"เนื่องจากน้องมาร์คได้ขอถอนตัวออกจากรายการ ดังนั้นผู้จัดรายการจึงพิจารณาคืนค่าโหวตน้องมาร์ค ตั้งแต่เริ่มจนถึงวันสุดท้ายที่ปรากฏตัวในรายการให้แก่ผู้ชมและแฟนคลับที่โหวตให้กำลังใจ โดยจะดำเนินการคืนค่าโหวตดังกล่าวเป็นค่าโทรทรูมูฟตามมูลค่าที่แต่ละท่านได้โหวตให้แก่น้องมาร์ค เริ่มภายในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ผู้จัดรายการ ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย มีความเสียใจต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งขอแสดงความชื่นชมความกล้าหาญของน้องมาร์คที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ได้กระทำ และมีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สังคมไทยจะให้อภัยและให้โอกาสแก่น้องมาร์คที่เป็นเยาวชนได้แก้ไข และพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงให้สังคมได้ประจักษ์ต่อไป" ผู้จัดรายการชี้แจง
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ จะเป็นบทเรียนที่ดีแก่น้องมาร์ค ขณะเดียวกันเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนได้ตระหนักว่า ควรใช้ความระมัดระวังในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ หรือสื่ออื่นๆ ในการแสดงความคิดเห็นที่ต้องมีสมดุล และควบคุมได้ ผู้จัดรายการขอยืนยันว่า วัตถุประสงค์หลักของรายการ คือการให้สาระความบันเทิงแก่ผู้ชม และไม่มีนโยบายเกี่ยวข้องกับการเมือง ตลอดจนขอยืนยันว่า รายการนี้ไม่เคยคิดที่จะนำประเด็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มาใช้เป็นประโยชน์ทางการตลาดอย่างแน่นอน เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดผลดีในแง่ใดๆ แก่เยาวชน ผู้รับชมรายการ หรือผู้จัดรายการ หรือแก่ฝ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ด้านนายศรัทธา ศรัทธาทิพย์ หรือครูรัก ครูใหญ่บ้านเอเอฟ 7 เปิดเผยถึงกระแสหลัง "มาร์ค" ออกมาประกาศถอนตัวจากรายการว่า เสียงตอบรับไปในทางที่ดี เชื่อว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย ส่วนใหญ่เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าเสียดายมาร์ค บางคนก็ว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย ซึ่งกระแสตอบรับเป็นไปในทางที่ดี และโดยส่วนตัวเคารพการตัดสินใจของมาร์ค เพราะคงมีความรู้สึกที่ยากลำบาก เนื่องจากทุกอย่างถาโถมใส่เขา ใส่ครอบครัว ใส่รายการ
"ตอนนี้สภาพจิตใจของมาร์คดีขึ้นมาก หลังจากออกมาเคลียร์ตัวเอง ตัวเขาเองอยากชี้แจง ตอนแรกเขาไม่รู้ว่ากระแสมันรุนแรงแค่ไหน แต่พอเขารู้ว่ากระแสบางอย่างมันถูกบิดเบือนไปในทางที่รุนแรง เขาเลยอยากที่จะมาเคลียร์ตัวเองในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ ซึ่งก่อนที่เขาจะไปแถลงข่าว ผมเองได้คุยกับเขา แล้วผมบอกเขาว่าคุณไม่ได้เป็นจำเลย แค่เป็นเด็กคนหนึ่งที่ทำผิด ให้เขาพูดทุกอย่างตามความจริง สิ่งที่ทำก็ยอมรับ และสำนึกผิดกับสิ่งนั้น แต่สิ่งไหนที่เขาไม่ได้ทำ แล้วทุกคนตัดสินเขาไปแล้ว โดยแค่ฟังมาแล้วเชื่อเลย หรือเลือกที่จะเชื่อในแบบที่ตัวเองอยากจะเชื่อ ซึ่งผมว่าความคิดแบบนี้ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย" ครูใหญ่ของบ้านกล่าว พร้อมเล่าว่า รู้สึกเสียใจที่ถูกคนมองว่าเอเอฟ 7 สร้างเรื่องเพื่อเรียกกระแส
"สิ่งที่ผมเสียใจมากที่สุด คือที่คนบอกว่าทรูเอามาร์คมาเล่นเป็นกระแส มันน่าสลดว่าใครที่จะคิดแบบนั้น ใครเขาจะเอากระแส โดยการเผาบ้านเมือง เอาสถาบันเบื้องสูงมาปั่นเป็นกระแส ด้วยสถานการณ์แบบนี้ใครจะทำแบบนั้นได้ ผมเสียดาย ตอนแรกที่เลือกเขาเข้ามา เพราะเห็นในแววของเด็กคนนี้มีมุมมอง มีความเป็นตัวของตัวเอง และถ้าเทียบกันแล้วความสามารถทางการร้องเพลงของมาร์คในนักแข่งขันผู้ชายทั้งหมด ถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆ แล้วสิ่งที่ผมเสียดายมากที่สุดคือ เขาเดินมาพูดกับผมว่า พอเขาได้เข้ามาอยู่ในบ้าน ทำให้เขานิ่งขึ้น ไม่ก้าวร้าวเหมือนเมื่อก่อน มีความเข้าใจคนอื่นมาก และโตขึ้น ซึ่งผมเองไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นเด็กเลว ผมเชื่อว่าถ้าเขาถูกกล่อมเกลาให้มีอีคิวที่ดีมากยิ่งขึ้น เขาจะเป็นคนดีคนหนึ่ง" ครูรัก กล่าว
ขณะเดียวกันสำนักข่าวต่างประเทศ อย่างเอพี ตีข่าวว่า กรณีของมาร์ค วี 11 ที่ต้องประกาศถอนตัวจากการแข่งขัน เนื่องจากกระแสโต้เถียงกันไม่รู้จบเกี่ยวกับการโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีผ่านทางเฟซบุ๊กด้วยถ้อยคำหยาบคาย เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่แสดงถึงความแตกแยกร้าวลึกในสังคมไทย หลังจากการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ยุติลงด้วยเหตุรุนแรง
https://www.facebook.com/teeneedotcom