นายจอห์น ท้าวคำลือ บิดาของ "มาร์ค-วิทวัส ท้าวคำลือ" "V 11" แห่งรายการทรูอคาเดมี่แฟนเทเชีย ซีซั่น 7 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนปรินซ์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เปิดเผยกับมติชนออนไลน์ กรณีที่ลูกชายโดนกระแสข่าวโหมกระหน่ำ หลังมีผู้นำข้อความที่เคยโพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว มีเนื้อหาตำหนินายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กรณีสลายการชุมนุมเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
เปิดใจจอห์นพ่อมาร์ควี11บอกลูกชายเป็นคนจริงจังปากตรงกับใจแต่ไม่ก้าวร้าว-เรียนดีเกรดเฉลี่ย4.00
ว่า ตอนนี้ทางบ้านโดนเยอะมากมีคนโทรเข้ามาตลอด ในอินเตอร์เน็ตก็ด่ากันถึงต้นตระกูลเปลี่ยนจาก"ท้าวคำลือ" เป็น เป็น "ท้าวส้นตีน" ในฐานะพ่ออยากให้ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องที่ลูกชายคุยกันตามประสาเด็ก มี กู มึง คำด่าตามประสาวัยรุ่นโดยเฉพาะเด็กผู้ชาย
"ผมเคยสอนลูกว่าถ้าจะทำอะไรสักอย่างแล้วมันเกิดปัญหาให้หยุด และอย่าทำให้คนอื่นต้องสะดุด ถ้าจะเป็นตัวปัญหาให้หยุดดีกว่า และข้อความที่ลูกชายโพสต์ตอนที่อยู่เมืองนอกเขารับข่าวสารข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเห็นภาพเหตุการณ์ความรุนแรงจึงได้แลกเปลี่ยนคุยกับเพื่อนทางเฟซบุ๊คว่าหากนายกฯลาออกก็ไม่มีการเผา ซึ่งเขาคงไม่ได้คิดว่าจะเป็นเหลืองหรือแดง เป็นการแสดงความคิดความเห็นอย่างอิสระ คิดจริงทำจริง การแสดงออกจึงสุดๆ "
นายจอห์น กล่าวว่า ลูกชายเป็นเด้กเรียนดีได้เกรดเฉลี่ย 4.00 เป็นคนจริงจัง คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น แต่ไม่ใช่คนก้าวร้าว มีเหตุมีผล
มีความคิดที่ค่อนข้างจะเป็นผู้ใหญ่หรือโตเกินวัย หากตั้งใจอะไรไว้แล้วต้องทำให้ได้ และรู้จักคิดแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เมื่อก่อนว่ายน้ำไม่เป็นเพื่อนที่เป็นนักกีฬาทีมชาติมาถามว่าทำไมว่ายไม่เป็นเขาใช้เวลาฝึก 3 เดือนว่ายน้ำได้ เช่น ตอนนี้อยากเป็นนักร้องเขาก็ไปฝึกเรียกร้องเพลง แต่ความฝันของลูกชายที่เคยบอกไว้คือ อยากเป็นหมอเพื่อจะได้ช่วยรักษาคนที่ด้อยโอกาสเพราะที่บ้านเราจะคอยช่วยเหลือคนกลุ่มนี้อยู่แล้วเช่นเด็ก ม้ง กระเหรี่ยง คอยแนะนำให้มอบโอกาสให้เขาตามสมควร
"ผมเป็นเทรนเนอร์ให้เด็กที่ขาดโอกาสโดยเฉพาะเด็กชาวเขา เมื่อเรียนจบแล้วเขาไม่รู้จะไปทำอะไรเราก็จะไปช่วยแนะนำให้กำลังใจพร้อมกับหางานให้พวกเขางานนี้ทำมา 10 กว่าปีแล้ว มาร์คเคยบอกว่าจะเรียนแพทย์ด้านศัลยกรรมเพื่อจะได้มาช่วยคนที่ด้อยโอกาสได้มีโอกาสทำศัลยกรรมบ้างเพราะเขามองว่าสถาบันความงามมีไว้สำหรับคนรวยเท่านั้น เขาจึงคิดว่าอยากจะทำเพื่อคนไม่มีเงินบ้าง อย่างเด็กๆที่อยู่กับเราหน้าดำๆเขาก็อยากจะให้เด็กกลุ่มนี้ได้หน้าขาวๆบ้าง"
ซึ่งลูกชายทั้ง 3 คนจะรักการเล่นดนตรี ละเอียดอ่อน ก่อนที่มาร์คจะมาออดิชั่นเข้าบ้านแมคโนเลีย(เอเอฟ) เขาเป็นเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนไปศึกษาที่รัฐวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ปี และได้รับตำแหน่ง "Mr.Pasco high "เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะรางวัลนี้แสดงถึงความมีน้ำใจ และสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน เป็นนักดนตรีหาเงินให้โรงเรียน และกลับมาเมืองไทยก็เข้าบ้านเอเอฟเลย ครั้งสุดท้ายที่ได้พบลูก คือ เอาของใช้ส่วนตัวไปมอบให้ที่กรุงเทพฯพอกลับมาถึงเชียงใหม่ถึงได้รู้ข่าว
"ตอนนี้เป็นห่วงจิตใจลูกมาก ไม่รู้จะไปขอร้องใครให้ช่วยไม่รู้จะชี้แจงกับใครสื่อตีข่าวโครมๆดีที่ตอนนี้มาร์คไม่รับรู้อะไร พวกเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะน้องต้องกลับมาเรียนหนังสืออีก อยากให้กระแสลดลง และไม่อยากให้น้องออกจากบ้านรอบแรก ออกเป็นคนที่ 4-5 ก็ยังพอจะปลอบใจกันได้บ้าง ซึ่งทางบริษัททรูวิชั่นก็ให้ความกรุณาไม่ตามกระแสให้โอกาสเด็กที่ขาดโอกาสได้เป็นนักล่าฝัน"
นายจอห์น กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดคือกลัวว่าพอมาร์คออกมาจะเปลี่ยนใจจากแพทย์หันไปสนใจการเมืองเพราะเคยบอกว่าอยากเป็นนักการทูตหลังจากที่เขาได้ไปเรียนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
"ส่วนตัวแล้วผมมีความคิดว่าถ้ารู้ว่าปัญหาจะลุกลามเราหยุดเสียดีกว่าจึงได้สอนลูกแบบนั้น อยากให้ผู้ใหญ่เปิดกว้างคิดว่าเป็นเรื่องเด็กๆหากไม่ถือสาเรื่องคงจะจบ" นายจอนห์ กล่าวทิ้งท้าย
ทางด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว เรื่อง นายวิทวัส ท้าวคำลือ วิจารณ์ผ่านเฟสบุ๊ก โดยนายอภิสิทธิ์มีสีหน้างงๆ ต่อคำถามดังกล่าวก่อนที่จะเดินหนีไปทันที
https://www.facebook.com/teeneedotcom