เจียรวนนท์

ประ ธานกรรมผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทแม่ "ทรูวิชั่นส์" ผู้ผลิตรายการ ทรู อคาเดมี แฟนเทเชีย หรือ เอเอฟ เผยว่า

"หลังเกิดเหตุการณ์มาร์ค วี11(วิทวัส ท้าวคำลือ) ผมคิดว่าในซีซั่นต่อไปเราต้องดูให้ลึก เราทำเรื่องบันเทิงในส่วนเอเอฟเราสร้างต้นแบบที่เยาวชนดูเยอะ เพราะฉะนั้นจุดนี้เราต้องดูรายละเอียดให้ลึกมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ และกฎที่จะออกมาใหม่ต้องมีความชัดเจนเพิ่มขึ้นว่าถ้ามีประเด็นที่คล้ายคลึงกรณีน้องมาร์คมันก็อาจจะไม่สามารถเป็นเอเอฟได้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องดูต่อไปครับ"

มีคนตั้งข้อสังเกตว่าปีนี้เอเอฟรับเด็กอายุน้อย 15-25 ปี ซึ่งมีวุฒิภาวะค่อนข้างต่ำตรงนี้มีผลหรือเปล่า
"อายุ 15 ปีนี่เด็กมาก จริงๆ เราดูในแง่ความสามารถและพรสวรรค์ เด็กที่เข้ามาต้องการโอกาส คิดว่าถ้าเราขยายโอกาสก็เป็นเรื่องที่ดี เพียงแต่การสกรีนต้องดูเยอะขึ้น"

"ผมคิดว่าเคสของน้องมาร์คเป็นเคสที่น่าสงสารเหมือนกัน เรียนตรงๆ แบบนี้นะครับ น้องมาร์คคือเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่อาจจะใช้ภาษาผิด ตักเตือนก็รู้เรื่องแล้ว แต่ในเคสเขาไปติดกับภาวะการเมืองเยอะไป ผมคิดว่าเรื่องของน้องมาร์คก็จะกลายเป็นเคสที่ทำให้เด็กรุ่นต่อไปต้องพิจารณาการใช้สื่อออนไลน์ เป็นการสร้างมิติใหม่ของคนที่คิดจะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงหรือไม่มีความคิดจะก้าวเข้ามา แต่วันหนึ่งใครจะไปรู้ว่าคุณมีชื่อเสียงขึ้นมาข้ามวันข้ามคืน ฉะนั้นต้องรู้จักระมัดระวัง ตรงนี้น่าจะเป็นผลดีที่เกิดขึ้น"

ที่ว่าสกรีนมากขึ้นจะสกรีนอย่างไร
 "ในต่างประเทศการรับพนักงานเขาเช็กโซเชียล เน็ต เลยนะครับ จริงๆ การสัมภาษณ์พนักงานเราเชิญมาคุยต่อหน้า เรารู้จักผิวเผินมาก บางครั้งต้องเอาเรื่องโหงวเฮ้งมาช่วย ถ้าจะเอาแบบนิสัยจริงตอนนี้การสกรีนพนักงานเข้าทำงานในต่างประเทศเขาดูไปถึงระบบโซเชียล เน็ต คือเช็กหมดรอบด้าน เพื่อจะเข้าใจจริงๆ ว่าคนนี้มีไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร"

ตอนนี้ทางทรูฯ จะมีการช่วยเหลือน้องมาร์คอย่างไรต่อ
 "การที่น้องมาร์คสละสิทธิ์ถอนตัวก็ถือว่ายกเลิกสัญญาด้วย ไม่ใช่แค่สละไม่ขึ้นคอนเสิร์ต เราก็หารือกับคุณพ่อน้องว่าจะสนับสนุนเรื่องทุนการศึกษา เราต้องแสดงความรับผิดชอบบางส่วนด้วย"

หลังมาร์คออกไปมีผลกระทบกับยอดโหวตไหม
 "ไม่ครับ ช่วงที่ผ่านมามีคนจำนวนมากที่แอนตี้ไม่โหวตทั้งรายการ ซึ่งผมเรียนว่าเรื่องโหวตเป็นเรื่องรอง การผลิตรายการให้ทรูวิชั่นส์เป็นเรื่องหลัก เราถือว่านี่เป็นคอนเทนต์ที่ประสบความสำเร็จและดีอันหนึ่ง ถ้ามองในแง่รายได้ เราได้จากสปอนเซอร์โฆษณาเป็นหลัก ไม่ได้จากเรื่องโหวต เรื่องโหวตเป็นแค่รูปแบบรายการที่นำมาเป็นตัวช่วยตัดสินความนิยมของแต่ละคน เรื่องโหวตถือเป็นผลพลอยได้ครับ"