เข้าสู่การเมือง
นายยุรนันท์ในฐานะที่ปรึกษา รมว.ศธ.
นายยุรนันท์ขณะหาเสียงเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนายยุรนันท์เริ่มเล่นการเมืองด้วยการเข้าสังกัดพรรคไทยรักไทยใน พ.ศ. 2548
ร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย
ผู้ช่วย น.ต.ศิธา ทิวารี
นายยุรนันท์เริ่มฝึกงานการเมืองในตำแหน่งผู้ช่วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร (น.ต.ศิธา ทิวารี)
ดำรงตำแหน่ง ส.ส.สมัยแรกและรองโฆษกรัฐบาล
จากนั้นใน พ.ศ. 2548 นายยุรนันท์ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใน เขต 11 กรุงเทพมหานคร ในนามพรรคไทยรักไทย และได้รับเลือก โดยนายยุรนันท์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย
ได้รับเลือกตั้งสมัยที่ 2 แต่เป็นโมฆะ
หลังจากนั้น พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ นายยุรนันท์ลงสมัครรับเลือกตั้งใน เขต 3 กรุงเทพมหานคร ในนามพรรคไทยรักไทย และได้รับเลือก แต่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ต่อมาเกิดการรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
ย้ายไปร่วมงานกับพรรคพลังประชาชน หลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบ
ลงชิงตำแหน่ง ส.ส.อีกสมัย
หลังจากนั้นในการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 นายยุรนันท์ลงสมัครรับเลือกตั้งใน เขต 3 กรุงเทพมหานคร (ดินแดง, ห้วยขวาง, วังทองหลาง และ ลาดพร้าว) ในนามพรรคพลังประชาชน แต่ไม่ได้รับเลือก
ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา รมว.ศธ.
ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ต่อมาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง โดยนายสมชายได้แต่งตั้งให้นายยุรนันท์ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ[1]
ต่อมาในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551 ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า การจัดรายการ "ชิมไปบ่นไป" และ "ยกโขยง 6 โมงเช้า" ของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ถือได้ว่าขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 และ มาตรา 182 วรรคหนึ่ง (7) ส่งผลให้ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยมติเอกฉันท์ 9-0 และเมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 จึงเป็นเหตุให้รัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 180 วรรค 1 (1) จึงทำให้นายยุรนันท์ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที และในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคพลังประชาชน จึงทำให้นายยุรนันท์ต้องย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย
ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย
ลงชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ต่อมาในช่วงบ่ายของวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551 พรรคเพื่อไทยมีมติหลังการประชุมว่าจะส่งนายยุรนันท์ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในครั้งนี้ นายยุรนันท์ได้รับหมายเลข 10[2][3] โดยผลการเลือกตั้งนายยุรนันท์ได้รับ 611,669 คะแนน เป็นอันดับที่ 2
https://www.facebook.com/teeneedotcom